โอวาทพระสุปฏิปันโน
ข้าพเจ้าได้คัดลอกเนื้อหาโอวาทธรรมพระสุปฏิปันโน จากหนังสือ "อภิมหามงคลธรรม" (แจกเพื่อธรรมทาน) ที่ระลึกเนื่องในงานคล้ายวันเกิดอายุครบ ๙๑ ปี ของพระมงคลภาวนาวิกรม (หลวงปู่ฟัก ภัททจารี) เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐ โดยชมรมเพื่อนชาวพุทธเป็นผู้รวบรวม ซึ่งข้าพเจ้าจะขอนำเสนอเฉพาะส่วนของเนื้อหาโอวาทพระสุปฏิปันโนทั้งหมด ๗๒ ตอน ดังนี้
สารบัญ
๔. พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
๕. หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
๖. หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
๗. หลวงพ่อเภา พุทธสโร
๘. พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ
๙. หลวงพ่อปาน โสนันโท
๑๐. หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร
๑๑. หลวงปู่จันทร์ เขมิโย
๑๒. หลวงปู่คำมี พุทธสาโร
๑๓. หลวงพ่อสด จันทสโร
๑๔. พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ
๑๕. หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ
๑๖. หลวงปู่ดี ฉันโน
๑๗. หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
๑๘. หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
๑๙. หลวงปู่คำแสน (ทิม) อินทจักโก
๒๐. พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล
๒๑. หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
๒๒. หลวงปู่ขาว อนาลโย
๒๓. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
๒๔. หลวงปู่สีโห เขมโก
๒๕. หลวงปู่เกตุ จันทสุวัณโณ
๒๖. หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร
๒๗. หลวงพ่อโอภาสี
๒๘. หลวงปู่กินรี จันทิโย
๒๙. ครูบาอินทจักรรักษา
๓๐. หลวงปู่โทน กันตสีโล
๓๑. หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
๓๒. หลวงปู่ครูบาพรหมา พรหมจักโก
๓๓. หลวงปู่บุดดา ถาวโร
๓๔. หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
๓๕. หลวงปู่อ่อน จักกธัมโม
๓๖. หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
๓๗. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
๓๘. หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ
๓๙. หลวงปู่คำดี ปภาโส
๔๐. หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต
๔๑. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
๔๒. หลวงปู่หลุย จันทสาโร
๔๓. เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
๔๔. ท่านพ่อลี ธัมมธโร
๔๕. หลวงพ่อแพ เขมังกโร
๔๖. ท่านพุทธทาสภิกขุ
๔๗. หลวงปู่มหาทองสุก สุจิตฺโต
๔๘. หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
๔๙. หลวงปู่ซามา อจุตฺโต
๕๐. หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต
๕๑. หลวงพ่อกัสสปมุนี
๕๒. หลวงพ่อชม อนังคโณ
๕๓. หลวงปู่สาม อกิญจโน
๕๔. หลวงปู่บุญ ชินวังโส
๕๕. หลวงพ่อเกษม เขมโก
๕๖. หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา
๕๗. หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
๕๘. หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร
๕๙. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
๖๐. หลวงพ่ออุตตมะ
๖๑. พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
๖๒. หลวงพ่อชา สุภัทโท
๖๓. หลวงปู่ศรี มหาวีโร
๖๔. หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
๖๕. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
๖๖. พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
๖๗. พระอาจารย์วัน อุตตโม
๖๘. หลวงปู่คำพอง ติสโส
๖๙. หลวงปู่เมตตาหลวง (หลวงปู่สิงห์ สุนทโร)
๗๐. หลวงปู่ถวิล จิณณธัมโม
๗๑. หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
๗๒. หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
ตอนที่ 1 - 9
http://www.dannipparn.com/thread-270-1-1.html
ตอนที่ 10 - 19
http://www.dannipparn.com/thread-270-2-1.html
ตอนที่ 20 - 29
http://www.dannipparn.com/thread-270-3-1.html
ตอนที่ 30 - 39
http://www.dannipparn.com/thread-270-4-1.html
ตอนที่ 40 - 49
http://www.dannipparn.com/thread-270-5-1.html
ตอนที่ 50 - 59
http://www.dannipparn.com/thread-270-6-1.html
ตอนที่ 60 - 69
http://www.dannipparn.com/thread-270-7-1.html
ตอนที่ 70 - 72
http://www.dannipparn.com/thread-270-8-1.html
ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
• หนังสืออภิมหามงคลธรรม (แจกเพื่อธรรมทาน) ที่ระลึกเนื่องในงานคล้ายวันเกิดอายุครบ ๙๑ ปี ของพระเดชพระคุณ พระมงคลภาวนาวิกรม (หลวงปู่ฟัก ภัททจารี) วัดเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐. ชมรมเพื่อนชาวพุทธ รวบรวม.
(แก้ไขข้อมูลล่าสุด : 21 กันยายน 2566)
รูปภาพที่แนบมา: S__42426372.1.jpg (2023-6-9 14:51, 493.89 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 216
รูปภาพที่แนบมา: l7.png (2023-6-9 14:51, 8 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 224
รูปภาพที่แนบมา: l28.png (2023-6-9 14:51, 4.01 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 211
รูปภาพที่แนบมา: IMG_5095.1.png (2023-6-9 14:51, 28.17 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 212
ตอนที่ ๑
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
อำนาจของกรรมใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก ไม่มีอำนาจใดอาจทำลายได้ แม้อำนาจของกรรมดีก็ไม่อาจทำลายอำนาจของกรรมชั่ว และอำนาจของกรรมชั่วก็ไม่อาจทำลายอำนาจของกรรมดี อย่างมากที่สุดที่มีอยู่คือ อำนาจของกรรมดี แม้ทำให้มากให้สม่ำเสมอในภพภูมินี้ ก็อาจจะทำให้อำนาจของกรรมชั่วที่ได้ทำมาแล้ว ตามมาถึงได้ยาก
ธรรมสำคัญประการหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ คือ เมตตาธรรม ...ใครทั้งหลายก็สรรเสริญบรรดาผู้มีเมตตาธรรม ในขณะเดียวกันก็มีผู้ต้องเป็นทุกข์เพราะมีเมตตา ด้วยหลงเข้าใจว่า เมื่อมีเมตตามีความสงสารก็ต้องมีใจไม่เป็นสุข ซึ่งที่จริงหาถูกต้องไม่
มีเมตตาต่อเขาผู้เป็นทุกข์นั้นดีนัก แต่อย่าลืมเมตตาตน ตนเองปล่อยให้ใจตนเองเป็นทุกข์เพราะเมตตาเขา ไม่มีอำนาจใดจะไปสู้กับอำนาจกรรมของใครได้ เมื่อเชื่อในเรื่องอำนาจกรรมเช่นนี้ ใจที่มีเมตตาก็จะเป็นการมีเมตตาอย่างถูกต้อง อย่างมีปัญญา ไม่พาใจตนเองไปสู่ความเร่าร้อนด้วยความเมตตาที่ไม่ถูกต้อง
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:10, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 199
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:12, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 195
ตอนที่ ๒
สมเด็จพระวันรัตน์
(ทับ พุทฺธสิริ)
วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
“ เพ่งอิฐเป็นกรรมฐาน
เยี่ยมป่าช้าหาอรรถธรรม
พิจารณาความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:13, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 214
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:13, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 201
ตอนที่ ๓
หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน, วัดวังตะโก) อ.โพทะเล จ.พิจิตร
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:14, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 227
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:14, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 229
ตอนที่ ๔
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
(จันทร์ สิริจันโท)
วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:15, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 210
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:15, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 241
ตอนที่ ๕
หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
(พระครูวิเวกพุทธกิจ)
วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:15, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 199
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:15, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 210
ตอนที่ ๖
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:16, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 220
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:16, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 195
ตอนที่ ๗
หลวงพ่อเภา พุทธสโร
(พระครูพุทธสราจารย์)
วัดถ้ำตะโก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:16, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 218
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:16, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 213
ตอนที่ ๘
พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ
(พระครูพิศิษฐ์อรรถการ)
วัดสวนขัน และวัดธาตุน้อย อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:18, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 176
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:18, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 192
ตอนที่ ๙
หลวงพ่อปาน โสนันโท
(พระครูวิหารกิจจานุการ)
วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:19, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 190
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:19, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 216
ตอนที่ ๑๐
หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร
วัดเทพสิงหาร อ.นายูง จ.อุดรธานี
“ จิตมนุษย์มีพลังมหาศาล จะทำอะไรก็มักสำเร็จ ก็เพราะมีดวงจิตที่เป็นกำลังสำคัญ จิตดวงเดียวสำคัญที่สุด...จิตมันบอกลักษณะไม่ได้ แต่มันก็มีความสำคัญที่สุด...จิตมันบอกลักษณะไม่ได้ แต่มันก็มีความรู้สึกอยู่ภายใน เว้นแต่ว่ามนุษย์เกิดมาแล้ว จะเอาดีหรือเอาชั่วเท่านั้น มันเป็นขั้นตอนอยู่ตรงนี้ ถ้าเอาดีก็ต้องได้ของประดับตัวแน่นอน... ”
“ มนุษย์ควรเจริญด้วยธรรม ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่ผู้ปกติในข้อวัตรปฏิบัติธรรม คือ ความดีมีศีลธรรมนั้นเองจะช่วยได้… ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:19, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 71
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:19, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
ตอนที่ ๑๑
หลวงปู่จันทร์ เขมิโย
วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:20, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:20, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63
ตอนที่ ๑๒
หลวงปู่คำมี พุทธสาโร
วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.ลพบุรี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:20, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 74
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:20, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63
ตอนที่ ๑๓
หลวงพ่อสด จันทสโร
(พระมงคลเทพมุนี)
วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
“ ว่าในด้านภาวนา.....กายนี้ซ้อนกันเป็นชั้นๆ คือ มีกายทิพย์ซ้อนอยู่ในกายมนุษย์ กายรูปพรหมซ้อนอยู่ในกายทิพย์ กายอรูปพรหมซ้อนอยู่ในกายรูปพรหม กายธรรมซ้อนอยู่ในกายอรูปพรหม คนเราที่ว่าตายนั้นคือ กายทิพย์กับกายมนุษย์หลุดพรากออกจากกันเหมือนมะขามกะเทาะจากเปลือก ฉะนั้นกายทิพย์ก็หลุดจากกายมนุษย์ไปฯ ”
“ สุขในฌานอะไรจะไปสู้ ในภพนี้ไม่มีสุขเท่าถึงดอก สุขในฌานนะ...สุขลืมสมบัตินั่นแหละ สมบัติกษัตริย์ไม่อยากได้ สุขในฌานนะ สุขนักหนาทีเดียว เต็มส่วนความสุขก็หนึ่ง เฉยวิเวกเปลี่ยวเปล่า เรามาคนเดียว ไปคนเดียวหมดทั้งสากลโลก คนทั้งหลายไปคนเดียวทั้งนั้น ไม่มีคู่สองเลย ไม่ว่าอะไรไม่ยึดถือทีเดียว เรือกสวนไร่นา ตึกร้านบ้านช่อง ก่อนเราเกิดเขาก็มีอยู่อย่างนี้ เห็นดิ่งลงไปทีเดียว เข้าปฐมฌานเข้าแล้ว เห็นดิ่งลงไปเช่นนี้ฯ ”
“ การปฏิบัติ...ไม่หยุดไม่ถึงพระ...ตัวหยุดนี่แหละเป็นตัวสำเร็จ ”
“ พระรัตนตรัยเป็นแก้วจริงๆ หรือเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปริยัติเข้าใจตามอักขระแล้ว เป็นอันเปรียบด้วยแก้ว...ถ้าเป็นทางปฏิบัติแล้ว เป็นแก้วจริงๆฯ... ”
“ ภาวนัง ภาเวติ ทำให้จริง ทำให้หยุดให้นิ่ง ทำให้มีให้เป็นขึ้น กี่ร้อยกี่พันคนก็นอนหลับสบาย กี่คนๆ ก็สงบนิ่ง เมื่อสงบนิ่งแล้ว มีคนสักเท่าไร ก็ไม่รกหูรกตา ไม่รำคาญไม่เดือดร้อน เป็นสุขสำราญเบิกบานใจเป็นนิจ นี่เขาเรียกว่า ภาวนา ทำให้ใจหยุดสงบฯ
ในการบำเพ็ญภาวนา ความเพียรเป็นข้อสำคัญยิ่ง ต้องทำเสมอทำเนืองๆ ในทุกอิริยาบถไม่ว่านั่ง นอน เดิน ยืน และทำเรื่อยไป อย่าหยุด อย่าละ อย่าทอดทิ้ง อย่าท้อแท้ มุ่งรุดหน้าเรื่อยไป ผลจะเกิดวันหนึ่งไม่ต้องสงสัย ผลเกิดอย่างไร ท่านรู้ได้ด้วยตัวของท่านเองฯ ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:20, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 73
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:20, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 74
ตอนที่ ๑๔
พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ
วัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
“ ...เมื่อบวชเข้ามา
ก็ต้องเอาดีให้ได้
แล้วไม่คิดสึก...
ถ้าบวชแล้วคิดสึก...
ก็ไม่ควรจะบวช
ให้เปลืองผ้าเหลือง ! ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:21, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:21, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 91
ตอนที่ ๑๕
หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ
(พระราชสังวราภิมณฑ์)
วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:21, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:21, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
ตอนที่ ๑๖
หลวงปู่ดี ฉันโน
วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:21, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:21, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
ตอนที่ ๑๗
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
(พระราชวุฒาจารย์)
วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
“ จิตนื้คือพุทโธ จิตนี้คือธรรม เป็นสภาวะพิเศษที่ไม่ไปไม่มา เป็นความบริสุทธิ์ล้วนๆ จิตนี้เหนือความดีและความชั่วทั้งปวง ซึ่งไม่อาจจัดเป็นลักษณะรูปหรือนามได้
หลักธรรมที่แท้จริงคือจิต...จิตของเราทุกคนนั้นแหละคือหลักธรรมสูงสุดที่อยู่ในจิตใจของเรา นอกจากนั้นแล้ว มันไม่มีหลักธรรมใดๆ เลย
จิตนี้แหละคือหลักธรรม ซึ่งนอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่ใช่จิต แต่จิตนั้นโดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต ดังที่ท่านได้ปรารภไว้ว่า จิตนั้นมิใช่จิตดังนี้ นั่นแหละย่อมหมายถึง สิ่งบางสิ่งซึ่งมีอยู่จริง
ขอให้เลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น เมื่อนั้นเราอาจกล่าวได้ว่า คลองแห่งคำพูดได้ถูกตัดขาดไปแล้ว พิษของจิตก็ได้ถูกถอนขึ้นจนหมดสิ้น จิตในจิตก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ ซึ่งมีอยู่ประจำอยู่แล้วในทุกคน ”
“ คติประจำใจ = ...อย่าส่งจิตออกนอก...
ปริศนาธรรม = ...หยุดคิด...หยุดนึก...!
ธรรมะ = ...จงเข้าไปสู่สิ่งสงบเงียบให้ได้ลึกซึ้ง โดยการลืมต่อสิ่งนี้ด้วยตัวเราเอง. สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรานี้แหละ (สติ) คือสิ่งๆ นั้นในอัตราที่เต็มที่ทั้งหมด ทั้งสิ้น และสมบูรณ์ถึงที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรนอกไปจากนี้เลย...! ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:22, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 82
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:22, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
ตอนที่ ๑๘
หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
(พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์)
วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:22, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:22, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
ตอนที่ ๑๙
หลวงปู่คำแสน (ทิม) อินทจักโก
(พระครูสุคันธศีล)
วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
“ ศีลบริสุทธิ์ ถือสัจจะบริสุทธิ์ ถือหลักธรรมพรหมวิหารธรรม ๔ ประการอันบริสุทธิ์ เพื่อเสริมสร้างบารมีธรรม สัจจบารมีนี้สำคัญ ถ้ามีสัจจะแล้วทำอะไร ปฏิบัติอะไร ก็จะได้ผลเสมอ แม้เรากำลังน้อยทำไม่ไหว ก็ยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นตัวท่านช่วยประคองให้จนได้พบกับความสำเร็จนะเออ... เออ...สร้างให้ดี สร้างให้จบก็จะสิ้นทุกข์ ไม่ยากไม่ลำบากอีกต่อไป ทำดีไปเถิด
ศีลเป็นรากแก้วของชีวิต จะทำดีมีชื่อเสียงได้ก็ด้วยศีลธรรมนี้เอง...ใครมีศีลผู้นั้นเป็นเทวดา...ผู้ใดรักษาศีลได้มั่นคง ผู้นั้นมีสติสัมปชัญญะแล้ว เพราะศีลนี้ทำให้กาย วาจา ใจ ของมนุษย์สูงขึ้น...ถ้ายังมุ่งหวังอยากได้สมาธิ ก็ต้องมีศีล...อยากได้ปัญญาก็รักษาศีลเสียก่อน ได้ศีลแล้ว ธรรมะจะเกิดขึ้นในตัวเราเอง
ธรรมะอยู่ที่ไหนล่ะ...อยู่ที่ใจ อยู่ที่ตัวเรานี้...ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ มันเป็นเรื่องเฉพาะตัว...มีเป็นธรรมดา จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ของใครของมันนะ
ธรรมะอยู่ในกายเรานี้แล้วทุกอย่าง...สติปัญญา เอามาเป็นเครื่องวัด วัดมันไปทุกๆ วัน เราจะได้รู้ว่าอะไรตกต่ำบ้าง เมื่อตกต่ำเราก็รีบสร้างให้ปกติอย่าพร่อง บุญกุศลเป็นเรื่องของดีบริสุทธิ์...จำไว้นะ ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:22, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 76
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:22, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 71
ตอนที่ ๒๐
พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล
วัดแสนสำราญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
“ “ธรรมปัญญา” ...ท่านพระบรมครูเจ้าทรงตรัสรู้... “อะไรในโลกที่ชื่อว่า อาวุธแล้วไม่สามารถจะนำมาต่อสู้กับกิเลสได้เลย นอกเสียจากธรรมะและปัญญาเท่านั้น”
ดังนั้น ผู้ที่จะมีอาวุธวิเศษเช่นนี้ได้ แล้วรักษาให้อยู่ตัวได้แล้ว ต้องอาศัยหลักรักษาเสมอด้วยชีวิต นั่นคือ...ต้องมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา...เท่านั้น ซึ่งจะรวมมาอยู่ที่จิตใจภายในของเรา เป็นคลังอาวุธ
ดังนั้น กิเลสมาร ที่ฉลาดแหลมคม จึงมักแอบเข้ามาเผาจิตใจ คือที่เก็บคลังอาวุธนี้เสีย เพราะมัวเกรงกลัวนัก
...บุคคลที่เร่าร้อนกระวนกระวาย ทุกข์ยากลำบากลำเค็ญอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็เพราะถูกกิเลสมารแอบเข้ามาเผาจิตใจได้นั่นเอง ไฟกิเลสนี้ยากนักหนาที่จะดับมันได้ ถ้าไม่ได้พระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าสู่จิตใจ...
พระพุทธเจ้าและพระสาวกเจ้าทั้งหลาย ทรงเตือนว่า.....“ให้มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม จงรีบลงมือปฏิบัติฝึกฝนจิตใจให้แก่กล้าด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา เสียบัดนี้ จึงจะไม่เสียทีกิเลสทั้งภายนอกและภายใน” ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:23, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:23, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 74
ตอนที่ ๒๑
หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
วัดอรัญญวิเวก อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:23, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:23, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 83
ตอนที่ ๒๒
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:23, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 81
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:23, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 87
ตอนที่ ๒๓
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:24, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:24, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
ตอนที่ ๒๔
หลวงปู่สีโห เขมโก
วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น
“ การอยู่วัดวาอารามนี้
ย่อมใกล้ชิดกับชาวบ้าน
ทำให้ใกล้ความประมาท
ถ้าแม้ทรงจิตไม่ได้
กิเลสจะเข้าเกาะกุมทำให้จิตใจกำเริบ
จึงควรหลีกหนีสิ่งเหล่านี้
เข้าป่าดงพงไพรในภาคต่างๆ อยู่เป็นนิตย์... ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:24, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:24, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 71
ตอนที่ ๒๕
หลวงปู่เกตุ จันทสุวัณโณ
วัดศรีเมือง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:24, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:24, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 88
ตอนที่ ๒๖
หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร
วัดดอนมูล อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
“ การเจ็บป่วยของเรา...
ไม่สามารถหยุดการภาวนาไปได้เลย
นอกเสียจากความตายเท่านั้น...
ลมหมด ก็หมดเรื่อง ไม่ภาวนา...
แม้ไม่จบ หรือจบสุด แต่ความดี
จะทำไป ไม่หวังอะไรเลย ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:24, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:24, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 76
ตอนที่ ๒๗
หลวงพ่อโอภาสี
(พระมหาชวน มะลิพันธ์)
วัดหลวงพ่อโอภาสี, อาศรมบางมด กรุงเทพมหานคร
“ ฉันน้อยทำความเพียรมาก
ขัดเกลากิเลสออกจากจิตใจ
ไม่คำนึงถึงลาภสักการะ
ยศถาบรรดาศักดิ์
...ขอกำจัดพญามารและเสนามารน้อยใหญ่
ที่คอยมารบเร้าจิตใจให้ราบคาบสิ้นไปเท่านั้น...! ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:25, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 83
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:25, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
ตอนที่ ๒๘
หลวงปู่กินรี จันทิโย
วัดกัณตะศิลาวาส อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
“ พุท-โธ อยู่ที่ไหน ?... ไม่ต้องไปมองที่อื่น อยู่ที่ใจเรานี่เอง... ”
“ พุท-โธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน... ตื่น, รู้ เบิกบานในใจเมื่อไร...เมื่อนั้น จิตใจก็งดงาม !
งาม...แปลว่า ดี ถ้ามันดีแล้ว มันก็เกิดความพอ...ถ้ามันพอแล้วก็ดี ให้พากันเข้าใจอย่างนี้ ในความดีงามให้มันบริสุทธิ์จริงๆ เพราะนั่นเป็นทางมนุษย์สวรรค์ และพระนิพพาน ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:25, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 75
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:25, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 78
ตอนที่ ๒๙
ครูบาอินทจักรรักษา
(พระสุธรรมยานเถร)
วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:25, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:25, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 88
ตอนที่ ๓๐
หลวงปู่โทน กันตสีโล
(พระครูพิศาลสังฆกิจ)
วัดบูรพา อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:26, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:26, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
ตอนที่ ๓๑
หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
วัดราษฎร์สงเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
“ การปฏิบัติมี สติ ตัวเดียวเท่านี้... มันจะแจ้งหมดโลก ”
“ ผีมันนอนดูเราทำบาป...เราฆ่าหมูฆ่าไก่ให้มันกิน สังเวยมัน มันไม่มีบาปเพราะไม่ใช่คนทำ...เราทำเองเป็นคนฆ่า บาปกรรมก็ตกอยู่ที่เรา ! ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:38, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:38, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
ตอนที่ ๓๒
หลวงปู่ครูบาพรหมา พรหมจักโก
(พระสุพรหมยานเถร)
วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:39, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:39, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
ตอนที่ ๓๓
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:39, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:39, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 54
ตอนที่ ๓๔
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:40, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 52
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:40, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
ตอนที่ ๓๕
หลวงปู่อ่อน จักกธัมโม
(พระราชธรรมานุวัตร)
วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
“ การเรียนรู้เป็นการสะสมเรียนไม่สามารถจบสิ้นได้...
แต่การปฏิบัติเป็นเรียนที่สามารถจบกิจพ้นกิเลส พ้นทุกข์ได้...
ให้ทุกคนรักษาศีล ๕ ศีล ๘ อย่างเคร่งครัด
พยายามให้สงบเท่านี้เป็นพอ
ให้ทุกคนท่องบ่นอยู่เป็นประจำ
จะได้พบกับความสุขความเจริญ อันตรายไม่เข้าใกล้
ไม่มีการก่อเวรทั้งหลายทั้งปวง ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:42, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:42, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 59
ตอนที่ ๓๖
หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม
วัดสิริสาลวัน บ้านโนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:43, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 72
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:43, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 54
ตอนที่ ๓๗
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
(พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์)
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:43, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 49
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:43, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
ตอนที่ ๓๘
หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ
(พระครูสีลขันธ์สังวร)
วัดพระงามศรีมงคล อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:43, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 55
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:43, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 56
ตอนที่ ๓๙
หลวงปู่คำดี ปภาโส
(พระครูญาณทัสสี)
วัดถ้ำผาปู่ อ.เมือง จ.เลย
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:44, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:44, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 45
ตอนที่ ๔๐
หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต
วัดจันทราราม อ.เมือง จ.หนองคาย
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:48, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 55
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:48, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 79
ตอนที่ ๔๑
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย
“ อวิชชามันพาให้เกิด
เมื่อถึงจะต้องตาย ก็ขอปลดอวิชชาไว้ข้างหลัง
ให้เข้าป่าเข้าดงไป เราไม่ต้องการอีกต่อไป
ขอให้เชื่อจิตเชื่อธรรมนั้นเถิด เป็นเอกในโลกทั้งสามนี้แน่นอน... ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:48, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 72
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:48, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
ตอนที่ ๔๒
หลวงปู่หลุย จันทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:48, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 92
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:48, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
ตอนที่ ๔๓
เจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
(ธัมมวิตักโก ภิกขุ)
วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
“ ไม่มีความสุขใดๆ ในชีวิตฆราวาสที่จะไม่มีความทุกข์
ที่แทรกซ้อนอยู่ในความสุขนั้นๆ ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:49, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 89
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:49, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 75
ตอนที่ ๔๔
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
(พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์)
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:49, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:49, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
ตอนที่ ๔๕
หลวงพ่อแพ เขมังกโร
(พระธรรมมุนี)
วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:49, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:49, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 73
ตอนที่ ๔๖
ท่านพุทธทาสภิกขุ
(พระธรรมโกศาจารย์)
วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:50, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:50, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 73
ตอนที่ ๔๗
หลวงปู่มหาทองสุก สุจิตฺโต
(พระครูอุดมธรรมคุณ)
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
“ ถ้าจะตาย ก็ขอตายในสมาธิ ขอถวายชีวิต ”
“ ผู้บวชเป็นพระครองผ้าเหลือง...
ได้ชื่อว่า สมณศากยบุตร ต้องรักษาพระวินัย
ยิ่งกว่าชีวิต...พระภิกษุนั้น จะต้องปฏิบัติ
ตามพระธรรมวินัย จึงจะเป็นพระที่ดี
ถ้าล่วงพระวินัยแล้ว เป็นพระเลว ! ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:50, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 72
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:50, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
ตอนที่ ๔๘
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
(พระญาณสิทธาจารย์)
วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:50, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:50, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 74
ตอนที่ ๔๙
หลวงปู่ซามา อจุตฺโต
วัดป่าอัมพวัน อ.เมือง จ.เลย
“ การปฏิบัติธรรมความดีบริสุทธิ์ เป็นกำไรของจิตใจเราจะได้หมดทุกข์เสียที
อาตมาเคยใช้กรรมครั้งหนึ่งเกือบตายมาแล้ว คือ รถไปคว่ำ...การไปให้รถคว่ำได้มีพระอาจารย์หลายองค์ มีอาจารย์ท่อนเป็นต้น...ความสำคัญมั่นหมายไม่ได้อยู่กับตอนรถคว่ำนั้นหรอก เพราะเป็นเรื่องธรรมดาเชิงขบขันมากกว่า แต่ความสำคัญในทางธรรมะนี้ซี ทำให้อาตมารู้ซึ้งถึงแก่นใจเลยทีเดียว จึงมาแนะนำญาติโยมว่า
...ปฏิบัติไปเถิดธรรมสมาธินี้ เมื่อใครได้ปฏิบัติแล้ว แม้ถึงคราววิบัติ ธรรมะก็ช่วยไม่ได้ แต่ธรรมะช่วยเป็นเกราะแก้วเกราะขวัญของพวกเราเป็นอย่างดียิ่ง เป็นอะไรล่ะ...เป็นพุทธรักษา ธรรมรักษา สังฆรักษา รักษาให้พ้นความตายได้จริงๆ
...ภูมิธรรมเกิดขึ้นมากในช่วงนั้น ขณะเจ็บอยู่นะ...อาตมารู้วิธีตอนที่เราจะตายควรไปฝากกับใคร...แล้วพวกโยมก็ควรปฏิบัติบ้างจึงจะรู้ชัดเจนนะ ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:50, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:50, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
ตอนที่ ๕๐
หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต
วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:51, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 53
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:51, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 56
ตอนที่ ๕๑
หลวงพ่อกัสสปมุนี
วัดปิปผลิวนาราม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:51, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 75
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:51, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
ตอนที่ ๕๒
หลวงพ่อชม อนังคโณ
วัดทุ่งยาว (วัดเขานันทาพาสุภาพ) อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:52, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:52, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
ตอนที่ ๕๓
หลวงปู่สาม อกิญจโน
วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:52, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 76
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:52, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
ตอนที่ ๕๔
หลวงปู่บุญ ชินวังโส
(พระครูวิมลญาณวิจิตร)
วัดป่าศรีสว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
“ คนเรานั้นจะอยู่ที่ไหนก็สะดวกสบาย
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษา ก็บุคคลนั้นเจริญด้วย
ศีล สมาธิ ปัญญา
ต้องเจริญด้วยศีลธรรมนะ ปลอดภัยทุกประการ
ทั้งนี้ เรามีที่พึ่ง
คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ นั่นเอง ”
“ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:52, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:52, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
ตอนที่ ๕๕
หลวงพ่อเกษม เขมโก
สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:52, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:52, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 71
ตอนที่ ๕๖
หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
“ อย่าเข้าใจว่า มาทำบุญที่นี่จะตัดบาปตัดกรรมตัดเวรได้นะ ตัดไม่ได้...เว้นแต่กรรมที่เบาหรืออโหสิกรรมตัดได้ พวกนั้นตัดได้...ก็พระพุทธเจ้ายังตัดไม่ได้ พระมหาโมคคัลลาน์มีฤทธิ์สุดขีด ไม่มีองค์ไหนจะมาเทียมถึง ก็ตัดไม่ได้
จึงขอฝากไว้ อย่าหลับหูหลับตาฟัง แต่คนไม่รู้หาว่าท่านครูบา หลวงพ่อวัดพระพุทธบาทจะมาตัดกรรมตัดเวรตัดไม่ได้หรอก แต่ถ้าเป็นอโหสิกรรมได้ทำผิดพูดผิดต่อใครๆ เจ้าตัวเองต้องขอตัดเอาเอง
อโหสิกรรมถือว่าตัดได้ก็ต้องตัดเอง จะต้องขอเอง ให้คนอื่นไปขอไม่ได้ ไม่พ้นจากกรรม เราต้องขอเอง ต้องอ่อนน้อมกล่าวคำสารภาพกับตัวเขา เขาจึงจะอโหสิงดโทษให้เรา... ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:53, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:53, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
ตอนที่ ๕๗
หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
วัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
“ อาจารย์ท่านสอนปฏิบัติภาวนา จิตสงบแล้วก็เห็นของจริงคือ ทุกข์...จิตสงบลงแล้วก็รู้ทุกข์มันหยุดอยู่ตรงนั้น เพราะทุกข์มันเป็นของหยาบ...นี่ พระพุทธเจ้าท่านถึงพูดว่า...ทุกขสัจ...ท่านสอนให้เรากำหนดรู้ตรงนี้...พอจิตสงบอยู่ เราก็รู้ที่อยู่ของมันเลย...
ผู้ที่ว่าจิตสงบๆ...แต่ไม่พบตัวทุกข์ละก็...ยังสงบไม่จริง...พูดไปเปล่าๆ เท่านั้นยังอีกไกลกว่าจะเห็นมัน ตัวทุกข์แท้ๆ นี่
คนเราเดี๋ยวนี้น่ะ...ร้องโอ๊ย ! พอร้องแล้วก็ยิ้มร่า อย่างนี้มันไม่มีสติไม่มีปัญญานะเออ...จำไว้...! ไม่รู้จักตัวทุกข์หรอก...นี่... ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:53, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:53, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 56
ตอนที่ ๕๘
หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร
วัดประชาชุมพลพัฒนาราม อ.เมือง จ.อุดรธานี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:53, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 56
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:53, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
ตอนที่ ๕๙
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
(พระธรรมวิสุทธิมงคล)
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
“ ผู้มีสติปัญญาย่อมรู้ธรรมขั้นละเอียดอ่อนได้ไม่ยากนัก สามารถรู้เล่ห์เหลี่ยมกิเลสภายในจิตใจไม่ว่าซอกไหนมุมใด...ท่านจะจับออกมาสับโขกอย่างไม่ปรานี...กิเลสเป็นตัวโรคร้าย และไม่สามารถมองมันเห็นด้วยตาเปล่าหรือกล้องส่อง...เมื่อใครมีกิเลสส่วนใดชนิดใดแล้ว ภายในตัวกิเลสมันจะกัดกินใจของบุคคลนั้นอย่างไม่มีวันพอ...จนตายนั่นแหละ มันจึงปล่อย...!
ธรรมะเป็นอาวุธสำคัญที่กิเลสหวั่นไหวเกรงกลัว เพราะรู้ทันกลอุบายของมัน.. ผู้ปฏิบัติจะมีความอิ่มแห่งธรรมเหมือนอิ่มอาหาร จะเข้าใจกันเองไม่ต้องถาม เพราะธรรมเป็นของอิ่มของพอ แต่กิเลสมันไม่เคยมีความอิ่ม มันหิวกระหายอยู่เป็นนิจ...
คนเราถ้ามีกิเลสเต็มตัวแล้ว...มันก็เหมือนหมูเราดีๆ นี่เอง กินแล้วนอนๆ จนอ้วนพี เขาก็นำไปขึ้นเขียงสับบั่นเท่านั้น !... ฉะนั้น ผู้ปฏิบัติธรรมเขาจึง ไม่เลี้ยงกิเลส...เขาทำลายกิเลสทั้งนั้น...
พระอริยเจ้าทั้งหลายในอดีตที่ผ่านมา ท่านรู้ทันกิเลส... เมื่อกิเลสโผนมา ธรรมะโผนไป...กิเลสโหดร้าย ธรรมะโหดดี...อยากทราบต้องออกแนวรบ... นักปฏิบัติคือนักรบ คือเป็นต้องเป็น ตายต้องตาย จึงจะเอากิเลสอยู่...กิเลสมีเท่าไหร่ ธรรมะต้องมีเท่านั้น ! ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:54, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 55
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:54, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 54
ตอนที่ ๖๐
หลวงพ่ออุตตมะ
(พระราชอุดมมงคล)
วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:59, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 59
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:59, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 50
ตอนที่ ๖๑
พระราชพรหมยาน
(วีระ ถาวโร)
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
หลวงพ่อสอนลูกๆ ทุกคน
“ จงมีความรู้สึกอยู่เสมอว่า ถ้าเรายังไม่เป็นพระอรหันต์เพียงใด ในเวลานี้ก็ชื่อว่าเรายังไม่เป็นคนดี เราจะพยายามเก็บความชั่วทุกอย่างที่มันขังอยู่ในจิต ทำลายให้มันตายสนิท อย่าให้เกิดขึ้นมา เมื่อกิเลสคือความชั่วตายหมด ชื่อว่าจิตว่างจากความชั่ว จงทรงไว้แต่ความดี และก็ว่างจากความทุกข์ จะทรงไว้แต่เพียงความสุขอย่างเดียว หวังว่าลูกรักของพ่อคงจำไว้
ขึ้นชื่อว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ว่าความตายเป็นของเที่ยง ก่อนที่เราจะตาย จงคิดว่าเราจะตายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และไม่มีการตายต่อไป นั่นคือ พระนิพพาน พ่อมั่นใจในกำลังใจและความดีของลูกว่า พระนิพพานสมบัติ จะไม่ขาดไปจากกำลังจิตของลูก แต่สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ลูกของพ่อต้องได้แน่นอน นี่เป็นความหวังของพ่อ แต่ทว่า ถ้าลูกรักของพ่อลืมความดีนั้นเมื่อไร จิตใจไปพัวพันอยู่ในราคะก็ดี ความหลงก็ดี เป็นอันว่าลูกกับพ่อนี้ต้องแยกทางเดินกัน ไม่ใช่พ่อโกรธลูก แต่ว่าเวลาตายจริงๆ เราตามกันไม่ไหว
ในสายตาของคนอื่น เขาอาจจะเห็นว่าลูกเลว แต่ขอลูกทั้งหลายจงคิดว่า นั้นเป็นเรื่องความรู้สึกนึกคิดของบุคคลแต่ละคน แต่พ่อเองมีความรู้สึกว่า “คนจะดีหรือคนจะเลว มันขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรม” ก่อนที่เราจะเกิดมานี่ เราทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ขณะใดถ้ากรรมที่เป็นอกุศลมันให้ผล ขณะนั้นลูกของพ่อก็อาจจะมีความคิดผิด พูดผิด กระทำผิดไปได้ เป็นของธรรมดา แต่ขณะใดกรรมที่เป็นกุศลกรรมให้ผล บรรดาลูกรักของพ่อก็จะทำถูก คิดถูก พูดถูกอยู่เสมอ
เรื่องนี้ถึงแม้ว่าตัวของพ่อเองก็ประสบมามาก ถือว่าเป็นความรู้สึก เมื่อลูกรักบางท่านบางคนคิดพลาด พูดพลาด กระทำพลาดไป ถือว่านั่นเป็นกฎของกรรม เดิมทีเราทำมาแล้วไม่ดี ในชาตินี้เรามาแก้ตัวกันใหม่ พยายามทำความดีเสียทุกอย่างเพื่อเป็นการหักล้างความชั่วเดิม เพื่อผลที่เราจะพึงได้ต่อไป นั่นก็คือ พระนิพพาน ”
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 02:59, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 02:59, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 59
ตอนที่ ๖๒
หลวงพ่อชา สุภัทโท
(พระโพธิญาณเถร)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:00, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 57
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:00, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 54
ตอนที่ ๖๓
หลวงปู่ศรี มหาวีโร
(พระเทพวิสุทธิมงคล)
วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:00, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 46
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:00, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 51
ตอนที่ ๖๔
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
(พระสุธรรมคณาจารย์)
วัดอรัญญบรรพต (พระสุธรรมเจดีย์) อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:00, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:00, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
ตอนที่ ๖๕
พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:01, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 48
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:01, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
ตอนที่ ๖๖
พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
“ ถ้ารู้ธรรม...ก็ขอให้สักแต่ว่ารู้ เมื่อรู้แล้วก็นำธรรมะนั้นมาฟอกซักชำระเสียให้สะอาด...ใจเรามันสกปรกมานาน ต้องล้างเสียที อวิชชามันเยอะมันหุ้มไว้จนหมดมิด...เมื่อจิตใจหมดแล้ว (...รู้ด้วยสติปัญญานะ)
จิตใจผู้รู้นั่นแหละ มันก็จะปล่อยวางธรรมนั้นไป จิตผู้รู้ก็จะทรงอานุภาพด้วยปัญญาอย่างโดดๆ ไม่เกี่ยวข้องแวะกับอะไร เป็นปกติใสสว่าง เป็นจิตเดิมแท้.....ทีนี้แหละ อะไรที่ไม่รู้มันก็จะรู้ สิ่งไหนไม่อยากรู้มันก็รู้ มันก็ตื่น มันก็เบิกบานของมันไป
ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านจึงต้องสอนเอาความโง่ของพวกเราออก เอาความดีใส่มาแทนให้ เราก็จงรับไปปฏิบัติซี...เอามาแล้วก็มาวางไว้เฉยๆ มันจะได้ประโยชน์อะไรเล่า ! ”
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:01, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:01, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 73
ตอนที่ ๖๗
พระอาจารย์วัน อุตตโม
(พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร)
วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:01, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:01, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 59
ตอนที่ ๖๘
หลวงปู่คำพอง ติสโส
วัดถ้ำกกดู่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:02, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 57
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:02, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 53
ตอนที่ ๖๙
หลวงปู่เมตตาหลวง
(หลวงปู่สิงห์ สุนทโร)
(พระญาณสิทธาจารย์)
วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:02, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 72
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:02, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
ตอนที่ ๗๐
หลวงปู่ถวิล จิณณธัมโม
(พระครูอรัญญาภิรัต)
วัดธรรมหรรษาราม (วัดยางระหง) อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:02, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:02, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
ตอนที่ ๗๑
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
(พระธรรมสิงหบุราจารย์)
วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:03, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 81
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:03, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
ตอนที่ ๗๒
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
(พระราชสังวรญาณ)
วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ศีล และ วิธีทำสมาธิ
แสดงธรรม ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๕
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย วันนี้ก็เป็นโอกาสดีอีกวันหนึ่ง ที่อาตมภาพได้มีเวลามาพบกับท่านทั้งหลาย ในฐานะที่เป็นพุทธบริษัทร่วมกับพระพุทธศาสนาอันเดียวกัน ซึ่งต่างคนก็ต่างมีความมุ่งหวังที่จะได้ฟังและศึกษาธรรมะเกี่ยวกับ หลักความเป็นจริงของธรรมชาติ
ธรรมะที่จะได้เล่าสู่ท่านทั้งหลายฟังในวันนี้ ก็คงไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากการบำเพ็ญภาวนาในทางจิต วิทยาการต่างๆ ไม่ว่าทางสายกระแสโลกหรือทางสายศาสนา เราได้เรียนกันมามากต่อมาก แต่สิ่งที่เราได้เรียนมาทั้งหลายเหล่านั้น เราอาจจะไม่มีความสำคัญมั่นหมายว่าสิ่งนั้นคือธรรมะ แต่แท้ที่จริงสิ่งนั้นก็เป็นธรรมะทั้งนั้นแหละ
กายกับใจของเราก็เป็นธรรมะ วิชาการที่เราเรียนมาตามศาสตร์สายนั้นๆ ก็เป็นธรรมะ สิ่งเหล่านั้นก็เป็นธรรมะ โดยความเป็นสภาวธรรม เมื่อธรรมะเหล่านั้นเป็นสภาวธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างก็มีความจริงของมันแฝงอยู่ แต่เราอาจจะไม่ยอมรับสิ่งนั้นว่ามีความจริง เพราะเรายังค้นไม่พบ
แม้แต่ความรู้สึกของคนโดยทั่วๆ ไป เรื่องเกี่ยวกับกายกับใจของเรานี้ โดยปกติธรรมดาแล้ว เราจะรู้สึกว่ากายกับใจนี้ มันแยกกันไม่ออก แต่แท้ที่จริงในเมื่อเราศึกษาให้รู้ซึ้งถึงข้อเท็จจริงของมันแล้ว กายกับใจมันสามารถแยกออกเป็นคนละส่วนได้ อันนี้พูดเฉพาะในทางปฏิบัติ แต่โดยทั่วๆ ไปแล้ว เราไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้
ในเมื่อกายกับใจแยกออกจากกันได้ จิตกับอารมณ์มันก็แยกออกจากกันได้อีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น แนวทางแห่งการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมะอันเป็นส่วนสมาธิภาวนานั้น นั่นแหละคืออุบายที่เราจะฝึกฝนอบรมให้จิตกับอารมณ์มันแยกออกจากกันได้
ในเมื่อพูดถึงเรื่องการทำสมาธิ ตามหลักของพระพุทธศาสนาต้องมีศีลและก็มีสมาธิจึงจะมีปัญญา แต่ว่ากันโดยทั่วๆ ไปแล้ว การทำสมาธินี้ เราไม่จำเป็นต้องมีศีลก็ได้ พูดมาถึงตอนนี้ท่านทั้งหลายอาจจะงง เพราะในลัทธิที่เขาปฏิบัติสมาธิกันมาบางอย่าง
เช่น สมาธิเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์ วิชาไสยศาสตร์บางอย่างที่เราได้ยินได้ฟังบางอย่างก็มีประสิทธิภาพที่สามารถทำให้ผู้คนมีอันเป็นไปต่างๆ เช่น ทำให้เกิดวิกลจริต ทำให้หลงใหล แล้วบางทีถึงอาจสามารถทำให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ชีวิตได้
เช่น หลวงพ่อเคยศึกษาและเคยอ่านตำรามา วิชาไสยศาสตร์บางอย่าง เขาสามารถเจริญทำสมาธิแล้วปล่อยตะปูไปเข้าท้องคนก็ได้ อันนี้ก็อาศัยอำนาจสมาธิ บางทีหนังแผ่นเบ้อเร่อเสกคาถาทำสมาธิขึ้นมาแล้ว ก็ถอดให้มันเหลือเล็กเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟแล้วก็ดีดเข้าท้องไป ทำให้เจ็บป่วยถึงตายไปก็ทำได้ อันนี้ยังมีหลักฐานปรากฏอยู่ เป็นแต่เพียงค้นคว้าตำรับตำราแล้วก็เที่ยวถามดูคนที่เขาเคยทำกัน ก็ปรากฏเขาทำได้จริง อันนี้ก็อาศัยอำนาจสมาธิอีกเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น สมาธิโดยทั่วๆ ไปนี้ เราทำสมาธิ เราอาจจะไม่ต้องมีศีล...ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ตามหลักของพระพุทธศาสนาก็ได้ อย่างศาสนาอื่นเขาก็ไม่มีศีล แต่เขามีสัจจะคือการทำจริง ศาสนาพราหมณ์ก็ไม่ถือศีล ๕ ศีล ๘ แต่เขาทำตามแบบอย่างเขา เขาก็มีสมาธิ แล้วก็มีอิทธิฤทธิ์ได้เหมือนกัน ในปัจจุบันนี้ในอินเดียก็ยังมีพวกลัทธิบำเพ็ญสมาธิ โดยไม่ได้ปฏิญาณตนเป็นผู้มีศีล
เช่น พวกชีเปลือยทั้งหลาย เขาก็ยังบำเพ็ญสมาธิของเขาอยู่ หรือผู้ไม่นิยมลัทธิเปลือย ก็ไปเป็นโยคีนั่งสมาธิอยู่บนป่าบนเขา พอเสร็จแล้วถึงหน้าแล้งก็ลงมาแข่งอิทธิฤทธิ์กัน ซึ่งพระไทยเราก็มีผู้หนึ่งที่ไปแข่งอิทธิฤทธิ์กับเขาเหมือนกัน ท่านผู้นั้นเขาให้นามว่า ท่านฤาษีประเสริฐ
ท่านฤาษีประเสริฐ เป็นคนชาวจังหวัดสุรินทร์ อยู่ที่อินเดียถึง ๒๐ ปี แล้วก็รู้สึกว่าไปเรียนลัทธิของพวกพราหมณ์ มีอิทธิฤทธิ์ เขาลุยไฟ ท่านก็ลุยได้ เขาเดินบนตะปู ท่านก็เดินได้ นอนบนขวากบนหนาม ท่านก็นอนได้ ไปเปลื้องผ้านั่งตากหิมะอยู่บนภูเขาหิมาลัย ท่านก็ทำได้ ทำได้เหมือนอย่างเขา เขาจึงยอมยกให้ว่าฤาษีไทยนี้ก็เก่งเหมือนกัน
อันนี้ เรื่องเหล่านี้ก็อาศัยเหมือนกัน แต่สมาธิที่ปราศจากศีลเป็นเครื่องควบคุมนั้น สมาธิอันนั้นไม่เป็นไปในการตรัสรู้ มรรค ผล นิพพาน ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่งเห็นจริง ไม่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น ไม่เป็นไปเพื่อความหมดกิเลส
สมาธินอกหลักพระพุทธศาสนา ยิ่งทำได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอวดกล้าอวดเก่ง มีทิฏฐิมานะ กิเลสยิ่งตัวใหญ่ตัวโตขึ้นมา ถ้าหากว่าท่านเคยได้อ่านประวัติของพระอาจารย์มั่น ซึ่งท่านอาจารย์มั่นได้ออกบำเพ็ญกรรมฐานในตอนต้น ท่านก็ได้ศึกษาตามลัทธิกรรมฐานโบราณ
ทีนี้ การศึกษาตามลัทธิกรรมฐานโบราณนั้น ท่านทำตามรูปแบบของหลักวิชาการนั้นๆ เรียกว่า เรียนธรรมซึ่งสุดแท้แต่กรรมฐานแล้วก็ภาวนาไปเป็นขั้นตอน ในเมื่อทำจิตสงบลงก็มีการขึ้นกรรมฐานแล้วก็ภาวนาไปเป็นขั้นตอน ในเมื่อทำจิตสงบลงไปได้แล้ว ก็รู้สึกว่าทำอะไรก็ได้
เช่น จะทำเครื่องรางของขลังก็ขลัง อยากรู้จิตใจของผู้อื่นก็รู้ได้ อยากจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าก็รู้ได้ แต่เมื่อมาสังเกตดูแล้วยิ่งรู้ยิ่งเก่ง ตัวกิเลสทิฏฐิมานะ ความทะนงตัวมันก็ยิ่งมากขึ้นทุกทีๆ คือว่าไม่เป็นไปเพื่อความหมดกิเลส อันนี้คือหลักฐานสมาธิในลัทธินอกพระพุทธศาสนา ยิ่งบำเพ็ญเก่งเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มกิเลสหนักขึ้นเท่านั้น
เพราะฉะนั้น สมาธิอันนี้จึงไม่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น เป็นไปเพื่อการสร้างกิเลส แต่สมาธิที่จะดำเนินไปเพื่อความหมดกิเลสอย่างจริงจังนั้น ต้องขึ้นต้นด้วยศีล
พระพุทธเจ้าสอนเราว่า ให้ละความชั่ว ประพฤติความดี ทำจิตให้บริสุทธิ์สะอาด ทีนี้ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า เราจะละความชั่วนั้นจะละอย่างไร ถ้าใครตั้งใจละความชั่วอย่างจริงจัง ให้ตั้งใจปฏิบัติตามศีล ๕ ข้อ ศีล ๕ ข้อนั่นแหละคือพื้นฐานแห่งการละความชั่ว
การทำบาปกรรมอย่างใดๆ ก็ตาม แม้แต่ความรู้สึกนึกคิดก็ยังไม่ถือว่าเป็นบาปเป็นกรรมที่เราจะต้องไปรับผลในชาติหน้า แต่ถ้าละเมิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่งนั้น มีหวังที่จะรับผลในชาติหน้าภพหน้า เพราะการละเมิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง มันเป็นการเพิ่มผลของบาปกรรม ถ้าเรางดเว้นเสียแต่วันนี้ ก็เป็นอันว่าตัดผลเพิ่มของบาปกรรม
เช่น อย่างเมื่อวานนี้ เรามีบาปกรรมเพราะล่วงละเมิดศีล ๕ อยู่ มีน้ำหนักสมมติว่าประมาณสัก ๑ กิโลกรัม แต่วันนี้เราตั้งใจเด็ดขาดว่าเราจะงดเว้นโทษตามหลักของศีล ๕ นั้น ก็เป็นอันว่าบาปที่มีอยู่ก็มีเพียงแค่ ๑ กิโลกรัม ไม่เพิ่มมาอีก ความรู้สึกนึกคิดในใจ แต่เราไม่ได้แสดงออกทางกาย ทางวาจา ก็ไม่เป็นอันทำบาปที่จะต้องไปรับผลในชาติหน้าภพหน้า อันนี้พูดถึงเรื่องศีล ๕
ผู้ที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อที่จะให้สมาธิที่ถูกต้อง เป็นสัมมาสมาธิให้ได้ปัญญาเป็นสัมมาทิฏฐิ ต้องอาศัยศีลเป็นมูลฐาน ศีลที่เรารักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้วนั้นแหละ จะประคับประคองจิตใจให้มีความสงบลงสู่ความเป็นสมาธิอย่างถูกต้อง เมื่อสมาธิอาศัยอำนาจแห่งศีลเป็นเครื่องอบรม ปัญญาคือความรู้เกิดขึ้นมาย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ทีนี้หลักตัดสินว่า เราปฏิบัติอะไรผิดอะไรถูก เราก็ต้องย้อนมามองตามหลักของศีล ๕ อีกนั่นแหละ
คุณธรรมที่เกิดขึ้นในจิตในใจ ถ้าหากสิ่งใดมันทำให้จิตใจเราต้องคิดที่จะละเมิดศีล ๕ ข้อ ข้อใดข้อหนึ่งอยู่ ก็แสดงว่าคุณธรรมที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และอีกอย่างหนึ่ง การละกิเลสด้วยความตั้งใจนี้ ก็หมายถึง ละตามกฎของศีล ๕ ข้อนั้นเอง พระท่านเทศน์ว่า จงละกิเลส โลภ โกรธ หลงอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ความจริงมันเป็นโวหารการเทศน์
กิเลสในจิตในใจนี้ เราละไม่ได้ ละไม่ได้เด็ดขาด เราจะไปนึกละเอาๆ ละไม่ได้เด็ดขาด แต่กิเลสหยาบๆ ที่จะพึงล่วงเกินทางกาย วาจานี้ เราละเอาได้โดยเจตนา นี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงทำความเข้าใจอย่างนี้ ทีนี้ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราอยากจะละความโลภ ความโกรธ ความหลง เราจะทำกันอย่างไร อันนี้ขอพักไว้ก่อน ยังจะไม่อธิบายต่อ
จะขอพูดถึงเรื่อง เราจะสามารถใช้กิเลสให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร กิเลสนี้มันเป็นสิ่งดีแก่คนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของตัณหาความทะเยอทะยานอยากนี้ เป็นกิเลสๆ เป็นของดีจริงๆ ถ้ารู้จักใช้ ไฟก็ดี กระแสไฟฟ้าก็ดี เป็นสิ่งที่มีโทษอย่างมหันต์แล้วก็มีคุณค่าอย่างอนันต์เหมือนกัน
ไฟนี้ถ้าใช้ไม่เป็น เอาไปจุดเผาบ้านนี้ก็วอดวายหมด ในทำนองเดียวกัน กิเลสที่เรามีอยู่เหมือนกัน ทุกๆ คนมีกิเลสพอที่จะอวดกันได้พอๆ กันทุกคน ที่นี้ กิเลสตัณหาเราเลี้ยงเอาไว้ เอาไว้เป็นสิ่งกระตุ้นเตือนความรู้สึกของเราให้เกิดความกระตือรือร้นในการกระทำความดี
คำว่าความดีนี้อะไรก็ได้ แม้แต่ความดีที่เกี่ยวกับการครองชีพที่อยู่เป็นคฤหัสถ์ ก็ได้ชื่อว่าความดี ทีนี้เราจะใช้กิเลสเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร เช่น สมมติว่าเรามีความทะเยอทะยานอยากได้ดี อยากร่ำอยากรวย เราก็เอาศีล ๕ ข้อซิมาตีเส้นขนานเอาไว้ ถ้าเราจะใช้กิเลสในขอบเขตศีล ๕ ข้อนี้
เช่น เราอยากรวย ถ้าอยากรวยโดยสุจริต ก็กระตือรือร้นหมั่นขยัน แต่อย่าฉ้ออย่าโกง อย่าลักขโมย อันนี้เรียกว่าใช้กิเลสถูกตามกฎ ถ้าหากอย่างสมมุติว่า ท่านผู้เป็นนายแพทย์ทั้งหลายไปตั้งคลินิกรักษาคนไข้ในที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ถ้าเกิดมีคนไข้หรือลูกค้ามาอุดหนุนตลอดวันยังค่ำ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ท่านจะสละความเหน็ดเหนื่อยของท่านทำงานเพื่อผลประโยชน์ตลอดคืนยันรุ่งวันยังค่ำ ซึ่งการกระทำนั้นไม่ทำให้ใครเดือดร้อน มีแต่ได้ประโยชน์มาโดยชอบธรรม
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตำหนิว่าเราเป็นคนโลภ หรือเป็นคนประพฤติผิดศีลธรรม นี้ขอยกตัวอย่างมาให้ท่านฟังเป็นตัวอย่างเพียงข้อเดียว ทีนี้ในเมื่อกิเลสมันมีประโยชน์สำหรับคนทุกคน เราพยายามใช้กิเลสให้มันมีประโยชน์โดยไม่กระทบกระเทือนผู้ใดผู้หนึ่ง ให้มันเป็นไปโดยความยุติธรรม
ทีนี้ การใช้กิเลสไม่ผิดศีลธรรมนี้ มันก็เป็นการสร้างความดี เราอยากได้ อยากรวย ไม่โลภ ไม่โกง อะไรต่างๆ เราก็ไม่ละเมิดศีลข้ออทินนาทาน เราอยากรวย ไม่จี้ ไม่ปล้น ไม่ลัก ไม่ขโมย เราไม่ได้ไปฆ่าอะไร เราก็มีศีลข้อปาณาติบาต ทีนี้ เมื่อเรามีศีล ๕ บริสุทธิ์ บริบูรณ์ดี ตามพื้นเพของความเป็นฆราวาสผู้ครองเรือน เราก็ได้ทำแต่ความดี
ทีนี้ ความดีที่เราจะหมายเอาเป็นความดีนั้น มิได้หมายเฉพาะเอาแต่ว่า เราจะมานั่งหลับตาภาวนานึกพุทโธๆ หรือพิจารณาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ใครก็ตาม ในเมื่อมีหน้าที่อันใด เช่น หน้าที่ของความเป็นพ่อ แม่ หน้าที่ของความเป็นลูก หน้าที่ของความเป็นผู้บังคับบัญชาและหน้าที่ของความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
เราต่างคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของเราโดยถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา โดยอาศัยระเบียบการทำงานนั้นๆ เป็นแนวทางปฏิบัติก็ได้ เชื่อว่าเรากระทำความดี ความดีอันนี้แหละ มันจะทำให้สังคมของเรานี้สงบ และโดยเฉพาะศีล ๕ นี้แหละ เป็นหลักความปลอดภัยของสังคม พระพุทธเจ้ายอมรับว่าเป็นคำสอนของพระพุทธองค์ แล้วก็รับเอามาเป็นข้อปฏิบัติของพุทธบริษัททั้งหลาย
ในขั้นต้นนี้ ไม่อยากจะให้ใครๆ ไปทำความเข้าใจถึงขนาดที่ว่าห้ามฆ่าสัตว์ทุกประเภทเอาไว้ก่อน ให้ทำความเข้าใจไว้ก่อน ศีล ๕ ข้อนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อปาณาติบาต พระพุทธเจ้ามุ่งไม่ให้มนุษย์ฆ่ากัน เบียดเบียนกัน ข่มเหงรังแกกัน ทำความเข้าใจไว้เพียงแค่นี้ก่อน
ทีนี้ เราก็พยายามทำจิตทำใจให้งดเว้นตามกฎนั้นๆ อย่างจริงจังลงไป เมื่อมนุษย์งดเว้นจากการฆ่าของมนุษย์ ย่อมเป็นผู้มีจิตใจสูง เมื่อเว้นจากการฆ่าเบียดเบียนกันได้เด็ดขาด อิทธิพลของความเมตตาก็ย่อมแผ่คลุมไปถึงสัตว์ดิรัจฉานได้ ในที่สุดสัตว์ดิรัจฉานก็ฆ่าไม่ได้ นี้คือหลักความจริง
ที่พูดเช่นนี้ก็เพราะจะแก้ข้อข้องใจ เพราะบางท่านมีความหนักใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกคุณหมอทั้งหลายนี้ ทำสงครามกับโรคภัยไข้เจ็บอยู่ทุกวันๆ โดยบางอย่างมันก็มีตนมีตัว เช่น โรคพยาธิ เป็นต้น
ประเดี๋ยวบางท่านสั่งจ่ายยาขับพยาธิออกไป ประเดี๋ยว โอ้ย ทำปาณาติบาตตายแล้วตกนรก นี้ปัญหาเหล่านี้ พวกท่านทั้งหลายย่อมหนักใจ ล้วนก็มีคนไปถามอาตมาอยู่บ่อยๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าท่านข้องใจ ท่านจะทำใจของท่านอย่างไร
อาตมาจะยกตัวอย่าง เช่น อย่างสมมติว่าพระเป็นโรคพยาธิลำไส้ แล้วก็ไปขอยาคุณหมอมา แล้วพระก็มาฉันยานี้เพื่อฆ่าพยาธิในลำไส้ ถ้าพระตั้งใจอย่างนี้ พระเป็นอาบัติปาจิตตีย์ เพราะการฆ่าสัตว์ แต่ถ้าพระคิดว่าฉันจะฉัน (กิน) ยาเพื่อบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ โดยไม่มุ่งถึงสิ่งมีชีวิตและมีตนมีตัว พระก็พ้นจากอาบัติ
ในทำนองเดียวกัน ท่านทั้งหลายอาจจะฉีดยาลงไปสักเข็มหนึ่ง ท่านคิดว่าจะให้สัตว์ในตัวของคนไข้นี้มันตาย ท่านก็ทำปาณาติบาต แต่ถ้าท่านคิดว่าฉีดยาหรือให้ยาเพื่อบำบัดโรคภัยไข้เจ็บแก่คนไข้ ท่านก็ไม่เป็นบาปเพราะการฆ่าสัตว์ อันนี้มันขึ้นอยู่กับเจตนา
พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุญาตให้ทานยาได้ แต่พระองค์ก็บอกว่าอย่าทานยาเพื่อฆ่าตัวเชื้อโรค แต่ทานเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บเพื่อให้หาย อันนี้การทำบาปกรรมเล็กๆ น้อยๆ มันขึ้นกับเจตนา ถ้าเราคิดว่าเราจะทานยาเพื่อจะฆ่าโรคนั้นๆ ถ้าขึ้นคำว่า ฆ่า แล้วมันก็ผิดศีลข้อปาณาติบาตทั้งนั้น
เมื่อไม่นานมานี้ อาตมาก็ถูกสมเด็จพระบรมราชินีนาถรับสั่งถามเรื่องเกี่ยวกับศูนย์ศิลปาชีพ คือที่ศูนย์ศิลปาชีพนั้น สมเด็จฯ ไปทรงแนะนำให้ราษฎรเขาปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทีนี้เมื่อปลูกหม่อนเลี้ยงไหมขึ้นมาแล้ว เมื่อจะทำไหมให้เป็นเส้นขึ้นมา จะต้องเอาตัวหม่อนไปต้มๆ แล้วก็สาวไหมเอาออกมา สมเด็จฯ รับสั่งว่าทำอย่างนี้บาปไหม
หลวงพ่อก็ถวายพระพรสมเด็จฯ ว่า ถ้าสมเด็จฯ ไปสั่งให้เขาเอาตัวไหมนั้นต้มลงในหม้อ สมเด็จฯ ก็บาป ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรจึงจะไม่เป็นบาป
หลวงพ่อก็ถวายพระพรสมเด็จฯ ว่า หน้าที่การรับสั่งให้เขาทำนั้น เป็นพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ทรงรับสั่งให้เขาปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ในเมื่อเขาปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นตนเป็นตัว เขามองเห็นประโยชน์ที่เขาจะพึงได้รับ ก็ปล่อยให้เขาทำเอง อย่าไปทรงแนะนำเขาถึงขั้นต้องเอาตัวไหมต้มลงไปในหม้อ ถ้าในทำนองนี้ สมเด็จฯ พ้นจากโทษปาณาติบาต
แล้วอาตมาขอถวายพระพรถามว่า เคยมีรับสั่งให้เอาตัวหม่อนต้มในหม้อหรือเปล่า สมเด็จฯ รับสั่งว่าไม่เคย ถ้าหากไม่เคย สมเด็จฯ ก็ไม่เป็นบาป ไม่ต้องเป็นห่วงใยเรื่องบาปกรรม ในเมื่อเขาทำขึ้นมาแล้ว เขาจะได้ผลอย่างไรนั้น เขาย่อมรู้เอง เพราะเขาโตๆ กันทุกคนแล้ว ในขั้นสุดท้าย สมเด็จฯ ก็ทรงปล่อยวางซะ สมเด็จฯ ก็เป็นที่พอพระทัยในคำตอบ
เรื่องเกี่ยวกับการทำบาปทำกรรมอะไรต่างๆ นี้ ถ้าหากเรามีความข้องใจสงสัย หรือเรามีเจตนาว่า เราจะฆ่าสัตว์ มันก็เป็นบาปวันยังค่ำ คนที่มีสมาธินี้ เป็นแต่เพียงใช้คำพูดกับคนไข้ บอกว่าทำใจดีๆ ทำใจให้เข้มแข็ง โรคของคุณจะหาย คุณไม่ต้องตกใจ ฉันจะช่วยให้คุณหาย คุณต้องหายแน่ๆ พูดอย่างนี้ก็เป็นอุปกรณ์ช่วยให้คนไข้มีอาการดีขึ้น เพราะพลังจิตของเรามีสมาธิ
อีกอย่างหนึ่ง ผู้ที่เคยผ่านการทำสมาธิมาบ้างพอสมควรแล้ว อย่าไป อย่าเผลอไปแช่งใครเข้านะ ถ้าขืนไปแช่งแล้ว มันจะเป็นไปตามที่เราแช่ง ปากของคนทำสมาธิเป็นปากที่มีสัตย์มีศีล
ในเมื่อพระพุทธศาสนาและจุดมุ่งหมายของการทำสมาธินี้เพื่ออะไร นักปฏิบัติดีนักสมาธิทั้งหลายยังเข้าใจผิดกันอยู่เป็นส่วนมาก เช่น การทำสมาธิต้องรู้ การทำสมาธิต้องเห็น ทำสมาธินี้ต้องมีอิทธิฤทธิ์ ส่วนมากเข้าใจกันไปเสียอย่างนี้
ทีนี้ ถ้าหากเราไปสำคัญมั่นหมายว่า เราจะต้องรู้ต้องมีนิมิต ต้องเห็นโน่นเห็นนี่ หรือต้องมีอิทธิฤทธิ์ ถ้าเผื่อเราทำไม่ได้อย่างที่ว่านั้น เราก็เกิดท้อแท้ แต่ความจริงสิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องถือว่าเป็นผลงานซึ่งเกิดจากการปฏิบัติของเรา
สิ่งเหล่านั้นเป็นแต่เพียงเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ เป็นอารมณ์เพื่อฝึกฝนอบรมจิตใจให้มีสติจนกลายเป็นมหาสติ ไม่ใช่สิ่งที่เราจะยึดเอาเป็นที่พึ่ง แต่สิ่งที่เราจะยึดเป็นที่พึ่งนั้นคือ ตัวสติที่เด่นชัดขึ้น
สติที่เด่นชัดขึ้นนี้ มันกลายเป็นสติพละ เป็นสติมีกำลัง ในตอนต้นๆ กำลังของสติมันแผ่ทั่วกาย หรือแผ่ซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ แต่เมื่อสติรวมกำลังเข้าเป็นหนึ่ง มันก็กลายเป็นสตินทรีย์
สตินทรีย์ คือ ความเป็นใหญ่ในธรรมทั้งปวง สามารถประคับประคองจิตให้อยู่ในสภาพที่มีความสงบ ประคับประคองจิตให้ไปสู่ความรู้แจ้งเห็นจริงในสภาวธรรมตามความเป็นจริง นี่เราต้องการความมีสติเท่านั้น
ในเมื่อสติตัวนี้ เราอบรมให้แก่กล้าขึ้นจนสามารถรู้เท่าทันเหตุการณ์ต่างๆ แม้แต่อารมณ์ภายในจิต ความนึกคิดอะไรเกิดขึ้น สักแต่ว่าสัมผัสรู้ ไม่มีการยึดถือในสิ่งนั้นๆ รู้แล้วปล่อยวางไป อันนี้แสดงว่าสติของเรามีกำลังขึ้นแล้ว ก็เป็นใหญ่ในสภาวธรรมทั้งปวง
ในเมื่อเรามีสตินทรีย์เป็นใหญ่ในจิตของเรา จิตของเราก็สามารถปฏิบัติตัวไปสู่ภูมิธรรมได้ตั้งแต่ขั้นต่ำ ขั้นกลาง ขั้นละเอียด ในที่สุดก็สำเร็จ มรรค ผล นิพพาน ตามต้องการ
ฉะนั้น ขอย้ำอีกทีว่า การพิจารณาอะไรก็ดี การบริกรรมภาวนาก็ดี สิ่งที่เราต้องการผลงานนั้นคือ สติตัวเดียวเท่านั้น ทำสติให้เป็นใหญ่โดยเด็ดขาด ในจิต ในใจ ในกายของเรา เมื่อสติเป็นใหญ่โดยเด็ดขาดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยไม่วุ่นวาย สิ่งที่เป็นใหญ่ในโลกนี้ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าความมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ หรือมีสติเป็นใหญ่
ในกายของเรานี้ มีอะไรเป็นใหญ่โดยธรรมชาติ ก็มีอยู่แล้ว ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ท่านเรียกว่า อินทรีย์ ที่เรียกว่าอินทรีย์ เพราะเขามีความเป็นใหญ่ในหน้าที่ของเขาเอง โดยไม่มีใครสามารถจะก้าวก่ายหน้าที่ของเขาได้
ตา คือมีหน้าที่ดูก็ดูอย่างเดียว จะอุตริไปฟังช่วยหูไม่ได้ หู คือมีหน้าที่ฟังอย่างเดียว จะอุตริไปดูก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น อันนี้เป็นใหญ่ในกายของเรา ตาดู หูฟัง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายสัมผัส ใจนึกคิดและเก็บอารมณ์ และสิ่งอื่นจะไปก้าวก่ายหน้าที่กันไม่ได้ นี้คือความเป็นใหญ่
ทีนี้ เมื่อเราฝึกฝนอบรมสตินี้ให้เป็นสตินทรีย์ ให้เป็นใหญ่ในกายในจิตของเราแล้ว สติก็กลายเป็นความเป็นใหญ่ภายในจิตของเรา สติวินโย เรามีสติเป็นผู้นำ สติจะปฏิวัติจิตไปสู่ภูมิจิต ภูมิธรรม ตามขั้นตอนเท่าที่ความสามารถของสติจะบันดาลให้เป็นไปได้อย่างหนึ่ง
เมื่อท่านทั้งหลายได้ภาวนา หรือพิจารณาธรรมไปถึงขั้นนามธรรม คือจิตนิ่งสงบนิ่งสว่างแล้ว มีแต่สิ่งรู้อันเป็นนามธรรม วัตถุตัวตนไม่ปรากฏ ในเมื่อนานๆ เข้า สภาพจิตนั้นจะอ่อนกำลังลง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านควรจะย้อนหันมาพิจารณากาย เริ่มต้นดูแต่ละลมหายใจหรือพิจารณากายคตานุสสติ หรือพิจารณาตามแผนที่ท่านเคยวิจัยร่างกายของมนุษย์มาแล้ว
อาตมาว่าการเจริญอสุภกรรมฐานก็ดี ธาตุกรรมฐานก็ดี หรือการพิจารณาสรีระร่างกาย หรืออาการ ๓๒ กายคตานุสสติก็ดี พวกคุณหมอทั้งหลายนี้ง่าย เพราะมีสัญญาเดิมอยู่แล้ว อย่างพวกอาตมาเป็นพระเป็นสงฆ์ไม่เคยผ่าตัดศพมา ไปนั่งนึกหลับตาเอาแทบเป็นแทบตาย กว่าจะเกิดนิมิตมาให้รู้แจ้งเห็นจริง ท่านทั้งหลายมีอุปกรณ์อยู่แล้ว
อีกอย่างหนึ่ง การทำสมาธิภาวนานี้ ให้เชื่อตัวเอง อย่าไปเชื่อคนอื่น เราภาวนาอะไร พิจารณาอะไร สามารถทำจิตใจให้สงบ สามารถทำจิตให้รู้ได้ เราก็ยึดอันนั้นเป็นหลักของเรา ถ้าสมมติว่าท่านต้องการอยากรู้อะไรสักอย่างหนึ่ง มีปัญหาเกิดขึ้นในใจ ถ้าท่านเคยทำสมาธิให้จิตว่าง พอจิตว่างลงไปแล้ว คำตอบมันจะผุดขึ้นมา
สมาธิจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราหมดความตั้งใจ วิปัสสนาจะเกิดขึ้นมาได้ต่อเมื่อเราหมดความคิด หมดความตั้งใจ คือ ความว่างของจิต สมาธิก็เกิด การหมดความคิด ก็คือความว่างของจิต วิปัสสนาคือปัญญาก็เกิด
เอาละ สำหรับการกล่าวธรรมอันเป็นเครื่องประดับสติปัญญาความรู้ของท่านทั้งหลาย ก็เห็นว่าสมควรแก่กาลเวลา
ในท้ายที่สุดนี้ ด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคุณธรรม จงดลบันดาลให้ทุกท่านประสบความสำเร็จที่ตนพึงปรารถนาโดยทั่วหน้ากัน.
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:03, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
รูปภาพที่แนบมา: L47.png (2023-9-13 03:03, 4.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
สัจธรรม
..เมื่อเกิดมาใช่จะมาแต่ตัวเปล่า
กรรมของเจ้าตามมาด้วยช่วยส่งผล
ทั้งทุกข์สุขชั่วดีมีระคน
ทุกตัวตนมีกรรมชักนำไป
เมื่อเกิดมามีกรรมมาตามเจ้า
เจ้าจะเอากรรมนั้นไปไว้ไหน
เหมือนกับเงาที่เฝ้าตามเจ้าไป
นำผลให้เกิดทุกข์สุขทุกเวลา
จงทำดีไว้เถิดจะเกิดสุข
สิ้นจากทุกข์โชคชัยที่ใฝ่หา
ได้รับผลกุศลกรรมล้ำนำพา
ทั้งชาตินี้ชาติหน้าผาสุกเอย...
สุดท้ายนี้...ขอความสวัสดี และสมประสงค์ในธรรมอันบริสุทธิ์
จงมีแด่ท่านผู้อ่านทั้งหลาย จงทุกคนเทอญ.
รูปภาพที่แนบมา: L48.png (2023-9-13 03:04, 2.24 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 60
รูปภาพที่แนบมา: 1.2.png (2023-9-13 03:07, 32.63 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
รูปภาพที่แนบมา: สัจธรรม.jpg (2023-9-13 03:11, 298.74 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 71
รูปภาพที่แนบมา: l12.png (2023-9-13 03:16, 6.71 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 77
รูปภาพที่แนบมา: l11.png (2023-9-13 03:16, 5.86 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
| ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://www.dannipparn.com/) | Powered by Discuz! X1.5 |