งานทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างวิหารและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ครั้งที่ ๑
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
ถวาย ณ วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์
ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1720.jpg (2010-12-12 00:16, 98.66 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 190
ด้วยวัดพระธาตุดอยพระฌาน เป็นศาสนสถานที่สำคัญของชุมชนชาวตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ปัจจุบันมีพระสงฆ์จำวัด ๒ รูป คือ พระพรชัย อัคควังโส และพระปิยพงษ์ ธัมมะวังโส ขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างใหม่ เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างเดิมที่ถูกปล่อยให้รกร้างมานานหลายปีนั้นอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ ภายในวัดยังไม่มีวิหารและองค์พระประธานวิหาร ปัจจุบันยังขาดทุนปัจจัยในการดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จ ทางคณะผู้จัดการทอดผ้าป่าครั้งที่ ๑ โดยมี คุณเกศราทิพย์ สุทธิ์วรรณ และคุณอิฏฐพงศ์ ขันธฺเครือ เป็นเจ้าภาพ ร่วมกับคณะศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จึงได้จัดการทอดผ้าป่าครั้งที่ ๑ ขึ้น เพื่อสร้างวิหารและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๔ ศอก โดยมีวัตถุประสงค์
๑. เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์อันมีสมเด็จองค์ปฐมสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเบื้องต้นและที่สุด
๒. เพื่อเป็นสถานที่เคารพสักการบูชาและยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธบริษัท
๓. เพื่อเป็นสถานประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัทและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0358.jpg (2010-12-12 00:12, 98.94 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 203
การเดินทางไปทอดผ้าป่าวัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์ ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง จากอำเภอเมืองลำปาง ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑ วชิราวุธดำเนิน ลงไปทางใต้ เข้าสู่อำเภอแม่ทะ ระยะทาง ๒๖ กิโลเมตร แล้วมุ่งหน้าสู่ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปางค่ะ
ทางไปทางเดียวกับวัดป่าตันหลวง ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และผ่านสะพานแม่น้ำจาง ตรงไปทางถนนลูกรังค่ะ
ขับรถตรงไปตามถนนลูกรังเรื่อยๆ นะคะ จนเจอป้ายวัดตาวคำ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลูกรังค่ะ
หลังจากนั้นจะเจอป้ายชื่อ วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์ อยู่ด้านขวาของถนนค่ะ
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1654.jpg (2010-12-12 00:22, 99.13 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 215
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0300.jpg (2010-12-12 00:23, 78.67 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 193
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0373.jpg (2010-12-13 01:19, 97.79 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 205
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0363.jpg (2010-12-13 21:14, 98.13 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 190
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0302.jpg (2010-12-13 21:16, 97.58 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 206
รูปภาพที่แนบมา: 205347wxex3zo2x2x5xgvx.jpg (2010-12-14 22:56, 102.6 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 207
หลังจากนั้นเราขับรถตรงไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางถนนลูกรัง จนเจอถนนลาดปูนซีเมนต์ช่วงขึ้นเขาสั้นๆ และต่อจากนั้นก็จะเป็นถนนลูกรังเหมือนเดิมค่ะ
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0301.jpg (2010-12-12 00:32, 66.26 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 183
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0305.jpg (2010-12-12 00:32, 101.22 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 207
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1665.jpg (2010-12-12 00:36, 95.77 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 198
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1663.jpg (2010-12-12 00:36, 285.61 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 185
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1667.jpg (2010-12-12 00:36, 98.71 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 176
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1668.jpg (2010-12-12 00:37, 275.51 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 167
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1724.jpg (2010-12-12 00:42, 96.64 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 194
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1669.jpg (2010-12-12 00:42, 190.86 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 213
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1680.jpg (2010-12-12 00:42, 218.1 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 220
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1670.jpg (2010-12-12 00:49, 208.72 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 203
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1687.jpg (2010-12-12 00:49, 97.64 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 189
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1688.jpg (2010-12-12 00:49, 99.44 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 186
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1692.jpg (2010-12-12 00:50, 237.54 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 205
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1700.jpg (2010-12-12 00:54, 246.76 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 190
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1703.jpg (2010-12-12 00:54, 101.64 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 167
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1705.jpg (2010-12-12 00:54, 239.84 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 183
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1707.jpg (2010-12-12 00:55, 231.52 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 207
รูปภาพที่แนบมา: 1.jpg (2010-12-12 06:44, 98.98 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 188
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1681.jpg (2010-12-12 01:00, 215.5 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 203
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1682.jpg (2010-12-12 01:00, 243.71 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 197
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1683.jpg (2010-12-12 01:00, 224.23 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 194
รูปภาพที่แนบมา: 0Doipra-025.jpg (2010-12-12 01:04, 97.86 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 160
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1696.jpg (2010-12-12 01:04, 218.3 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 188
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1697.jpg (2010-12-12 01:04, 95.28 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 188
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1698.jpg (2010-12-12 01:04, 207.57 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 164
รูปภาพที่แนบมา: DSC01314.jpg (2010-12-12 01:13, 100.01 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1679.jpg (2010-12-12 01:16, 175.75 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 55
กล่าวนะโม ๓ จบ วันทามิ นิสิทิตุวา ปัพพะตะ คีรี สะฐา อุมะคิธาตุง อะหัง วันทามิ สัพพะทา (อธิษฐานจิตตามศรัทธา)
รูปภาพที่แนบมา: DSC01307.jpg (2010-12-12 01:19, 98.96 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 57
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0341.jpg (2010-12-12 01:19, 97.45 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1716.jpg (2010-12-12 06:56, 98.54 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
ประวัติวัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์
ข้อมูลจากเว็บดอยพระ ดอทคอม
(http://www.doipra.com/wat/)
พระธาตุดอยพระฌาน เป็นศาสนสถานที่สำคัญของชุมชนชาวตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ประวัติจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ท่านกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นองค์พระธาตุนี้แล้ว แสดงว่าพระธาตุนี้มาก่อนที่จะได้รับการบูรณะเป็นองค์พระธาตุสีขาวในปัจจุบัน นอกจากนี้ข้อมูลจากคัมภีร์ใบลานที่ได้ค้นเจอที่วัดนาคตหลวงก็ได้จารึก ประวัติการบูรณะไว้เช่นกัน จากหลักฐานที่ปรากฏอยู่ พอจะสรุปได้ว่า ในยุคปัจจุบัน อดีตหลวงพ่อวัดนาคตหลวง พระครูปัญญาวุฒิคุณ เป็นผู้นำพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชน ในการดูแล บำรุงรักษาองค์พระธาตุ รวมทั้งบริเวณโดยรอบ และรักษาประเพณีการเดินขึ้นมาสักการะองค์พระธาตุเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันท่านได้มรณภาพ ละสังขารไปแล้ว ประเพณีดั้งเดิมดังกล่าวยังคงมีอยู่ และได้รักษาไว้โดยพุทธบริษัทรุ่นต่อมา
ตำนานและเรื่องเล่าแปลกที่เล่าขานกันมานาน
ชาวลับแล
มีเรื่องเล่าที่น่าแปลกใจเรื่องหนึ่งก็คือ สมัยก่อนเวลาที่ชาวบ้านแถบนี้มีงานบวชนาค ผู้เฒ่าผู้แก่จะพากันไปบนบานศาลกล่าวที่ดอยพระฌานตรงบริเวณหน้าถ้ำ เพื่อขอยืมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับให้คนที่เป็นนาค วันถัดมาก็จะพากันไปรับเครื่องแต่งกายนาค ที่หน้าถ้ำดังกล่าว ก็พบหีบเสื้อผ้าอาภรณ์กับเครื่องประดับมีค่าของโบราณ วางไว้ที่หน้าถ้ำเป็นสัญญาณตอบรับว่าอนุญาตให้ยืมได้ ชาวบ้านก็รับมา เมื่อเสร็จพิธีการเรียบร้อยก็เอาไปคืนโดยวางไว้ที่เดิม รุ่งขึ้นของดังกล่าวก็หายไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติมาโดยตลอดจนถึงยุคปัจจุบัน เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้ การยืมของจากคนที่ไม่มีตัวตนก็หยุดไป เพราะมีคนไปยืมของเขาแล้วไม่นำมาส่งคืน ปัจจุบันคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ ยืนยันว่าตอนเด็กเคยร่วมเดินทางไปยืมของบนดอยกับผู้เฒ่าผู้แก่ และก็ได้สวมใส่เครื่องแต่งกาย เหล่านั้นด้วยเช่นกัน อีกเรื่องหนึ่งที่โจษจันกันไปทั่วก็คือ วันดีคืนดีจะปรากฏเรือสำเภาโบราณมีสีทอง ลอยลำอยู่บริเวณของลำน้ำจางมีผู้คนเห็นกันหลายคน บริเวณนั้นชาวบ้านเล่าว่ามีปากถ้ำอยู่ ไม่เคยมีใครเข้าไป เพราะน้ำลึกมาก ปัจจุบันมีฝายกั้นน้ำสร้างขึ้นบริเวณที่ใกล้ๆ กับวังธารทำให้ระดับสูงขึ้นจนท่วมบริเวณดังกล่าว
ม่อนถ่ายซิ่น ม่อนฮางฮุ้ง
มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ทิวเขาบริเวณนี้มีสมบัติของคนโบราณซุกซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งใดแห่งหนึ่งซึ่งยัง ไม่มีใครค้นพบ เพราะมีเรื่องเล่าสืบกันมาหลายชั่วอายุคนที่กล่าวถึงคนโบราณที่มาสักการะพระธาตุจะเป็นชนชั้นสูงศักดิ์แต่งตัวด้วยอาภรณ์ที่สวยงามมีเครื่องประดับเพชรพลอยที่มีค่า เมื่อมาถึงบริเวณภูเขาลูกหนึ่งก่อนจะถึงองค์พระธาตุไม่ไกลนัก กลุ่มคนเหล่านั้นจะผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยก่อนจะมาสักการะพระธาตุ ด้วยเหตุนี้ภูเขาลูกนี้จึงเรียกว่า “ม่อนถ่ายซิ่น” ถ่ายซิ่น แปลว่า ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าถุงผ้าซิ่นของผู้หญิง จึงสันนิษฐานได้ว่าผู้สูงศักดิ์สมัยโบราณที่เป็นสตรีสูงศักดิ์ในดินแดนแถบนี้ ก็เห็นจะเป็นเพียงผู้เดียวคือ องค์พระแม่เจ้าจามเทวี ผู้สร้างเมืองลำปางในอดีตนั่นเอง ประวัติของท่านกล่าวไว้ในหลายแห่งอยู่เสมอ ว่าท่านเป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง มีภูเขาหลายที่ในภาคเหนือที่มีพระธาตุโบราณที่คล้ายกับดอยพระฌานสร้างอยู่บนยอดเขา บางทีก็จารึกปีพ.ศ.ที่สร้างไว้บนแผ่นหิน ซึ่งตรงกับยุคสมัยของพระแม่เจ้าจามเทวี และมีภูเขาลูกหนึ่งใกล้กับดอยพระฌาน มีชื่อว่า “ม่อนฮางฮุ้ง” ฮางฮุ้งเขียนเป็นภาษาไทยได้ว่า รังรุ้ง ที่แปลว่า รังของนกเหยี่ยวชนิดหนึ่ง ปัจจุบันก็มีเหยี่ยวบินหากินอยู่แถวนี้เป็นปกติ ดอยลูกนี้ชาวบ้านเล่ากันว่าเป็นภูเขาที่ไม่มีใครย่างกรายเข้าไปเพราะมีอันตราย เมื่อเข้าไปแล้วจะทำให้หลงทางกลับออกมาไม่ได้ ว่ากันว่ามีถ้ำอยู่บนเขาลูกนี้ ซึ่งเป็นที่เก็บสมบัติของคนโบราณแต่ก็ไม่มีใครเคยเห็น ผู้ที่ปีนเขาขึ้นไปบนม่อนรังรุ้งมักจะเห็นงูยักษ์สีดำขวางทางอยู่จึงไม่มีใครกล้ารุกล้ำเข้าไปเกินกว่านั้น ม่อนรังรุ้งจึงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้
แผ่นดินดัง
ดอยพระฌาน ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำจาง โดยห่างจากแม่น้ำประมาณ ๑ ก.ม. และมีหมู่บ้านอยู่ใกล้เคียงโดยรอบหลายหมู่บ้านได้แก่ บ้านป่าตัน บ้านสบทะ บ้านนาคต และบ้านปงหอศาล พื้นที่เชิงดอยและริมน้ำเคยเป็นไร่อ้อยและป่าโปร่ง แห้งแล้ง เพราะเป็นที่สูง ปกติไม่ค่อยมีผู้คนย่างกรายเข้ามาในบริเวณนี้เพราะเป็นที่ห่างไกลจากความเจริญ จะมีเฉพาะชาวบ้านใกล้เคียงมาจับจองถางที่ทำไร่ทำสวนตามวิถีชาวบ้าน ทางที่สัญจรไปมาก็เป็นทางดิน สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ เวลานั่งเกวียนผ่านระหว่างองค์พระธาตุที่อยู่บนยอดดอยกับแม่น้ำจาง จะมีเสียงดังก้องอยู่ใต้พื้นดินเหมือนเสียงกลองดังก้องไปทั่วบริเวณเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจชาวบ้าน เพราะเป็นของแปลก แต่ปัจจุบันไม่มีใครได้ยินเสียงดังกล่าวอีกเลย ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า เสียงดัง กล่าวเกิดจากโพรงใต้ดินที่อยู่ใต้องค์พระธาตุ ทะลุเป็นแนวยาวลงไปถึงฝั่งแม่น้ำจาง ตรงบริเวณที่ชาวบ้านเรียกว่า วังธาร ซึ่งเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของแม่น้ำจาง และปากถ้ำอยู่ในบริเวณนี้ด้วย ปัจจุบันมีฝายกั้นน้ำถูกสร้างขึ้นบริเวณนี้ ทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้นและปิดปากถ้ำดังกล่าวไปแล้ว และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียงดังใต้ดินหายไป อุโมงค์ใต้พระธาตุนั้นชาวบ้านเล่าว่า เคยมีคนโยนสิ่งของลงไปในอุโมงค์บนยอดดอยพระฌาน แล้วของเหล่านั้นก็ลอยมาโผล่ที่แม่น้ำจางบริเวณวังธาร จึงเชื่อกันว่ามีถ้ำอยู่ใต้ดินเชื่อมแม่น้ำจางกับดอยพระฌาน
ประเพณีขึ้นดอยพระ
เมื่อถึงวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ (เดือน ๙ ของทางเหนือ) ของทุกปี พุทธศาสนิกชนชาวตำบลป่าตันและตำบลใกล้เคียงจะพากันเดินขึ้นดอยไปสักการะพระธาตุบนดอยพระฌาน โดยมีผู้นำของชุมชนที่สำคัญคือ อดีตหลวงพ่อปัญญา วัดนาคตหลวง พระสงฆ์ผู้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของพระ เณร และสาธุชนทั้งหลาย ซึ่งมรณภาพไปแล้ว ท่านเป็นผู้นำคณะศรัทธาชาวตำบลป่าตัน มาสักการะพระธาตุเป็นประจำทุกปี มีการจุดบั้งไฟบูชาพระธาตุและการแข่งขันบั้งไฟด้วย และได้รับการสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0352.jpg (2010-12-12 01:24, 98.69 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0359.jpg (2010-12-12 02:31, 99.32 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 57
รูปภาพที่แนบมา: 49.jpg (2010-12-12 04:36, 22.99 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 58
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0355.jpg (2010-12-12 22:03, 99.1 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
ในอดีตที่ผ่านมา หลวงพ่อปัญญา วัดนาคตหลวง เป็นผู้นำพระ เณร และพุทธศาสนิกชนในตำบล มาช่วยกันบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุและบริเวณโดยรอบ พื้นที่บนยอดเขามีขนาดเล็กและแคบ สิ่งก่อสร้างที่เคยมีอยู่ คือ ศาลาไม้ แต่ปัจจุบันถูกรื้อไปแล้วเพราะชำรุดไปตามกาลเวลา ส่วนที่คงเหลืออยู่ก็คือ บ่อซีเมนต์สำหรับเก็บน้ำฝนที่ยังสามารถใช้งานได้อยู่
เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๖ นายประเสริฐ ชื่นเมือง ผู้ใหญ่บ้านนาคตหมู่ที่ ๓ ในตอนนั้น ได้สร้างศาลาคอนกรีตเสริมเหล็กตรงหน้าพระธาตุขึ้นมาหลังหนึ่งทดแทนศาลาเดิม เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเวลามีงานประเพณีประจำปี
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เทศบาลตำบลป่าตันนาครัว ได้ก่อสร้างศาลาเอกนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาหนึ่งหลัง
ต่อมาปีพ.ศ. ๒๕๕๒ มีพระสงฆ์มาจำพรรษา จึงได้ต่อเติมอาคารเอนกประสงค์ สำหรับเป็นที่พักสำหรับจำพรรษา
เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ คณะพุทธศาสนิกชนจากต่างถิ่นและคนในพื้นที่ ได้มาช่วยกันเดินเสาไฟฟ้าขึ้นมาบนดอยพระฌาน ประกอบด้วยญาติโยมจากหน่วยงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตบางกรวย กรมทางการ ฯลฯ เพื่อให้พระสงฆ์มีไฟฟ้าใช้สำหรับปฏิบัติศาสนกิจ และก่อสร้างกุฏิในตอนนั้น
ต่อมาวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ญาติโยมชาวบ้านนาคตพัฒนาได้นิมนต์พระสงฆ์สองรูป คือพระพรชัย อัคควังโส และพระปิยพงษ์ ธัมมะวังโส จากวัดเชตวัน ในเมืองลำปาง ขึ้นมาอยู่บนดอยพระฌาน และญาติโยมได้นำผ้าป่าสำหรับสร้างกุฏิมาถวายวันที่ ๑๕ เมษายน และวันที่ ๒ พฤษภาคม นอกจากนี้บุตรสาวของจสอ.สมาน-คุณวิมล พุฒมาเล บ้านนาคต บริจาคอิฐสำหรับใช้ก่อสร้างอีก ๕,๐๐๐ ก้อน
ต่อมาวันที่ ๑๗ เม.ย. พ.ศ. ๒๕๕๓ ญาติโยมจากบ้านนาคตพร้อมใจกันจัดผ้าป่าสามัคคีขึ้น เพื่อเป็นปัจจัยสำหรับใช้ในการก่อสร้างวัดต่อไป
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๙ เม.ย. ๒๕๕๓ ผู้มีจิตศรัทธาจากองเมืองลำปางและญาติโยมบ้านป่าตัน ได้นำพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาถวาย เพื่อเป็นที่สักการบูชาแก่พุทธศาสนิกชน พร้อมกันนี้ได้ถวายผ้าป่าและบริวารอีก ๑ กอง
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒ พ.ค. ๒๕๕๓ กลุ่มลูกหลานหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ในนามสมาชิกเว็บพระรัตนตรัย ได้ร่วมกันถวายผ้าป่าประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เพื่อเป็นปัจจัยในการก่อสร้างอาคารเอกนกประสงค์ (โรงครัว โรงทาน ที่พัก)
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๑ พ.ค. ๒๕๕๓ คุณสมคิด เชื้อคำลือ ได้เป็นเจ้าภาพบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุดอยพระฌาน
แหล่งที่มาข้อมูล เว็บดอยพระ ดอทคอม (http://www.doipra.com/wat/)
รูปภาพที่แนบมา: 0Doipra-058.jpg (2010-12-12 02:47, 99.99 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
รูปภาพที่แนบมา: 32.jpg (2010-12-12 04:32, 15.15 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
ทางไปกราบนมัสการรอยพระบาทและรอยพระหัตถ์พระอรหันต์ผู้ติดตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์ ค่ะ ตามมาเลยค่ะ
รอยพระบาทและรอยพระหัตถ์ของพระอรหันต์ผู้ติดตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์ พึ่งค้นพบใหม่ค่ะ
ประวัติการค้นพบรอยพระบาทและรอยพระหัตถ์ วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์
ในช่วงเวลาเช้า วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ พระพรชัย อัคควังโส ได้เดินลื่น ณ บริเวณนี้ แล้วท่านได้เหลือบไปเห็นรอยพระบาทประดิษฐานบนก้อนหินค่ะ
ทางคณะได้ถวายดอกไม้ ปิดทอง พรมน้ำอบน้ำหอม ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา แด่รอยพระบาทและรอยพระหัตถ์ค่ะ
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0318.jpg (2010-12-12 03:19, 288.66 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 67
รูปภาพที่แนบมา: 0Doipra-035.jpg (2010-12-12 03:19, 99.97 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 69
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0313.jpg (2010-12-12 21:28, 99.19 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0331.jpg (2010-12-12 21:38, 98.05 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: 0Doipra-045.jpg (2010-12-12 03:28, 99.02 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1468.jpg (2010-12-12 06:12, 108.1 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 59
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1470.jpg (2010-12-12 06:17, 98.71 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0327.jpg (2010-12-12 06:27, 99.42 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0329.jpg (2010-12-12 21:43, 99.41 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1726.jpg (2010-12-12 03:31, 238.64 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 66
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1722.jpg (2010-12-12 03:32, 94.99 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1723.jpg (2010-12-12 03:32, 98.11 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
เชิญพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญการทอดผ้าป่า สร้างวิหารและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก ๔ ศอก ครั้งที่ ๒ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ถวาย ณ วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์ ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญกับคณะผู้จัดทำหรือกับวัดพระธาตุดอยพระฌานโดยตรงที่
ชื่อบัญชี พระพรชัย อัคควังโส บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย
สาขาแม่ทะ จ.ลำปาง
เลขที่บัญชี ๕๒๘-๐-๐๘๑๕๙-๐
ขอคุณพระศรีรัตนตรัย โดยมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ตลอดจนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และพรหมเทวดาทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้ จงมีแต่ความสุขสดชื่นร่มเย็น และความเจริญ ประสงค์สิ่งใดขอให้ท่านทั้งหลายจงสำเร็จสิ่งนั้นโดยเร็ว และมีความคล่องตัวในหน้าที่การงานทุกๆ ท่านเทอญ
ผู้มีจิตศรัทธาท่านใดอยากจะร่วมเป็นเจ้าภาพในการสร้างวิหารและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม สามารถลงชื่อที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อได้ที่กระทู้นี้ แล้วทางเราจะส่งซองไปตามจำนวนที่ท่านต้องการค่ะ และผู้มีจิตศรัทธาท่านใดโอนเงินร่วมทำบุญสร้างวิหารและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมแล้ว สามารถมาโพสบอกรายละเอียดการทำบุญได้ที่กระทู้นี้เลยนะคะ เพื่อให้สมาชิกท่านอื่นๆ ได้โมทนาบุญร่วมกัน และทางหลวงพี่ วัดพระธาตุดอยพระฌานโพธิญาณรังสฤษฏ์ จะได้รู้ยอดจำนวนเงินที่ผู้จิตศรัทธาร่วมทำบุญว่ามีเจตนาทำบุญสร้างวิหารและพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมโดยเฉพาะ เพราะชื่อบัญชีที่ให้ไว้เป็นบัญชีการก่อสร้างของวัดทุกอย่างค่ะ โมทนาบุญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทุกท่านค่ะ |
ติดตามรายละเอียดประวัติความเป็นมาของวัด ตลอดจนการก่อสร้างภายในวัดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บดอยพระ ดอทคอม (http://www.doipra.com/wat/) และ เว็บพระรัตนตรัย ดอทคอม (http://www.praruttanatri.com) กระดานสนทนา หัวข้อดอยพระฌาน ค่ะ
รูปภาพที่แนบมา: 2.jpg (2010-12-12 03:40, 15.45 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 61
รูปภาพที่แนบมา: 1.jpg (2010-12-12 03:40, 15.62 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 54
รูปภาพที่แนบมา: 13.jpg (2010-12-12 03:49, 17.06 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: prapatum.jpg (2010-12-12 11:09, 53.07 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 68
ประวัติสมเด็จองค์ปฐมและอานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม
ประวัติสมเด็จองค์ปฐม
หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี”แต่พระพุทธ เจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้วอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง ๕ พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น “พระพุทธสิกขีที่ ๑” พระองค์จึงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่าทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู” อย่างแท้จริง
ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์เสด็จมาเล่าให้ฟังหลวงพ่อฟังที่บ้านสายลมว่า สมัยที่พระองค์ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้นคนมีอายุขัยประมาณ ๘ หมื่นปี พระองค์เสด็จออกมหาภิเษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ ๔ หมื่นปี หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก ๒ หมื่นปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ อีกประมาณ ๒ หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพานหลังจากทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง ๔๐ อสงไขยกัปในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณ ด้วยพระองค์เอง ทรงใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ถึง ๔๐ อสงไขยกัปเศษดังนี้
อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม
หลวงพ่อ : “...ช่างมาถามเกี่ยวกับลักษณะองค์ปฐม อาตมาบอกสร้างแบบพระพุทธรูปธรรมดา แต่ต้องอ้วนหน่อยนะ คือมีเนื้อมากหน่อย ไม่ใช่อ้วนพุงพลุ้ยนะ และก็เวลาลงไปสอนกรรมฐาน เมื่อเสร็จแล้วเขาก็คุยกัน เขาก็ถามปัญหา ถามไปถามมา เขาถามถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมว่า
ถ้าจะสร้างจะมีอานิสงส์ยังไง ลุงสองลุง นายบัญชีกับลุงพุฒิ (หมายถึงท่านพระยายม) ท่านบอกว่าการสร้างองค์ปฐมนี่ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอกนี่...บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา) “บัญชีสีทอง” เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ฉันอยากได้บัญชีเอามาขาย ท่านบอก ถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ต้องเป็นคนมีบุญมาก...หรือไง? แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องเงินมากนะ คือว่าโดยมากเราจะนึกไม่ถึงกันใช่ไหม เรานึกถึงพระกกุสันโธ พระโกนาคม พระพุทธกัสสป แต่ยังไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม เพราะว่าการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมดและการทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดีสถานที่ก็ดีไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม ส่วนใหญ่ไปนึกถึงพระศรีอาริย์ ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้าใช่ไหม นี่องค์นี้เป็นองค์แรก
ก็คุยกันแล้วท่านบอกว่า การสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่า เป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด ใช่ไหม และการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตามอย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไปที่เขามีน้อยๆ บาทสองบาท สิบสตางค์ยี่สิบสตางค์พวกนี้เอาไปใส่แท่นอย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด ก็ถามว่า บัญชีสีทอง หมายถึงอะไร ท่านบอกมันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด
การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่ อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้าบัญชีสีทองไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น จะทองคำก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม...เหมือนกัน ลงบัญชีเล่มเดียวกัน..”
(แหล่งที่มาข้อมูล อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม นำมาจากหนังสือ “ประวัติการสร้างสมเด็จองค์ปฐม
โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี รวบรวมโดยพระชัยวัฒน์ อชิโต เรียบเรียงและคัดลอกโดยคณะผู้จัดทำ คุณอิฏฐพงศ์ ขันธ์เครือ และคุณเกศราทิพย์ สุทธิ์วรรณ)
รูปภาพที่แนบมา: wp2_800.jpg (2010-12-12 04:03, 62.09 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 59
รูปภาพที่แนบมา: 4.jpg (2010-12-12 04:03, 18.69 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: 25.jpg (2010-12-12 05:37, 18.72 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 65
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1714.jpg (2010-12-12 04:09, 253.9 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 70
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0338.jpg (2010-12-12 04:10, 292.15 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 72
รูปภาพที่แนบมา: IMG_0336.jpg (2010-12-12 21:57, 98.77 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 64
ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
รูปภาพที่แนบมา: 56.jpg (2010-12-12 04:17, 17.48 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 63





ต้นฉบับโพสต์โดย pimnuttapa เมื่อ 2010-12-12 00:53
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-28 07:41 โดย pimnuttapa


| ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://www.dannipparn.com/) | Powered by Discuz! X1.5 |