ที่มาแห่งคำว่า"นาค"สำหรับผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุ

	นาค (งู) เป็นสัตว์เีดียรัจฉาน ซึ่งในสมัยที่พระพุทธเ้จ้าทรงตรัสรู้ ในสมัยนั้น นาคตัวหนึ่งอึดอัด ระอา เกลียดกำเนิดของตน ที่ถือกำเนิดเป็นนาค จึงดำริคิดว่า  ด้วยวิธีใดหนอ เราจึงจะพ้นจากกำเนิดนาค และได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน ครุ่นคิดอยู่อย่างนี้เป็นเวลาช้านาน จนกระทั่ง ได้ดำริต่อไปว่า  สมณะเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้แลเป็นผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย์ กล่าวแต่คำสัตย์ มีศีล  มีกัลยาณธรรม หากเราจะบวชในสำนักเชื้อสายศากยบุตร ด้วยวิธีนี้ เราก็จะพ้นจากกำเนิดนาคและกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วขึ้น                             ครั้นแล้ว นาค จึงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม แล้วเข้าไปหาภิกษุทั้งหลาย(ภิกษุผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า)ขอบรรพชา ภิกษุทั้งหลาย จึงให้ชายหนุ่มนั้นได้เข้าบรรพชาอุปสมบท และครองชีวิตสมณะเพศ อยู่เป็นเวลานาน พระนาคนั้นอาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนี่ง                              ต่อมาในใกล้รุ่งสางของราตรีหนึ่ง  ภิกษุรูปนั้น ครั้นตื่นจากจำวัด(นอน)แล้ว ก็ออกไปเดินจงกรมอยู่ในที่แจ้ง เหลือแต่พระนาคอยู่เพียงลำพัง พระนาคก็วางใจเมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ร่วมด้วย ก็จำวัด(นอน) วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วย งูขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง                              ครั้นภิกษุรูปนั้นที่ออกไปเดินจงกรม กลับมาที่วิหาร ก็ผลักประตูประสงค์เข้าในวิหารอันเป็นที่พัก จึงเห็น วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง ก็ตกใจ จึงร้องเอะอะเสียงดังขึ้นแล้วิ่งหนีออกไปนอกวิหาร  ภิกษุที่พำนักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเมื่อได้ยินเสียงร้องดังของภิกษุผู้เห็นงูนั้น ก็พากันวิ่งไปดู พบภิกษุผู้ร้องเสียงดังนั้นจึงถามว่า "อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทำไม"                               ภิกษุรูปนั้นบอกว่า "ท่านอาวุโสทั้งหลาย วิหารนี้ทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง" ในขณะนั้นเอง ด้วยเสียงเอะอะ อื้ออึงของพระภิกษุ ทำให้พระนาคตื่นขึ้น และนั่งบนอยู่อาสนะของตน ทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง  ภิกษุัทั้งหลายเมื่อได้รับฟังถ้อยคำของพระภิกษุที่อาศัยอยู่ในวิหารแล้วก็พากันเข้าไปในวิหารหมายจะดูให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น จริงดังที่ภิกษุนั้นกล่าวหรือไม่ เมื่อเข้าไปในวิหาร  ก็เห็นภิกษุผู้เป็นนาคนั่งอยู่บนอาสนะของตนเอง ไม่พบงูตามที่ภิกษุนั้นบอกเล่า  ภิกษุทั้งหลายจึงได้ถามขึ้นว่า "ท่านอาวุโส ท่านเป็นใคร" พระนาคจึงตอบไปว่า "ผมเป็นนาค ขอรับ" ภิกษุผู้ถามจึงถามต่อไปว่า "ท่านทำอย่างนี้เพื่อประสงค์อันใด" พระนาคจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย และต่อมาภิกษุทั้งหลาย จึงนำความไปทูลให้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบ                               ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ด้วยเพราะเหตุอันเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วใดทรงประทานพระพุทธโอวาทแก่นาคนั้นว่า                               "พวกเจ้าเป็นนาค ไม่มีความงอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ไปเถิดนาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔  ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ ด้วยวิธีนี้ เจ้าจะพ้นจากกำเนิดนาค และจักได้กลับอัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน"                               ครั้นเมื่อนาคได้ทราวว่าตนไม่มีความเจริญงอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ก็เสียใจหลั่งน้ำตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป                               ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งแก่พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายว่า.                                            "ภิกษุทั้งหลาย ! เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค มีสองประการคือ เวลาเสพเมถุนธรรมกับนางนาคผู้มีชาติเสมอกัน ๑ เวลาวางใจนอนหลับ ๑  ภิกษุทั้งหลาย     นี้แลคือเหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค ๒ ประการ  ภิกษุทั้งหลาย อนุสัมปันคือ สัตว์เดียรรัจฉาน ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้ลาสิกขา(สึก)เสีย                                                                                                                               มหาวิภังค์ /พระวินัยปิฏก ๔/๑๗๕/๑๒๗

	สาธุค่ะ