แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 4061|ตอบ: 8
go

ประสบการณ์พบเจออาคม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

       kachon20116202114.jpg " D/ g3 ^  x2 u1 A# f- N; f9 r
ประสบการณ์อีกประสบการณ์หนึ่งที่ผมต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอด  จากสิ่งที่ตาเนื้อไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งหลายคนที่มองไม่เห็นก็บอกว่างมงายส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ก็บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อ  ส่วนผู้ที่ได้จักษุทิพญาณต่างบอกว่ามีจริงเรื่องที่ผมจะบอกก็คือไสยศาสตร์หรืออาคม  คำว่า  อาคมจะมีอยู่  2  ด้าน  คือด้านสว่างกับด้านมืด  ในส่วนของอาคมในด้านสว่างผมจะไม่ขอพูดถึง  แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คืออาคมในด้านมืด  ที่ผมได้พบเจอมาและเกือบเอาชีวิตไม่รอด  แต่ก็รอดมาได้ด้วยบุญฤทธิ์ และการอุทิศบุญ  หากไม่เป็นเพราะบุญฤทธิ์ผมคงไม่ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังได  เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็แล้วกันเดี่ยวจะยาวไปกันใหญ่! ?8 g- _" W& D( G! E3 W' ?
        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเวรรักษาการดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนเมื่อเวลาประมาณ  2  ทุ่มกว่าๆ ผมเดินตรวจมาถึงบริเวณบ้านพักของผู้ดูแลโรงเรียนและแล้วผมก็ต้องตกเพราะสิ่งที่ผมพบก็คือมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมีทั้งเด็กและใหญ่อยู่ภายในบ้านพัก  เมื่อพบดังนั้นผมนึกขึ้นว่าทำไมมีวิญญาณมาอยู่ที่นี่ได้  วิญญาณเหล่านั้นต่างมีท่าทางตกใจเมื่อได้พบกับผม  เห็นดังนั้นผมจึงอุทิศบุญโดยเอ่ยว่า  ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังวิญญาณเหล่านี้ด้วยเทอญ  วิญญาณเหล่านั้นก็ปรากฏอาการดีใจเหมือนว่าไม่เคยได้รับบุญมาก่อนผมจึงขอคุยด้วย
' {  v2 c4 f2 N8 |6 n        ผม  :                  สวัสดีได้รับบุญจากผมแล้วใช่ไหม% K& Q3 ^6 E9 {/ Q4 L- C( p
        วิญญาณ  :          ได้รับแล้วดีจังเลย+ r7 A! _) e' i9 a! y' c$ Y$ N
        ผม  :                  ถ้าดีช่วยตอบคำถามผมสักหน่อยได้ไหมเดี๋ยวผมให้อีก
0 f& o% m; Z# _) y% i        วิญญาณ  :          ได้พวกเรายินดีตอบคำถาม
& W+ }! R* q/ x1 y1 Q        ผม  :                  พวกท่านมาทำอะไรกัน
: V* k# [+ L' e7 d        วิญญาณ  :          พวกเราถูกสั่งให้มาบังคับคนที่นี่ให้เชื่อฟังคำสั่ง
+ v  u1 v) b1 K        ผม  :                  แล้วทำสำเร็จไหม
! I0 c. c2 A+ I6 _        วิญญาณ  :          ได้เป็นบางคนเท่านั้น
+ I5 E+ i3 ?3 y        ผม  :                 แล้วทำไมไม่ออกมา  นอกบ้านล่ะ
0 C* P3 @2 c2 X) Q2 P. p2 n        วิญญาณ  :          พวกเราไม่กล้าออกเพราะที่นี่มีแต่คนเก่งๆ
  B# j( E) L2 P* f' `0 z        ผม  :                  พวกเธอมาจากที่ไหนกัน
0 n% x6 u+ q2 A5 ]) t        วิญญาณ  :          พวกเราติดตามคนนี้มาจากหมออาคมคนหนึ่ง
5 E& h! e8 f! G. V5 J9 F% y        ผม  :                  พวกเธอถูกมัดด้วยอาคมใช่ไหม
+ M) M- p. u+ G- b! x4 b4 t        วิญญาณ  :          ท่านรู้
- W; h$ \5 k: x& L        ผม  :                  ก็พอรู้บ้าง( D# H  `( R" u' L9 L8 R! }+ F
        วิญญาณ  :          ใช่พวกเราถูกมัดด้วยอาคม+ ?4 J: ?# y' q& ^  c# B: h4 O
        ผม  :                  ต้องการให้ผมช่วยไหมล่ะ7 O2 P! I" p* `% e! ^% y" v' i2 ]
        วิญญาณ  :          พวกเราทรมานเหลือเกินต้องทนกับการถูกบังคับท่านช่วยเราด้วย
. @: c2 B3 O" n. g$ K        ผม  :                 ได้เดี๋ยวผมจะช่วยแต่ต้องเลิกบังคับคนอื่นนะ!
& ^7 v! V" d( L/ f* G$ ?9 w2 P        วิญญาณ  :          ขอบคุณท่านมากที่จะช่วยพวกเรา
" {, m, Z! e5 X1 ?ผมผละออกมาจากบริเวณตรงนั้นแล้วผมกลับมาที่ห้องพัก  จากนั้นผมก็ทำการอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นให้เป็นอิสระจากอาคมที่ผูกมัดพวกเขาไว้  แต่สิ่งที่ผมไม่อาจลืมก็คือการขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่ผูกมัดดวงวิญญาณเหล่านั้นไว้  การอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาประมาณ  1  อาทิตย์  ผมได้เดินมาดูพวกเขา  ณ  ตรงบริเวณที่พบอีกครั้งก็ปรากฏว่าพวกเขาต่างมีสภาพที่ดีขึ้นจากตอนที่พบกันในตอนแรก  แต่พวกเขายังคงถูกมัดด้วยอาคมอยู่  ผมจึงขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่มัดพวกเขาไว้อีกครั้งจนเวลาผ่านไป  ประมาณ  3  วัน ผมเดินอยู่ตรงบริเวณลานกว้างก็ได้ปรากฏมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมาหาผมและมาขอบคุณผมแล้วพวกเขาก็จาไปยังภพภูมิของแต่ละคน  ผมรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาให้หลุดพ้นจากการถูกบังคับ* `4 Y! h, n/ T& O7 }; p9 D
        ทำให้ผมได้ทราบว่าคนที่ใช้อาคมคอยบังคับคนอื่นโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจพวกเขาก็จะไม่อยากอยู่กับคุณ  แต่ในทางกลับกันหากคุณดูแลพวกเขาด้วยความเมตตาพวกเขาก็จะคอยช่วยเหลือคุณอย่างเต็มใจนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีส่วนเกี่ยวกับ  อาคม  และเข้าไปล้างอาคมด้วยอำนาจบุญฤทธิ์ของพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
* M4 q9 R; u, C- f( V! Y2 {  x1 n
& f$ c) G9 J, F/ d6 O+ ~

Rank: 1

จิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับด้วยไสยเวทย์" g% j1 K3 O4 ]1 v2 H' r
        ผมเองตั้งใจว่าจะไม่เขียนเรื่องการพบไสยเวทย์อีก แต่ก็ต้องมาคิดทบทวนดูใหม่ เมื่อต้องมาพบกับเรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้  ในวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554  พวกของผมคนหนึ่งถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ ซึ่งผมเองถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จากท่านผู้ดูแลที่อยู่ในโลกทิพย์ โดยท่านได้ปรามผมว่า “เธออย่าได้แก้ไสยเวทย์ให้ผู้ใดอีกนะ แม้กระทั่งตัวของเธอเอง เพราะว่าหากเธอแก้ผลจะกลับมาสู่ตัวเธออันเนื่องมาจากผลของกรรม” ดังนั้นผมจึงไม่อาจขัดคำเตือนได้ แต่หากถามว่า ผมสามารถแก้ไสยเวทย์ให้คนอื่นได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ครับ แต่ผมต้องถูกพลังของไสยเวทย์ที่เขากระทำมันย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวของผม อันเนื่องมาจากเข้าไปขัดขวางกรรมของผู้อื่น มันเป็นกฎที่ผมต้องแลก ผมจึงไม่สามารถแก้เรื่องของไสยเวทย์ให้แก่ผู้อื่นได้ มีแต่คำแนะนำเท่านั้น
/ B4 I3 w) O' Z- J; fขอกลับเข้าเรื่องของจิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากพบว่าพวกของผมเขาถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ จึงบอกให้พี่เขารู้ตัว ต่อจากนั้นผมได้พบกับวิญญาณที่หมอผีส่งมาด้วยเวทย์มนต์ เพื่อทำร้ายพวกของผม วิญญาณดวงนั้นมีรูปร่างเหมือนนักกล้ามไม่มีผิด มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ผิวสีคล้ำ ดวงตาสีแดงกล่ำ ด้วยความเป็นห่วงพวกของผม กลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ ผมจึงเตรียมตัวอุทิศบุญให้แก่วิญญาณที่ติดตามเวทย์มนต์นั้นมา พลันผมก็ได้ยินเสียงห้ามจากวิญญาณนั้นว่า “ท่านอย่าทำแบบนั้น” ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก และเกิดความสงสัย เพราะปกติวิญญาณโดยทั่วไปนั้น เมื่อผมอุทิศบุญให้เขาจะยินดี แต่นี่กลับห้ามผม แสดงว่าต้องมีเหตุที่ไม่ปกติแน่ ๆ ผมจึงถามออกไป
/ v4 ]. l  P- n; t7 W9 b2 @ผม : “มีอะไรหรือ”
4 `) F2 b1 \, A) `* U( f' z  R- @เทพ : “มีสิ ท่านอย่าให้บุญกับผมนะครับ”7 }. x7 u5 ?. {1 f' g: W( N
ผม : “อ้าว ! ทำไมล่ะ”
' a# B+ d- R( y! i4 W, }/ oเทพ : “ผมสงสารท่านนะสิ”
6 }' g* w8 p0 m+ A$ a, Eผม : “ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อผมอุทิศบุญให้น่าจะดีไม่ใช่หรือ”, f0 Q6 v8 m1 j  |) L1 D% F* M
เทพ : “มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ดีแก่ตัวท่าน”
5 B* k7 I8 x8 @: @" ^/ mผม : “ไม่ดีอย่างไร”' n* |: N) C# T% Q/ R0 g. x
เทพ : “หากท่านช่วยให้ผมหลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี ท่านเองจะถูกกระทำจากไสยเวทย์มากขึ้นสิครับ”
3 n3 e" \* k8 |/ }% _; sผม : “ด้วยเหตุผลอะไรล่ะ”
0 i  O( h/ d; W* a- L  |2 y5 dเทพ : “ก็ด้วยเหตุที่ว่ามีวิญญาณที่ทำงานให้หมอผีอีกดวงหนึ่งคอยดูการกระทำของท่านอยู่ หากเขารู้ว่าท่านช่วยเหลือผมแล้วละก็ท่านก็จะถูกกระทำอาคมใส่ทำให้เดือดร้อนอีกแน่ ๆ”' c- K: c: t# H  m/ D. H" `0 g
ผม : “แล้วผมจะมีทางช่วยเหลือได้อย่างไร”
3 M/ N3 @& O% Iเทพ : “ท่านไม่ต้องช่วยผม เดี๋ยวผมจะอนุโมทนาบุญจากท่านเอง เพียงเท่านี้ผมก็สามารถหลุดพ้นจากการถูกบังคับ
4 b: i! R9 }8 y$ gด้วยอาคมเหมือนกัน”
8 N# a* ]( ^( K4 J& {ผม : “จริงสิ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ขอบคุณมากที่เป็นห่วงผม ถึงแม้ตัวเองจะลำบากก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงในตัวผมอีก เอาเป็นว่าผมจะพยายามประคองสมาธิไว้ให้ได้นานที่สุดก็แล้วกัน เพื่อที่จะอนุโมทนาบุญได้มาก ๆ”+ _0 N/ h+ |% @" a+ K! B- H4 e. @+ z4 f
เทพ : “ขอบคุณท่านด้วยเช่นกัน”
, \! H2 b5 G: Bผม : “ไม่เป็นไร ผมถือว่าทุกคนเป็นญาติธรรมกัน ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อดีกว่า เดี๋ยวเขารู้ว่าเราติดต่อกันจะลำบาก”
' L5 n* S, d2 j0 r- Yเทพ : “ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้มีพรายกระซิบเริ่มมาดูการเปลี่ยนแปลงแล้ว”
* ^8 M6 E6 ]$ |% v/ v8 Rผม : “ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อแล้วกัน ขอบคุณ สวัสดี”
. @5 _% A2 \% l
# F. A, j- A7 yตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมแอบสังเกตเทพอยู่เป็นระยะเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน เทพก็มีสภาวะเป็นเทวดา ทำให้ผมสบายใจขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมได้เข้าใจว่า คนในหมู่มารก็มีคนดี ถ้าเป็นวิญญาณอื่นเขาคงให้ผมอุทิศบุญให้ไปแล้ว หากผมอุทิศบุญให้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน เขาก็สามารถเป็นเทวดาได้เลย หรือเป็นบุญจากสมาธิก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นไม่ต้องใช้เวลา 10 กว่าวัน ถึงจะพ้นจากการถูกบังคับ แต่ผลกระทบที่จะเกิดกับผมคงจะรุนแรงมาก ในหมู่มารยังมีเทวดา ในหมู่เทวดายังมีมารปนกันไป
) R. }8 l- A+ r

Rank: 1

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ ได้ความรู้อีกแล้วครับ ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้รู้จักกับคุณนะครับ

Rank: 1

การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผลอแล้วเริ่มใหม่ ทั้งวันจนกว่าจะนอน อย่างนี้เป็นบุญใช่ไหมครับ แล้วถ้าเป็นเท่ากับบุญสมถะภาวนาไหมครับ สาธุครับ

Rank: 1

สาธุจ้า...รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้รู้จักกับคุณมารน้อย...สู้สู้..นะ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ

Rank: 1

ต้นฉบับโพสต์โดย ณัฐดนัย เมื่อ 2013-8-19 17:10
- K1 e! o' w: `5 Fการที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผล ...

$ x6 S" l$ a0 ?# o2 A
+ y& r/ [+ w+ J* o. v% _  q) R* cจากที่คุณณัฐดนัย ถามมาผมขอตอบดังนี้ ผมขอยกคำกล่าวก่อนที่พุทธองค์จะเข้าสู่ปรินิพพาน คำกล่าวสุดท้ายก่อนที่ท่านจะดับขันธุ์ "อย่าประมาท" นั้นก็ทำให้เข้าใจได้ว่า ขอให้เรามีสติตั้งอยู่กับตัว อย่าหลงลืมสติ หากจะถามว่าการที่เราประคองสติไว้จนกว่าจะนอน จะเกิดบุญไหม เรื่องนี้บอกได้ว่าเป้นบุญอย่างแน่นอน บุญจะเทียบเท่าสมถะภาวนาไหม ผมว่าได้มากกว่า สมถะคือการบังคับจิตให้นิ่งไม่ไหวติง ไม่ให้ไหลตามกระแสของภายนอก  หากประคองสติไว้จะไม่ต่างอะไรกับวิปัสนา(เราต้องไม่บังคับ หากเราบังคับก็ไม่ต่างจากสมถะ) ทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทของกาย และจิตที่ทำหน้าที่ของเขา เราพิจารณาตามสภาพจริงของเขาให้เขาทำหน้าที่ของเขาส่วนเราก็คอยดูและพิจารณา ถ้าสนใจลองศึกษาจากพระอาจารย์ปราโมทย์  ในเวปทั่วไปก็ได้ครับ

Rank: 1

สาธุครับ คุณมารน้อยทำให้ผมได้เข้าใจธรรมขึ้นอีกแล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
5 j: x7 d1 l4 ?+ V; A4 tอนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-11-15 19:13 , Processed in 0.090041 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.