แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 3040|ตอบ: 8
go

ประสบการณ์พบเจออาคม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

       kachon20116202114.jpg # ~  I# }; n+ d5 f9 @/ K
ประสบการณ์อีกประสบการณ์หนึ่งที่ผมต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอด  จากสิ่งที่ตาเนื้อไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งหลายคนที่มองไม่เห็นก็บอกว่างมงายส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ก็บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อ  ส่วนผู้ที่ได้จักษุทิพญาณต่างบอกว่ามีจริงเรื่องที่ผมจะบอกก็คือไสยศาสตร์หรืออาคม  คำว่า  อาคมจะมีอยู่  2  ด้าน  คือด้านสว่างกับด้านมืด  ในส่วนของอาคมในด้านสว่างผมจะไม่ขอพูดถึง  แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คืออาคมในด้านมืด  ที่ผมได้พบเจอมาและเกือบเอาชีวิตไม่รอด  แต่ก็รอดมาได้ด้วยบุญฤทธิ์ และการอุทิศบุญ  หากไม่เป็นเพราะบุญฤทธิ์ผมคงไม่ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังได  เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็แล้วกันเดี่ยวจะยาวไปกันใหญ่
2 ~3 l/ H, C" A, v' L        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเวรรักษาการดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนเมื่อเวลาประมาณ  2  ทุ่มกว่าๆ ผมเดินตรวจมาถึงบริเวณบ้านพักของผู้ดูแลโรงเรียนและแล้วผมก็ต้องตกเพราะสิ่งที่ผมพบก็คือมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมีทั้งเด็กและใหญ่อยู่ภายในบ้านพัก  เมื่อพบดังนั้นผมนึกขึ้นว่าทำไมมีวิญญาณมาอยู่ที่นี่ได้  วิญญาณเหล่านั้นต่างมีท่าทางตกใจเมื่อได้พบกับผม  เห็นดังนั้นผมจึงอุทิศบุญโดยเอ่ยว่า  ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังวิญญาณเหล่านี้ด้วยเทอญ  วิญญาณเหล่านั้นก็ปรากฏอาการดีใจเหมือนว่าไม่เคยได้รับบุญมาก่อนผมจึงขอคุยด้วย, ]0 o1 l3 A. O3 I# A' `* X
        ผม  :                  สวัสดีได้รับบุญจากผมแล้วใช่ไหม+ x% J. L% ]1 @4 n; x4 d' _8 a
        วิญญาณ  :          ได้รับแล้วดีจังเลย* |) i) X$ K* n( j! j
        ผม  :                  ถ้าดีช่วยตอบคำถามผมสักหน่อยได้ไหมเดี๋ยวผมให้อีก
( m6 c2 x! Y) T9 H. \6 Q+ i2 Q9 y        วิญญาณ  :          ได้พวกเรายินดีตอบคำถาม5 S& U4 T# X" V7 X: ]
        ผม  :                  พวกท่านมาทำอะไรกัน
/ _; N% @. s/ ]7 y# g        วิญญาณ  :          พวกเราถูกสั่งให้มาบังคับคนที่นี่ให้เชื่อฟังคำสั่ง1 u2 t- ?+ k9 ^8 W+ S0 O/ X
        ผม  :                  แล้วทำสำเร็จไหม
! W7 e2 ?. [' j4 o9 ]        วิญญาณ  :          ได้เป็นบางคนเท่านั้น
; M$ H, p! Z% o6 h% ]  }- @        ผม  :                 แล้วทำไมไม่ออกมา  นอกบ้านล่ะ
  ?3 A( F- L+ z        วิญญาณ  :          พวกเราไม่กล้าออกเพราะที่นี่มีแต่คนเก่งๆ% G$ r% G2 ?3 l* k9 B5 M- b6 G& P
        ผม  :                  พวกเธอมาจากที่ไหนกัน
, t! F  r" x6 J) C' `+ R% h6 t  N$ u        วิญญาณ  :          พวกเราติดตามคนนี้มาจากหมออาคมคนหนึ่ง; R. \- ~2 ]( \* P. E8 h( s& n9 c' B
        ผม  :                  พวกเธอถูกมัดด้วยอาคมใช่ไหม
# V" G. B2 Q( ~; X& s        วิญญาณ  :          ท่านรู้
4 }0 s. N+ n) V* b" }        ผม  :                  ก็พอรู้บ้าง0 {; s' G  ], B" b/ b/ o% E9 v
        วิญญาณ  :          ใช่พวกเราถูกมัดด้วยอาคม8 ?% J5 S& `1 s* u9 L5 I
        ผม  :                  ต้องการให้ผมช่วยไหมล่ะ' ^9 P+ s0 U6 E9 d' g# c  s* \0 B
        วิญญาณ  :          พวกเราทรมานเหลือเกินต้องทนกับการถูกบังคับท่านช่วยเราด้วย
( S; _+ }' ]9 ]9 d* P8 S8 Q        ผม  :                 ได้เดี๋ยวผมจะช่วยแต่ต้องเลิกบังคับคนอื่นนะ!
4 a9 G, ]/ Y6 l' {7 w$ G; v6 m5 [        วิญญาณ  :          ขอบคุณท่านมากที่จะช่วยพวกเรา* d$ }0 {7 \5 Q; \
ผมผละออกมาจากบริเวณตรงนั้นแล้วผมกลับมาที่ห้องพัก  จากนั้นผมก็ทำการอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นให้เป็นอิสระจากอาคมที่ผูกมัดพวกเขาไว้  แต่สิ่งที่ผมไม่อาจลืมก็คือการขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่ผูกมัดดวงวิญญาณเหล่านั้นไว้  การอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาประมาณ  1  อาทิตย์  ผมได้เดินมาดูพวกเขา  ณ  ตรงบริเวณที่พบอีกครั้งก็ปรากฏว่าพวกเขาต่างมีสภาพที่ดีขึ้นจากตอนที่พบกันในตอนแรก  แต่พวกเขายังคงถูกมัดด้วยอาคมอยู่  ผมจึงขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่มัดพวกเขาไว้อีกครั้งจนเวลาผ่านไป  ประมาณ  3  วัน ผมเดินอยู่ตรงบริเวณลานกว้างก็ได้ปรากฏมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมาหาผมและมาขอบคุณผมแล้วพวกเขาก็จาไปยังภพภูมิของแต่ละคน  ผมรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาให้หลุดพ้นจากการถูกบังคับ: k+ ]: m- }8 G, l
        ทำให้ผมได้ทราบว่าคนที่ใช้อาคมคอยบังคับคนอื่นโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจพวกเขาก็จะไม่อยากอยู่กับคุณ  แต่ในทางกลับกันหากคุณดูแลพวกเขาด้วยความเมตตาพวกเขาก็จะคอยช่วยเหลือคุณอย่างเต็มใจนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีส่วนเกี่ยวกับ  อาคม  และเข้าไปล้างอาคมด้วยอำนาจบุญฤทธิ์ของพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
$ a- W$ Y1 {# J% f- _0 D* h7 F: n: r; p5 Y+ y& H, u( P0 m2 ~  Y

Rank: 1

จิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับด้วยไสยเวทย์  v- z# F% V) f3 `- r0 J
        ผมเองตั้งใจว่าจะไม่เขียนเรื่องการพบไสยเวทย์อีก แต่ก็ต้องมาคิดทบทวนดูใหม่ เมื่อต้องมาพบกับเรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้  ในวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554  พวกของผมคนหนึ่งถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ ซึ่งผมเองถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จากท่านผู้ดูแลที่อยู่ในโลกทิพย์ โดยท่านได้ปรามผมว่า “เธออย่าได้แก้ไสยเวทย์ให้ผู้ใดอีกนะ แม้กระทั่งตัวของเธอเอง เพราะว่าหากเธอแก้ผลจะกลับมาสู่ตัวเธออันเนื่องมาจากผลของกรรม” ดังนั้นผมจึงไม่อาจขัดคำเตือนได้ แต่หากถามว่า ผมสามารถแก้ไสยเวทย์ให้คนอื่นได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ครับ แต่ผมต้องถูกพลังของไสยเวทย์ที่เขากระทำมันย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวของผม อันเนื่องมาจากเข้าไปขัดขวางกรรมของผู้อื่น มันเป็นกฎที่ผมต้องแลก ผมจึงไม่สามารถแก้เรื่องของไสยเวทย์ให้แก่ผู้อื่นได้ มีแต่คำแนะนำเท่านั้น
6 D+ W3 Q4 @, p; T: l$ c& _ขอกลับเข้าเรื่องของจิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากพบว่าพวกของผมเขาถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ จึงบอกให้พี่เขารู้ตัว ต่อจากนั้นผมได้พบกับวิญญาณที่หมอผีส่งมาด้วยเวทย์มนต์ เพื่อทำร้ายพวกของผม วิญญาณดวงนั้นมีรูปร่างเหมือนนักกล้ามไม่มีผิด มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ผิวสีคล้ำ ดวงตาสีแดงกล่ำ ด้วยความเป็นห่วงพวกของผม กลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ ผมจึงเตรียมตัวอุทิศบุญให้แก่วิญญาณที่ติดตามเวทย์มนต์นั้นมา พลันผมก็ได้ยินเสียงห้ามจากวิญญาณนั้นว่า “ท่านอย่าทำแบบนั้น” ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก และเกิดความสงสัย เพราะปกติวิญญาณโดยทั่วไปนั้น เมื่อผมอุทิศบุญให้เขาจะยินดี แต่นี่กลับห้ามผม แสดงว่าต้องมีเหตุที่ไม่ปกติแน่ ๆ ผมจึงถามออกไป
& Z- R. [' s  c% L. z" h" _ผม : “มีอะไรหรือ”
3 ~2 b8 @3 F4 _& A) x% O! k* jเทพ : “มีสิ ท่านอย่าให้บุญกับผมนะครับ”
! l( P/ M) C) @) Jผม : “อ้าว ! ทำไมล่ะ”
1 `6 [# ]# ?% Q9 ?  q" gเทพ : “ผมสงสารท่านนะสิ”2 r! Z$ i1 M# O2 u( [9 K5 \! y
ผม : “ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อผมอุทิศบุญให้น่าจะดีไม่ใช่หรือ”( F( _' r! q0 A: S- I
เทพ : “มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ดีแก่ตัวท่าน”, e2 I/ k: }0 p
ผม : “ไม่ดีอย่างไร”
' H' `5 n& U3 [- ]4 |5 F$ zเทพ : “หากท่านช่วยให้ผมหลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี ท่านเองจะถูกกระทำจากไสยเวทย์มากขึ้นสิครับ”0 l/ L; V7 ?0 X1 B/ K
ผม : “ด้วยเหตุผลอะไรล่ะ”( g( [; P& s# W
เทพ : “ก็ด้วยเหตุที่ว่ามีวิญญาณที่ทำงานให้หมอผีอีกดวงหนึ่งคอยดูการกระทำของท่านอยู่ หากเขารู้ว่าท่านช่วยเหลือผมแล้วละก็ท่านก็จะถูกกระทำอาคมใส่ทำให้เดือดร้อนอีกแน่ ๆ”: v( U& N' b1 A1 i
ผม : “แล้วผมจะมีทางช่วยเหลือได้อย่างไร”
! G" K+ Q/ _5 I  ~เทพ : “ท่านไม่ต้องช่วยผม เดี๋ยวผมจะอนุโมทนาบุญจากท่านเอง เพียงเท่านี้ผมก็สามารถหลุดพ้นจากการถูกบังคับ! g7 u8 i7 f& ^; [. h
ด้วยอาคมเหมือนกัน”- D1 T4 D3 B+ V' ^( a
ผม : “จริงสิ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ขอบคุณมากที่เป็นห่วงผม ถึงแม้ตัวเองจะลำบากก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงในตัวผมอีก เอาเป็นว่าผมจะพยายามประคองสมาธิไว้ให้ได้นานที่สุดก็แล้วกัน เพื่อที่จะอนุโมทนาบุญได้มาก ๆ”, n; C) }% T/ L) m* ]3 u
เทพ : “ขอบคุณท่านด้วยเช่นกัน”6 E# o4 w& F* y8 s7 _6 ~
ผม : “ไม่เป็นไร ผมถือว่าทุกคนเป็นญาติธรรมกัน ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อดีกว่า เดี๋ยวเขารู้ว่าเราติดต่อกันจะลำบาก”$ F% d0 d5 a+ f2 a: W4 ^
เทพ : “ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้มีพรายกระซิบเริ่มมาดูการเปลี่ยนแปลงแล้ว”
$ ^! w; n/ u, q& p) [$ uผม : “ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อแล้วกัน ขอบคุณ สวัสดี”1 C0 L$ r4 ~$ y( R# s

# k  t7 _- B3 o: oตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมแอบสังเกตเทพอยู่เป็นระยะเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน เทพก็มีสภาวะเป็นเทวดา ทำให้ผมสบายใจขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมได้เข้าใจว่า คนในหมู่มารก็มีคนดี ถ้าเป็นวิญญาณอื่นเขาคงให้ผมอุทิศบุญให้ไปแล้ว หากผมอุทิศบุญให้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน เขาก็สามารถเป็นเทวดาได้เลย หรือเป็นบุญจากสมาธิก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นไม่ต้องใช้เวลา 10 กว่าวัน ถึงจะพ้นจากการถูกบังคับ แต่ผลกระทบที่จะเกิดกับผมคงจะรุนแรงมาก ในหมู่มารยังมีเทวดา ในหมู่เทวดายังมีมารปนกันไป" ?6 R5 W8 N0 i' {/ q0 W6 E4 ]8 J

Rank: 1

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ ได้ความรู้อีกแล้วครับ ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้รู้จักกับคุณนะครับ

Rank: 1

การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผลอแล้วเริ่มใหม่ ทั้งวันจนกว่าจะนอน อย่างนี้เป็นบุญใช่ไหมครับ แล้วถ้าเป็นเท่ากับบุญสมถะภาวนาไหมครับ สาธุครับ

Rank: 1

สาธุจ้า...รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้รู้จักกับคุณมารน้อย...สู้สู้..นะ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ

Rank: 1

ต้นฉบับโพสต์โดย ณัฐดนัย เมื่อ 2013-8-19 17:10
# M2 l2 c# C5 h- Qการที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผล ...
% n, V6 S* D1 }! C7 v- L1 _7 M

" u2 N6 U$ A" c. I2 |จากที่คุณณัฐดนัย ถามมาผมขอตอบดังนี้ ผมขอยกคำกล่าวก่อนที่พุทธองค์จะเข้าสู่ปรินิพพาน คำกล่าวสุดท้ายก่อนที่ท่านจะดับขันธุ์ "อย่าประมาท" นั้นก็ทำให้เข้าใจได้ว่า ขอให้เรามีสติตั้งอยู่กับตัว อย่าหลงลืมสติ หากจะถามว่าการที่เราประคองสติไว้จนกว่าจะนอน จะเกิดบุญไหม เรื่องนี้บอกได้ว่าเป้นบุญอย่างแน่นอน บุญจะเทียบเท่าสมถะภาวนาไหม ผมว่าได้มากกว่า สมถะคือการบังคับจิตให้นิ่งไม่ไหวติง ไม่ให้ไหลตามกระแสของภายนอก  หากประคองสติไว้จะไม่ต่างอะไรกับวิปัสนา(เราต้องไม่บังคับ หากเราบังคับก็ไม่ต่างจากสมถะ) ทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทของกาย และจิตที่ทำหน้าที่ของเขา เราพิจารณาตามสภาพจริงของเขาให้เขาทำหน้าที่ของเขาส่วนเราก็คอยดูและพิจารณา ถ้าสนใจลองศึกษาจากพระอาจารย์ปราโมทย์  ในเวปทั่วไปก็ได้ครับ

Rank: 1

สาธุครับ คุณมารน้อยทำให้ผมได้เข้าใจธรรมขึ้นอีกแล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
0 T0 `" O! `$ e6 V( z4 Bอนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-6-2 12:52 , Processed in 0.075843 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.