"สอบถามการนั่งสมาธิ ก่อนนั่งต้องสวดมนต์ไหม หากจะจับพุทโธให้กำหนดตามดูยังไงครับ"
ไม่สวดอะไรเลยก็ได้ เมื่อจะนั่งสมาธิพึงสำรวจจิตของตัวเองว่าพร้อมที่จะนั่งแล้วพยายามวางอารมณ์ทุกอย่าง ความกังวล ทำใจให้เป็นกลาง แล้วสำรวจจิตว่าตอนนี้จิตมันวอกแว่กคิดฟุ้งซ่านไหม ให้วางอารมณ์ที่เราเป็นนักเรียนหรือนักธุรกิจ หน้าที่การงาน เมื่อพร้อมแล้วไปนั่งในที่สงบ จะกราบระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย3 ครั้ง ระลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณของท่าน แล้วก็ตั้งจิตว่าจะนั่งจะดูลมหายใจเข้า จะดูลมหายใจออก ทำใจให้ว่าง จิตว่อกแว่กไปที่อื่นไหม เมื่อเห็นแล้วก็สูดลมหายใจ ทำตัวให้ตรง ดำรงสติไว้ที่ลมหายใจเข้าพุทธ
ถ้าเป็นผู้ฝึกใหม่สมควรที่จะต้องจับดูลมหายใจเข้าเหมือนอานาปานสติ หายใจเข้ายาวก็รู้ หายใจออกสั้นก็รู้ หายใจแผ่วเบาก็รู้ หายใจไม่มีลมหายใจก็รู้ จำเป็นที่สุดคือเป็นกลาง คุณจะต้องมีสติระลึกรู้ลมหายใจเข้าพุทธ ยาวคุณก็ต้องรู้ว่ายาว สั้นคุณก็ต้องรู้ว่าสั้น ให้คุณสังเกตดูต่อไป แผ่วเบาก็ให้รู้ เพราะเวลานั่งใจจะได้ไม่ไปติดสุข ใจจะได้ไม่ยึด มันจะสงบอย่างเดียวไม่รับรู้อะไร เป็นมิจฉาทิฏฐิ
ขณะที่คุณจดจ่อพุทกับโธ คุณอย่าไปซีเรียส อย่าไปคิด ทำสบายๆ เหมือนนั่งทำงานไป คุณมีสติระลึกรู้ตามลมหายใจเข้า ตามลมหายใจออก คำบริกรรมว่าพุทโธ อาการของท้องลมมันเข้ากับอาการออกคุณรู้เท่าทันทุกขณะไหม มันมีความรู้สึกโล่งขัดฝืดเคืองคุณรู้สึกทุกขณะไหม
คุณจำเป็นต้องดูตามความรู้สึกรู้ทุกขณะที่เคลื่อนไหวของลมต้นทางจนถึงที่สุด ในขณะที่คุณนั่งจ้องพุทกับโธอยู่นั้นคุณได้ยินเสียง คุณมีสติรู้ไหมว่า เออ เสียงมาแล้ว เสียงมากระทบที่หู คุณก็รู้ว่า เออเสียงมากระทบที่หู ดูสิว่าคุณไปยินดียินร้ายกับเสียงไหม คุณพอใจในเสียงไหม เสียงมากระทบคุณหงุดหงิดไหม คุณก็ให้มีสติรู้ตาม ถ้ามันหงุดหงิดคุณก็มีสติรู้ว่ามันหงุดหงิดหรือคุณจะบริกรรมว่า "หงุดหงิดหนอ" "ได้ยินหนอ" คุณจะอุทานหรือไม่อุทานก็แล้วแต่ความพอใจของคุณ
ทีนี้เวทนาเกิดขึ้น ถ้านั่งมันเจ็บมันปวดก็บอกว่า "โอ้เวทนาเกิดขึ้นแล้ว" ดูสิว่าเราเอาจิตไปจดจ่อกับมันมั้ย มันทรมานมั้ย ว่าคุณนี่ทุกข์ ถ้าทุกข์คุณทนไม่ได้ ก็ลุกมาเดินพุทโธ พุทยกขึ้นย่างเหยียบลงไป พอเท้าจะถึงพื้นก็โธ แล้วให้คุณมีสติรู้เท่าทันกับจิตกับปัจจุบันทุกขณะ กายกระทบกับลมก็เย็น ให้คุณรู้ว่าเย็น ร้อนก็ให้รู้ว่าร้อน ถ้านั่งสมาธิ ถ้าอยากรู้ว่ามันร้อนว่ามันเย็นก็อย่าเปิดพัดลม อย่าอยู่ในห้องแอร์ มันจะได้เห็นความเป็นจริง ร้อนแล้วคุณหงุดหงิดไหม ลมพัดมาเย็นยินดีไหม
พุทแล้วมันเข้า เวลาออกทันมันมั้ย จะให้การบ้านว่า พอหายใจเข้า พุทมันหยุดก่อนมั้ยก่อนที่มันจะออกโธ คุณแยกแยะพิจารณาสิ อันนี้เป็นการเจริญสติและปัญญาที่มีไหวพริบ บางคนพุทโธไปแล้วมันไม่จับจุดก็ไปได้ช้า กำหนดอะไรมาก็ได้ แม่มีคำถามของแม่ทั้งนั้น เธอไม่เอาหนอ เธอรู้มั้ยหูมาหาเสียงหรือเสียงไปหาหู ตอบเสียงไปหาหู ผู้ปฏิบัติบางคนนิ่งชะจนไม่ได้ยินเสียง แต่พอได้ยินตอบว่าหูไปหาเสียง แม่ให้พิจารณาดีๆ พอเข้าลึกๆแล้วไม่ได้ยินเสียง มันดับไปเลย บางคนได้ณาน ก็ตอบหูไปหาเสียง การนั่งสมาธิที่ถูกไม่ใช่เงียบหาย ตัวหาย ไม่รับรู้อะไรเลย หูได้ยินเสียง กายรู้สัมผัสร้อนเย็น จมูกได้กลิ่น รู้ความรู้สึกที่ใจอยู่ทุกขณะ ฟุ้งก็ให้รู้ว่ามันฟุ้ง เราต้องเห็นความจริงทุกอย่างที่ใจเมื่อมีสิ่งมากระทบ เพื่อที่จะค่อยๆถ่ายถอนออกไป