แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ (เกศาธาตุ, พระบรมธาตุนลาฏเบื้องซ้าย) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_9167.jpg



ตำนานพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง (เรียบเรียงใหม่) (ต่อ)

พระอุบาลี (หลานของขุนแสนทอง) ได้ตามเสด็จพระพุทธเจ้าไปไม่นานนัก เพราะสังขารไม่เที่ยง ก็ได้รำพึงถึงกาลวาระสุดท้ายของตน ก็คิดอยากไปนิพพานยังบ้านปู่ เมื่อคิดดีแล้วก็เข้าไปกราบลาพระพุทธเจ้า เพื่อไปอวสานอายุในดินแดนของปู่ พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่อุบาลีว่า “ท่านอุบาลี กลับบ้านเกิดเมืองนอน ตงยากจักกลับมาหาเรา ตถาคตจึงขอให้ท่านอุบาลีแสดงฤทธานุภาพเทศนาธรรมให้ตถาคตฟังก่อนเถิด”

ครั้นพระอุบาลีเข้าจตุถฌานแล้วได้อภิญญาฌานเสด็จขึ้นสู่อากาศเวหา ถึงความสูงประมาณ ๗ เท่าของต้นตาล ก็นั่งขัดสมาธิเหนือเวหา แล้วจึงเทศนากราบไหว้ที่เท้า ๕ ครั้ง นอบน้อมถวายก้มประมนกรเหนือเศียรแล้วออกมาจนสุดสายตาแห่งพระพุทธเจ้า แล้วเหาะไปในอากาศลัดมือเดียวก็ถึงเมืองปู่ของพระอุบาลี แล้วบอกเหตุการณ์อันใกล้วาระ ที่องค์ท่านอุบาลีจะมาถึงแก่ปู่แล้วให้นึกน้อยใจตนเองว่า

“โอ้หนอ โอ้หนอ ตัวเรานี้คิดว่าปู่จะสิ้นบุญก่อนเรา แต่บัดนี้เราเสียอีกจะสิ้นบุญก่อนปู่ จำเราต้องเทศนาธรรมโปรดปู่ก่อนเถิด” แล้วท่านอุบาลีก็เสด็จขึ้นอากาศประมาณ ๒ ชั่วต้นตาล แล้วเทศนาธรรมบรรยายหลายประการ ปู่ของพระอุบาลีก็ทำการสักการบูชามากมายเมื่อเสด็จปรินิพพาน ปู่ของพระอุบาลีก็ทำการฌาปนกิจถวายเสร็จแล้วเก็บพระอัฐิธาตุใส่โกฏิเก็บรักษาไว้สักการบูชา

ส่วนพระพุทธเจ้านั้น ทรงโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายตราบเท่าอายุ ๘๐ พรรษา เมื่อใกล้ปรินิพพานก็เสด็จมาเมืองกุสินาราแล้วตั้งสัจจาธิษฐานขอเก็บอัฐิธาตุของตถาคตคือ พระนลาฏข้างซ้ายและกระดูกหน้าผากด้านซ้าย) ขออธิฐานให้เก็บอัฐิธาตุชิ้นนี้ไว้ที่ดอยเกิ้ง

ขุนแสนทองอยู่รักษาเคารพเกศาธาตุแห่งพระพุทธเจ้าจนอายุ ๗๓ ปี ก็จุติสังขารไปเกิดเป็นเทวบุตรอยู่วิมานแห่งรุกขเทวดารักษาต้นไม้ต้นหนึ่งสูง ๑๒ โยชน์ อยู่รักษาพระเกศาธาตุจนตราบเท่า ๕,๐๐๐ ปี เมื่อไรพระศรีอาริยเมตตรัยลงมาเกิด เมื่อนั้นขุนแสนทองก็จะได้มาเกิดเป็นอัครสาวกองค์หนึ่ง

25.jpg



พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ๒๑๘ ปี ได้มีพญาองค์หนึ่งทรงพระนามว่า “ศรีธรรมโศกราช” อยู่ในเมืองปาตลีบุตร มาเกิดในศาสนาของพระพุทธเจ้า และมีพระมหาโมคคัลลานและปุตติสละเถระเจ้าเป็นประธานในพระอรหันต์ทั้งหลาย ในระหว่างมีการประชุมสังคายนาแล้วได้สร้างวิหารไว้รอบ ๒ ล้าน ๘ แสนหลัง และก่อนพระเจดีย์ไว้ ๘ หมื่น ๗ พันหลัง แล้วไปขุดพระธาตุแห่งพระพุทธเจ้าซึ่งพระมหากัสสปเถระเจ้าและพระเจ้าอชาตศัตรูได้ฝังไว้ในกรุงราชคฤห์ออกมาเพื่อนำไปแจกตามหัวเมืองต่างๆ ๘,๔๐๐ เมือง

IMG_9166.jpg



ตำนานพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง (เรียบเรียงใหม่) (ต่อ)

ครั้งนั้นพระอรหันต์เจ้า ๕๐๐ รูป ได้มารับพระธาตุแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหมดพร้อมด้วยธรรมภิธกไปแจกตามหัวเมืองต่างๆ ที่พระพุทธองค์ทรงทำนายไว้เป็นลำดับจนมาถึงเจดีย์ซึ่งมีพ่อค้าสองคนพี่น้อง ชื่อตุปุสสะ และภัลลิกะ ได้มาถวายข้าวมธุปายาสแก่พระพุทธองค์ในวันพระและได้ขอพระเกศา ๒ องค์ (ผม ๒ เส้น) เพื่อนำไปประดิษฐานเหนือภูเขาชื่อดอยสิตัสตถราชะปัปปัตตา ในอุระชนบท

พระอรหันต์เจ้าทรงรำพึงว่าเกศา ๒ เส้นนี้ พ่อค้าสองพี่น้องจักนำไปสร้างเป็นเจดีย์ไว้ที่นี้อาจไม่รุ่งเรืองไปตราบถึง ๕,๐๐๐ ปีในภายภาคหน้า พระศาสนาก็จะเป็นสมบัติของสาธารณชนว่าดังนั้นแล้วพระอรหันต์จึงนำพระเกศา ๒ องค์ เดินทางไปจนถึงภูเขาชื่ออุจจุปัปปัตตาหรือดอยเกิ้ง ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของห้วยที่มาบรรจบกัน มีต้นมะส้านลำต้นใหญ่โตวัดโดยรอบ รวมได้ ๗ กำมือ

พญาศรีธรรมโศกราช ก็รีบสร้างโกฏิทองคำใบหนึ่งกว้าง ๓ ศอก แล้วสร้างพระนอน (พระปางไสยาสน์) องค์ยาว ๗ ศอก และพระพุทธรูปองค์เล็กๆ นั่งเรียงกันอีก ๓ องค์ สูง ๓ ศอก มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อีก ๕๐๐ องค์ พระแก้ว พระเงิน พระทองคำ พระไม้แกะสลัก พระอินทร์ มีครบทุกประการบริบูรณ์ พร้อมหีบบรรจุพระธรรม ๗ หีบ ฆ้อง ๑ ใบ กว้าง ๒ วา พร้อมด้วยฉัตรและแส้ สร้างด้วยฝีมือชาวมอญ พร้อมด้วยเครื่องบูชาทุกประการ

พระอรหันต์เจ้าทั้งหลายก็ได้กล่าวกับลูกหลานขุนแสนทองว่า สูเจ้าทั้งหลาย จงไปนำเอาผอบธาตุของพระอุบาลีมาเก็บรักษาไว้ในถ้ำนี้เถิด ในภายภาคหน้าตัวเราก็จะมรณภาพลงจักหาผู้ดูแลไม่ได้ บุตรหลานพระอุบาลีจึงได้นำผอบบรมธาตุพระอุบาลีมาไว้ในถ้ำนั้น

ครานั้น  พระอรหันต์เจ้าทั้งหลายและพญาศรีธรรมโศกราช จึงนำผอบธาตุของพระพุทธเจ้ากับ
พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นนั้นนำไปสู่ปากถ้ำ พระอินทร์เจ้าก็นำฉัตรมากั้นแสงแดด พากันเดินสู่ปากถ้ำ เปิดประตูถ้ำและลั่นไกยนต์ เมื่อถึงตรงที่เก็บพระเกศาธาตุ ๒ องค์ ใส่ไว้ในผอบแรก นำมารวมใส่ในผอบใหญ่ด้วยกันแล้วนำพระนลาฏข้างซ้ายรวมลงในผอบเกศา ๒ องค์ แล้วนำออกมาจากถ้ำ ว่ายน้ำมาทางทิศตะวันออก และนำพระบรมธาตุอีกทะนานหนึ่งซึ่งได้มาจากลังกาทวีปนำเข้ามารวมกันในผอบลูกใหญ่แล้วตั้งไว้บนแท่นทองคำ

แท่นนี้สูง ๓ ศอก วางไว้บนผอบของพระอุบาลี แล้วก่อสร้างรอบๆ ประมาณ ๒ วา ชั้นกลางมีหีบธรรม ๗ หีบ ชั้นล่างบรรจุพระพุทธรูปแทนองค์พระพุทธเจ้า หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เหมือนดังแท่นบูชาพระในบ้านเราที่บูชา อาสนะก็ตั้งบูชาไว้อย่างเดิม ส่วนฆ้องใบนั้นพระอินทร์ได้ทำขอห่วงเหล็กไว้บนฆ้อง ลั่นบูชาทุกวันพระ ฆ้องนี้คน ๑๐ คนตีถึงจะดัง ส่วนพญาศรีธรรมโศกราช ก็สร้างประตูกว้าง ๑ คืน ๒ ศอก มีภาพเขียนพราหมณ์ มีคำเขียนไว้บนพุงและมอบดาบกายสิทธิ์ (ดาบสรีกั๋นไจย) อยู่เฝ้าประตูซ้ายขวา แล้วนำหินก้อนหนึ่งขนาดเท่าร่มมาปิดประตูถ้ำทางทิศเหนือซึ่งมีต้นประดู่ต้นหนึ่ง ทางทิศใต้มีต้นราชพฤกษ์ต้นหนึ่งเป็นเครื่องหมายไว้

IMG_9165.jpg



ตำนานพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง (เรียบเรียงใหม่) (ต่อ)

พระอรหันต์เจ้าทั้งหลายก็นำหินก้อนเล็ก ขนาดข้าวเหนียวจี่ (ข้าวเหนียวปิ้ง) ไปตั้งไว้ทางทิศเหนือจอมภูเขานั้น เพื่อเป็นเครื่องหมายพระบรมธาตุเจ้า แล้วพระอินทร์ก็รำพึงว่าฉัตรทองคำของเรานี้ เมื่อพระพุทธองค์ยังทรงมีชีวิตอยู่นั้น เราได้กั้นฉัตรนี้แก่ระองค์เอขึ้นไปสู่เขาลูกนี้และเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว เราก็กั้นฉัตรแก่พระบรมธาตุเจ้าขึ้นมาบนเขานี้ด้วย เราจะนำฉัตรนี้ตั้งถวายไว้กับพระบรมธาตุนี้ตราบเท่า ๕,๐๐๐ ปีดีกว่า แล้วพระอินทร์ก็ตั้งฉัตรนั้นไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขามีเทวดา ๘ องค์ อยู่รักษา ๘ ทิศด้วย

เมื่อกลับลงมาถึงห้วย พระอินทร์ได้กล่าวกับพญาศรีธรรมโศกราชว่า “ข้าแต่มหาราชขอให้ท่านหลอมประทีปดวงหนึ่งให้เท่ากับประทีปดวงที่ประดิษฐานไว้ในถ้ำนั้นเถิด” พญาศรีธรรมโศกราชได้หลอมประทีปดวงหนึ่งปากกว้าง ๑ วา สูง ๑ ศอก หนาเท่าหัวแม่มือ พระอินทร์ก็บรรจุน้ำมันทิพย์และไส้เทียนเท่าแขนแล้วจุดประทีปไว้ตลอดเวลาในที่นั้น

พญาศรีธรรมโศกราชได้ถามพระอินทร์ว่า จะให้หลอมสร้างประทีปไว้ที่ตรงไหนอีกเพื่อให้บุคคลได้แลเห็นเป็นที่หมาย พระอินทร์จึงกล่าวว่า “ดูกรมหาราช ในกาลข้างหน้านี้พระศาสนาจักรุ่งเรือง แล้วจักมีพม่าลูกครึ่งคนหนึ่งเป็นคนขี้เมา มีอยู่วันหนึ่งพม่าคนนี้ก็ดื่มเหล้าจะหาอาหารใดมาแกล้มเหล้าก็ไม่มีเลย จึงสะพายแหแล้วเดินไปตามฝั่งแม่น้ำระมิงค์ แล้วเดินไปทางทิศเหนือที่ปากห้วย แลเห็นประทีปมีรัศมีลูกหลานพม่าคนนี้ก็ถามว่า ไฟนี้มีชื่อว่าอะไร แล้วพากันมาดูถึงที่ก็เห็นเป็นดวงประทีป พม่าก็กล่าวว่า อันนี้คือไฟประทีปบูชาพระบรมธาตุเจ้านี้แหละว่าดังนั้นแล้วก็มีความยินดียิ่งนัก จึงเผาแหทิ้งเสีย และทุบไหเหล้าพร้อมกันเลย และโกนผมบวชเป็นปะขาวก็เป็นอุบาสกอุบาสิกา”

พระอรหันต์พร้อมทั้งพญาศรีธรรมโศกราช และพระอินทร์ก็ได้นำพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าไปแจกตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ ตามที่พระองค์ได้ทรงทำนายไว้แล้วก็สิ้นสุดภารกิจเมื่อเดินทางมาถึงเมืองปาตลีบุตร ซึ่งเป็นเมืองที่พญาศรีธรรมโศกราชครองอยู่

นี้แหละจะขอเล่าสู่กันให้ได้ฟังได้อ่าน ขอชักชวนปวงชนทั้งหลายได้มานมัสการยังดอยเกิ้งแห่งนี้ ผู้ใดได้มาแล้ว ต่อไปนี้จนถึงอนาคตให้ได้รู้และเล่าขานต่อกันว่า พระสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าก็มาบรรจุในภูเขาลูกนี้ สถานที่แห่งนี้ก็จักรุ่งเรืองและเลื่องฤาชาปรากฏในพระพุทธศาสนาจักเป็นมหาอารามใหม่หลังหนึ่ง ด้วยปวงชนก็จะมาบำเพ็ญบูชาพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ตรงนี้แหละ ตราบใดที่พม่าขี้เมาไม่ได้มาพบ บุคคลใดบุคคลหนึ่งก็จักมาพบเข้าสักวัน



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9275.jpg



ตำนานพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง (เรียบเรียงใหม่) บทเสริม

จากห้วยน้ำถึงดวงประทีปดวงแรกมีความไกล ๒๕๐ วา และจากประทีปดวงนั้นไปถึงปากถ้ำ ยาว ๗๐ วา จากปากถ้ำถึงประทีปดวงใน ยาว ๗ วา จากประทีปดวงในถึงผอบ ยาว ๑๐ วา จากปากถ้ำถึงยอดเขาไกล ๒๕๐ วา จากยอดเขาถึงผอบไกล ๑๐๐ ศอก

ฝ่ายพม่าครึ่งชาติ (ลูกครึ่ง) เมื่อครั้ง เป็นโยคีรักษาศีลอยู่ที่ภูเขานี้ได้มรรคผลครั้งเมื่อสดับพระธรรมเทศนาในพระธรรมคาถาว่า “อนิจจา วะตะ สังขารา.....ฯลฯ” ของพระพุทธองค์ โยคีเหล่านั้นก็อยู่รักษาพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า หลังกาลสมัยเสด็จปรินิพพานได้ ๓๗ ปี โยคีก็ถึงแก่กรรมลง ก่อนถึงแก่กรรมได้นำเอาหินก้อนหนึ่งมาปิดปากถ้ำและถึงแก่กรรมในถ้ำนั้นและได้จุติเป็นเทวดาอยู่รักษาถ้ำนั้นอีก

ในถ้ำมีรอยพระพุทธบาทในเรือ และเทวดาองค์นี้จะได้เป็นสาวกแห่งพระศรีอาริยเมตตรัยที่จะจุติในภายหน้า เทวดาองค์นี้บางครั้งอยู่ในถ้ำ บางครั้งอยู่ในเรือ วันพระจะไปไหว้พระธาตุที่พระองค์ทำนายไว้ในชมพูทวีปทุกแห่ง เทวดาองค์นี้บางทีแปลงกายเป็นชาวบ้านมีรูปร่างน่าเกลียด ปากเบี้ยว นุ่งห่มจีวรเก่าๆ เดินซอกแซกไปมา ผ้าเปื้อนน้ำหมาก มือถือลูกประคำสีขาว ใครพบมองดูที่เงาของเขา ถ้าไม่ปรากฏเงาให้เชื่อเถิดว่าเป็นโยคีเทวดา หรือบุคคลใดมีความประสงค์จะเข้าไปไหว้พระธาตุในถ้ำอย่ากลัวเขา โยคีจะพาเราไปแล้วจะหายตัวไป ดังนี้แล

IMG_9270.jpg



ตำนานพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง (เรียบเรียงใหม่) บทเสริม (ต่อ)

ยังมีโยคีอีกองค์หนึ่งชื่อ “จะสุเทวะลาสี” ได้ออกจากป่าหิมพานต์ และมาอยู่รักษา พระธาตุดอยเกิ้งอยู่ใต้ปากถ้ำมีหินก้อนหนึ่งรูปร่างคล้ายสิงห์ เขานั่งอยู่ใกล้ๆ ต้นมะขามป้อมมีบ่อน้ำบ่อหนึ่งในนั้น บ่อน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้งมีตลอดกาล โยคีองค์นี้รักษาพระธาตุดอยเกิ้ง ๗ วัน ไปอยู่ป่าหิมพานต์ ๗ วัน (ตำนานนี้พระอินทร์ที่เชิงเขาสุมภูตะ ทวีปลังกาได้ให้ไว้)

ตำนานดอยเกิ้งนี้มีพระมหาเถระเจ้าองค์หนึ่ง เป็นชาวลังกานามว่า “สัทธรรมรังษี" จะไปไหว้พระพุทธบาทที่เขาสุวรรณอุตตะลังกา ลงไปสรงน้ำพบลายพระหัตถ์เป็นอักษรเขียนรำพึงถึงภูเขาที่ชื่อดอยเกิ้ง ตถาคตมาถึงที่นี้แล้ว ขุนแสนทองได้นำสัปทนทองคำมากั้นแสงแดดให้เราตถาคต เราจึงได้ชื่อว่า ดอยเกิ้ง

ตำนานว่าด้วยพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง จึงจบลงตรงบรรทัดนี้ด้วยประการฉะนี้.



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9174.jpg



สมเด็จพระชินธาตุสัมมาสัมพุทธเจ้า

(๑) ในทุกยุคพุทธสมัยพระบรมสารีริกธาตุทุกองค์ล้วนแต่เป็นที่ตั้งรำลึกถึงพระคุณอันเลิศล้ำมิอาจประมาณได้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายทรงเกื้อกูลหนุนนำให้อนุชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาเข้ามาสร้างสมบารมีเพื่อให้เข้าถึงความเป็นผู้ที่ไม่ประมาทสมดังพระปัจฉิมโอวาทในสมเด็จพระพิชิตมารพระองค์นั้น ทว่าในสังคมชุมชนที่กำลังถูกความเจริญทางด้านวัตถุหรือลัทธิวัตถุนิยมเข้าครอบงำชีวิตจิตใจของผู้คนอยู่มาก ได้มีการกล่าวพาดพิงไปถึงพระบรมธาตุเป็นเพียงวัตถุธาตุที่มิจำเป็นต้องเคารพเทิดทูนอย่างเคร่งครัดอีกสืบไปให้เป็นเสมือนหนึ่งว่าสมเด็จประทีปแก้วยังทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ในฐานะเป็นพระบิดาทางธรรมแต่อย่างใด (หรืออีกนัยหนึ่ง พระองค์ท่านทรงเป็นทูลกระหม่อมพ่อในวิวัฎฎะของกัลยาณชนทั้งหลายนั้นเอง) เป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่จักทำให้พระอมตธรรมนี้เสื่อมสูญสิ้นไปได้

(๒) จึงเห็นสมควรที่จะช่วยกันปลุกเร้ากุศลธรรมให้อนุชนได้บังเกิดอารมณ์มหากุศลให้มีขึ้นภายในจิตใจว่า แท้จริงแล้วสมเด็จพระทศพลยังทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ ด้วยพระธรรมอันได้ชื่อว่า ผู้ใดก็ตามเมื่อเข้าถึงอมตธรรมหรือปิดประตูอบายภูมิ ๔ ในเบื้องต้นแลหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในเบื้องปลายเข้าถึงความดับเย็นแล้วฉันใดก็ย่อมจักได้ชื่อว่าเป็นผู้ประเสริฐหรืออริยบุคคลที่ไม่อาจถือได้ว่าเป็นผู้ที่ตายแบบสูญเปล่าอีกเลยฉันนั้น แม้ว่าจักถึงแก่ชีพิตักษัยไปแล้วก็ตาม ดุจดังการเสด็จสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระนางเจ้าสามาวดี พระอัครมเหสีในพระเจ้าอุเทนราชพร้อมด้วยพระอริยสาวิกาบริวารเมื่อครั้นพุทธกาลดังนี้เป็นอาทิ

เพื่ออุปการะเกื้อกูลอนุชนให้ดำเนินตามรอยพระบาทของสมเด็จพระบรมสุคตสืบไป ด้วยการเฉลิมพระเกียรติคุณวิบุลยยศพระบรมธาตุอันประทับอยู่ในพระบรมสถูปเจดีย์ที่อันสมควรใดๆ เป็นของประจำสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระชินธาตุสัมมาสัมพุทธเจ้าถวายเป็นพระพุทธประเพณีทุกยุคทุกพุทธสมัยภายหลังสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เสด็จดับขันธ์ปรินพพานแล้วสักการบูชาอย่างยิ่งด้วยเศียรเกล้าเฉกเช่นเดียวกันกับพระบรมธาตุอื่นใดทุกพระองค์ฉะนั้นแล (มีหลักฐานปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ถูปวงศ์ ประเทศศรีลังกา สรุปความได้ว่า พระอริยบุคคลกราบไหว้ ลุกรับ ยกมือไหว้ แสดงความเคารพเทิดทูนพระบรมธาตุอย่างสูงด้วยการเรียกขานว่า “สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า”

IMG_9200.jpg



สมเด็จพระชินธาตุสัมมาสัมพุทธเจ้า (ต่อ)

(๓) ขอเทพพรหมทั้งปวงมีพระอริยเทพพรหม พระโพธิสัตว์ เทพพรหม ดังนี้เป็นต้น พร้อมด้วยพระยมราชาแลนายนิธิยบาลทั้งปวง รวมทั้งมนุษย์/รูปนามใดที่ได้ทราบการเฉลิมพระบรมธาตุในครั้งนี้เป็นสักขีพยาน แลช่วยผดุงรักษาพระเกียรติคุณวิบุลยยศของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายให้ทรงปรากฎไปทั่วสามภพทั้งในภัทรกัปนี้แลทุกยุคพุทธสมัยสืบไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ขอให้ชนทั้งหลายทุกชาติพันธุ์จงบังเกิดความรักใคร่ปรองดองสามัคคีต่อกันโดยถ้วนหน้า รวมทั้งขอให้ผู้หมั่นบูชากราบไหว้เป็นนิตย์มิได้ขาดด้วยจิตใจบริสุทธิ์สะอาด จงได้รับอานิสงส์ให้ถึงพร้อมไปด้วยมนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ แลนิพพานสมบัติ ให้เป็นผู้มีสัมมาทิฐิอย่างมั่นคง ละเว้นอนันตริยกรรมทั้ง ๕ อกุศลทั้งปวงในเบื้องต้นทุกภพทุกชาติตลอดไป

รวมทั้งได้ดวงตาเห็นธรรมให้สอดคล้องกับพระมหากัจจายนเถรคาถาความว่า “ผู้มีปัญญาถึงมีตาดี” ก็ทำเหมือนคนตาบอด ถึงมีหูดีก็ทำเหมือนดังคนหูหนวก ถึงมีปัญญาก็ทำดังคนใบ้ ถึงมีกำลังก็ทำเป็นดังคนทุธพล แต่เมื่อประโยชน์เกิดขึ้น ถึงจะนอนอยู่ในเวลาใกล้ตายก็ทำประโยชน์นั้นได้” ในเบื้องปลาย เพื่อจักได้นำมาสร้างสรรค์ความสุขสงบร่มเย็นให้แก่สามภพในกาลข้างหน้าทุกยุคทุกสมัยสืบทอดพระอมตธรรมให้ยืนยาวนานกว่าที่เคยเป็นอยู่ตลอดไปด้วยเทอญฯ

(๔) ผู้ริเริ่มการเฉลิมพระบุคลาธิษฐานพระบรมสารีริกธาตุทุกองค์ทำการมหาฐาปนาด้วยมหากุศลเจตนาเคารพเทิดทูนอย่างสูงสุดด้วยเศียรเกล้าถวายเป็นอริยสมบัติรักษาชาติ ศาสนา กษัตริย์ ฉลองพระองค์สมเด็จเจ้าฟ้าจันทรมณฑลโสภณภควดี กรมหลวงวิสุทธิกษัตริย์-พระอสุรินทราหูเวทบุตร (พระราหู) พระกวนอิมมหาโพธิสัตว์ (เทพเจ้าแห่งความเมตตากรุณา) ให้ล่วงหลุดพ้นจากความเป็นทาสใดๆ ในสามภพ เป็นผู้มีความเพียบพร้อมไปด้วยพุทธชาตาและบุญญาธิการมิอาจประมาณได้ตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์ ขออนุโมทนาสาธุการกับศรัทธาทุกท่านในฐานะที่ได้ตั้งมหากุศลเจตนาร่วมกันถวายทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ถวายไว้เพื่อภายหน้าฯ


IMG_9165.jpg



IMG_9185.jpg



จุดธูป เทียน ถวายดอกบัว เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9288.jpg



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระมหาธาตุเจ้าดอยเกิ้ง วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง พร้อมกันเลยนะคะ

คำไหว้พระมหาธาตุเจ้าดอยเกิ้ง
(ตั้งนะโม ๓ จบ)  สุวรรณะ  เจติยัง  อัฏฐิ  เกษา  ธาตุโย  คูหา  เตปิฏะกัง  อุจุปปัพพะเต  พุทธะรูปัง  อะหัง  วันทามิ  สัพพะทา ฯ


IMG_9189.jpg


ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

1.jpg


ภาพถ่ายทางอากาศ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๓ ค่ะ


IMG_9333.jpg


ภาพถ่าย วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ในอดีต ค่ะ


2.jpg



รูปภาพงานก่อสร้างรอบฐาน พระบรมธาตุดอยเกิ้ง วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9070.jpg



IMG_9071.jpg


พระพุทธรูป ประดิษฐานบริเวณด้านหน้า พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


IMG_9096.jpg



IMG_9073.jpg



IMG_9079.jpg



รูปครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานบริเวณด้านหน้า พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


คำไหว้พระครูบาเจ้าศรีวิชัย
(กล่าวนะโม ๓ จบ)  อะยังวุจจะติ  สิริวิชะยะจะนะ  จะ  มหาเถโร  อุตตะมัง  สีลัง  นะระเทเวหิ  ปูชิโต  โสระโห  ปัจจะยาทิมหิ  มหาลาภา  ภะวันตุเม  อะหัง  วันทามิ  สัพพะทา  อะหัง  วันทามิ  สิระสา  อะหัง  วันทามิ  สัพพะโส  สาธุ  สาธุ  สาธุ  อนุโมทามิ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9169.jpg



IMG_9283.jpg



IMG_9092.jpg



พระพุทธรูปปางลีลาองค์เล็ก ประดิษฐานในซุ้ม ด้านหน้า พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


IMG_9147.jpg



IMG_9278.jpg



ฉัตรสัปทน ประดับทั้งสี่มุมรอบ กำแพงแก้ว พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9149.jpg



พระวิหารคด อยู่ด้านข้าง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


IMG_9187.jpg



IMG_9150.jpg



IMG_9152.jpg



พระพุทธรูปปางต่างๆ และรูปภาพหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดํา) ประดิษฐานภายใน พระวิหารคด วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


IMG_9137.jpg


พระพุทธรูปประจำวันเกิด ประดิษฐานด้านหลัง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9233.jpg



IMG_9123.jpg



IMG_9197.jpg



บันไดนาคทางขึ้น/ลง พระวิหารอภิภูนโพธิสัตว์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง อยู่ด้านหลัง พระบรมธาตุเจดีย์ ค่ะ


IMG_9193.jpg



พระวิหารอภิภูนโพธิสัตว์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง อยู่ด้านหลัง พระบรมธาตุเจดีย์ ค่ะ


IMG_9201.jpg



นาคสะดุ้งประดับบนหลังคา พระวิหารอภิภูนโพธิสัตว์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9263.jpg



IMG_9216.jpg



IMG_9228.jpg


ภายใน พระวิหารอภิภูนโพธิสัตว์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


IMG_9249.jpg



IMG_9256.jpg


พระพุทธรูปองค์ประธาน ประดิษฐานภายใน พระวิหารอภิภูนโพธิสัตว์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ


IMG_9259.jpg



รูปภาพพระครูบาบุญศรี อภิปุณฺโณ เจ้าอาวาส วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มูลนิธิสิริวัฒนา ตั้งอยู่ภายใน พระวิหารอภิภูนโพธิสัตว์ วัดพระมหาบรมธาตุเจ้าดอยเกิ้ง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-4-29 04:59 , Processed in 0.078919 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.