แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 9262|ตอบ: 0
go

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ)7 `' a2 Y8 Z6 `
เปรตเกิดจากการที่สมัยเป็นมนุษย์ ชอบก่อกรรมทำเข็ญ และผิดศีลธรรมเนืองๆ และเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปอุบัติเป็นสัตว์นรก ได้รับทุกข์เวทนาเป็นเวลานาน9 q5 ]7 z9 _; e4 X! Q; h

) e/ l2 P. C- c( m$ J7 {  aครั้นหมดอายุไขจากนรกแล้ว ด้วยเศษของกรรมที่กระทำไว้ยังหลงเหลืออยู่ จึงส่งผลให้ไปเกิดเป็น เปรต อยู่ในพื้นภูมิมนุษย์ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่เกิด มีลักษณะและอาการตามนั้นๆ- C; R( i9 m% P% P
5 ~% m, e2 R1 `! D
เปรต ตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ  ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้มากนัก จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ  ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วมาเกิดในชาติหน้า จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่
8 T' {8 _, ?1 Y& N* N
+ C1 W  W& h; T$ r; Q3 G0 fซึ่งจากลักษณะนี้ ทำให้คำว่าเปรต กลายมาเป็นคำด่าในภาษาไทย ที่หมายถึง คนที่อดยากผอมโซ เที่ยวรบกวนขอเขากิน หรือเมื่อมีใคร ได้โชคลาภก็รีบมาขอแบ่งปัน9 R9 U1 V5 a+ z

: W$ c/ U4 y. |* L% kเปรตในภพภูมิปัจจุบัน เมื่ออดีตที่ผ่านมาอาจจะเคยมีความเกี่ยวข้องกับเรา โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ อาจจะเคยเป็นบรรพบุรุษของเราในอดีต หรือมีความเกี่ยวพันกันด้านใดด้านหนึ่ง1 U/ D7 f1 Y$ s8 z# r" R' Q
, e) d$ j6 P  e: Z8 r( w" s
ความสำคัญของพิธีกรรมพลีเปรตยะ:-$ {5 v+ l1 U0 E1 l( ^
(***ผู้ที่ดำเนินการเป็นพิธีกรนำกล่าว ควรอ่านบทความนี้ทุกครั้งก่อนเริ่มพิธีกรรม***)$ O; r  i  e' D4 g0 `% A  a+ k/ R, z
ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒- หน้าที่ ๒๐๑ กล่าวว่า....
& [/ u) Y: w( N2 Zข้อที่ ๑ "...หมั่นขยัน ทำมาหากินที่ได้มาซึ่งโภคทรัพย์ต่างๆ โดยธรรมนี้กรรมที่สมควร" ข้อที่ ๒ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมเป็นผู้ ทำพลี ๕ คือ
! ~$ L0 r, J, F* I( g( k6 L8 @

$ }6 x/ {( @2 M( S7 V๑. ญาติพลี(ให้การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย)5 N5 h! y/ G" {  R3 {$ q
๒. อติถีพลี (ให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน)
" N% h# B' w$ A; {+ x% e0 V๓. ปุพพะเปรตยะพลี (ทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายหรือผู้ล่วงลับ)
9 S6 o5 m! O$ S3 E( k" [๔. ราชพลี (ช่วยเหลือราชการ เช่น การจ่ายภาษี การให้ความเคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง เป็นต้น)- }5 |. f2 w7 N- \5 j
๕. เทวตาพลี (หมั่นทำบุญกุศลอุทิศให้เทวดา)
; G" r$ C& _# H" ~: M

9 g( ~# E) Q; M* iโดยโภคทรัพย์ที่หามาได้ด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๓ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้(โภคทรัพย์) โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมตั้งใจบริจาค ทักษิณาทานอย่างสูง ที่จะอำนวยผลดีเลิศ มีสุขเป็นวิบาก เป็นทางสวรรค์ ในสมณะพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นไกลจากความ มัวเมา ประมาท มั่นคงอยู่ในขันติโสรัจจะ ฝึกฝนตนอยู่ผู้เดียว ระงับตนเองอยู่ผู้เดียว ดับกิเลสจนอยู่ผู้เดียว ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๔ ของอริยะสาวกนั้น เป็นการชวบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้วเป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้ว ดูก่อนคฤหบดีอริยะสาวกนั้น ย่อมเป็นผู้ทำกรรมที่สมควร ๔ นี้ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรมที่ได้มาโดยธรรม ดูก่อนคฤหบดี โภคทรัพย์ทั้งหลายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถึงความหมดเปลืองไป เว้นเสียจากกรรมที่สมควร ๔ ประการนี้ โภคทรัพย์เหล่านี้เรียกว่าหมดไปโดยไม่ชอบแก่เหตุ! K( V0 A7 Z) k; E7 _0 S2 g$ F* Q
หมดไปโดยไม่สมควร ใช้ไปโดยทางที่ไม่ควร.... "
1 l7 R; q! x* |$ _! v
; C5 ]* n! R! I8 S( |
จากบทความพระไตรปิฎก ของพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ท่านทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า และยังทรงสอนให้มีการแผ่เมตตาให้กับเพื่อร่วมโลก ซึ่งอาจจะได้รับวิบากกรรมเก่าไปเกิดในแดนต่างๆ เช่นเดียวกันกับเปรตยะก็เป็นอีกภพหนึ่ง ที่ได้รับกรรมที่ตนได้กระทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์; o6 y4 D- C/ {3 J
3 Z: l; \( l3 z5 [* k0 R8 f
การทำพิธีเปรตยะพลี โดยให้เครื่องสังเวยกับเปรตผู้ล่วงลับ นับว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง เราชาวพุทธทุกคนควรหาโอกาส ทำบุญอุทิศทานให้เปรตยะเป็นครั้งคราว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ในการเสริมบุญบารมี
1 `) P: m3 P; ^( ^! B3 M8 u" \' F0 \3 w- W6 g

. B0 v! w8 P: n' O$ i6 }0 \+ H1 Zเครื่องสังเวยที่คนไทยนิยมใช้ในการทำพลีให้เปรตยะ:-) l" ?1 t$ K6 a  j/ U! C
๑. อาหารคาว-หวาน
- M5 g1 k! N& z: ]9 b๒. ขนม นมเนย
" I; k$ g5 p4 p, w4 P$ q+ P๓. เหล้าขาว1 ]$ J5 o* U1 Z
๔. หมากพลู
& W2 O. @* O" u$ L# S๕. น้ำเปล่า ๑ แก้ว
3 a3 Y9 @4 G' e; Y+ m! X; E( t๖. ธูป ๑ ดอก% ~& L& N( E/ F' ]) k- ?$ ~: L( y
๗. มาลัย ๑ พวง

1 ]7 G; D2 j% X* l6 I+ W6 l
2 }7 O. m: _1 c0 W; Z8 fคำบอกล่าวเปรตยะพลี:-
5 ?' B- i8 |+ Q1 D8 U7 b5 N# m$ p
(***ขณะทำพิธีนี้ ตอนถือธูป ๑ ดอก ห้ามยกมือพนมไหว้ เพราะเปรตมีภูมิต่ำกว่ามนุษย์ ให้ยืนเฉยๆ ถือธูปไว้ที่ระดับเหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย ห้ามยกมือไหว้ตั้งแต่ต้น-จนจบพิธีกรรม เมื่อวางถาดอาหารของพลีเสร็จแล้ว ให้ปักธูปลงกับพื้นดิน (ต้องให้ปลายด้านธูปสัมผัสกับพื้นดิน) และหันหลังให้กับของสังเวยเหล่านั้น พร้อมกับเดินหนีทันที อย่าหันกลับมามองอาหารพลีอีกเด็กขาด พิธีกรรมนี้จะทำที่ไหนก็ได้ เช่น แยกทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ตามทางเดินต่างๆ หรือข้างถนน)
: A6 E7 W# N+ B4 z5 {

: D' a5 l5 |, j9 Mข้าพเจ้าชื่อ.................................นามสกุล......................อายุ........ปี สถานที่เกิด..................ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ ให้กับผู้ล่วงลับ มตกะผู้ล่วงลับไปแล้วจากโลกนี้ ทุกหมู่เหล่ารวมถึงอสูรกาย สัมภเวสี อสัมภเวสี สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย รวมถึงเจ้ากรรม และนายเวร ของข้าพเจ้า ที่ได้ทุกขเวทนาอยู่ในขุมนรกหนึ่งขุมนรกใด ขอจงรับเครื่องสังเวย ที่ข้าพเจ้าได้ทำพลี อาหารคาวหวานไปให้ท่านทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายได้รับเครื่องสังเวยจนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว โปรดนำสารนี้ไปบอกแก่ผู้ที่ไม่ได้มา ให้รับทราบโดยทั่วกันว่า: q/ j( k  N& h/ P) G3 n( a5 U
ถ้ามีท่านใดที่เคยมีเวร มีกรรมกับข้าพเจ้า อยู่ในนรกขุมหนึ่งขุมใดก็ดี ขอท่านพญามาร นายขุม นายเวรก็ดี ช่วยแจ้งข่าวไปยังเจ้ากรรม และนายเวรของข้าพเจ้าด้วยว่า ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ พลีไปให้เขาเหล่านั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอขมากรรมต่อเขาเหล่านั้น ณ วันนี้ คืนนี้ ขอท่านทั้งหลายอย่ามีเวรมีกรรมกันต่อไปอีกเลย

* F% U# O- }! _9 ~. M) X. e, ^
8 E( n0 {! k% y; a% Z" Fในวันนี้ข้าพเจ้าชื่อ..................นามสกุล................ได้ตั้งกองบุญ ( ๒๔ กองบุญ , ไหว้พระ, สวดมนต์, นั่งสมาธิ, ฟังธรรม, ถวายผ้าป่า,ทำสังฆทาน ฯลฯ) และได้เปลี่ยนจิตใจเป็นคนดีแล้ว
1 T& p/ A7 r9 N) f% Xท่านใดที่ปรารถนากองบุญ-กุศล กองทาน กองศีล ของข้าพเจ้าที่ได้มีอยู่แล้ว และได้กระทำไปแล้วในวันนี้ ขอกุศลทั้งหลายนี้ จงสำเร็จแด่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด ต่อด้วย....
5 F- C. b5 _% n) |6 r* u& \$ I  E

. }9 c9 P# f7 Y  Z; q2 f. n% aคำขอขมาลาโทษต่อเจ้ากรรม และนายเวร:-
- z" _" P+ ?3 Y( ?
กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ด้วยกายกรรม ๓ ฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม วจีกรรม ๔ ,พูดเท็จ, พูดส่อเสียด, พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล, มโนกรรม ๓ , ความโลภะ, ความพยาบาท,  การคิดปองร้าย, ขอผลกรรมนั้น จงอย่ามีเวรและกรรมกับข้าพเจ้าอีกเลย บุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ขอจงสำเร็จกับเจ้ากรรม และนายเวร ทั้งหลายด้วยเถิด ขออย่าได้มีเวรและกรรม ซึ่งกันและกันเลย พุทโธอโหสิ ธัมโมอโหสิ สังโฆอโหสิ
" \) p. s+ ~: |+ n

( T- C# w3 D1 f) }  T

3 K! R: a4 c8 j
คำอุทิศบุญกุศลให้กับเปรตผู้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว:-
, _+ Q' K) A7 u# D
อิทังเม ญาตีนัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย          สุขิตาโหนตุ ญาตะโย" N- g# D4 C, Q5 r  l( C3 t. X; b
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า          ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า มีความสุข

* o5 o0 p2 {! L
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพพะเปตา1 e8 d% s- m' a5 o7 b) c  V
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย          ขอให้เปรตทั้งหลาย มีความสุข

% M7 D$ [0 D+ R6 m
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
! M! ]8 R0 h% W8 \2 t3 p
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย          ขอให้เจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายมีความสุข


  \7 E5 O) j2 W3 uอิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา5 G( z0 N7 F* [0 M
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย          ขอสัตว์ทั้งหลายมีความสุข ทั่วหน้ากันเทอญ

& d+ s; F$ s0 \0 L4 Q$ v
พุทธังขมามิ ธัมมังขมามิ สังฆังขมามิ ยมมาขมามิ เอหิปิมัง พาเรหิ นัตตัสสะ
! ]( z, K/ _% U! \6 W) b0 ^/ Y

: y4 l4 U! l* d$ A3 o0 C6 }
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-12-14 15:00 , Processed in 0.030310 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.