‪แนะนำเทวดากำลังหมดบุญให้ปฏิบัติธรรม

2015-12-16 20:21 อัปโหลด

ดาวน์โหลด (96.58 KB)

6 k* H% G, W1 I) g$ `ธรรมะหากใครปฏิบัติก็มีแต่ความสุข ความเจริญ ให้ผลในทางดีทั้งทางโลกมนุษย์ และโลกทิพย์ ไม่ว่าจะส่งผลช้าหรือส่งผลเร็ว ก็ส่งผลในทางที่ดีทั้งนั้น ในทางโลกมนุษย์แล้วนั้น หลายๆคนอาจจะมองว่าธรรมะ หากใครนำมาปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องของคนแก่บ้างหละ เชยบ้างหละ แต่ในทางโลกทิพย์แล้วนั้นใครปฏิบัติธรรมถือว่าสร้างกรรมดีมีผลในทันที จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เทวดา ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าทางธรรมเช่นกัน( H5 Y9 k% D- z3 J' m
ดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าประสบการณ์การใช้บุญให้ฟังกันนะครับ
7 d- J; s8 [/ `4 {+ R* I9 m, Hวันที่ 14 ธันวาคม 2558 ในเวลาพักเที่ยงจากการทำงานเมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวพักผ่อนเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงบ่ายต่อไป ผมรู้สึกสัมผัสกับพลังจิตอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นพลังที่เย็นสบาย ไม่หนัก มาสัมผัสเบาๆ แต่แฝงด้วยพลังที่มั่นคง ทำให้ผมทราบทันทีว่าท่านต้องไม่ใช่จิตวิญญาณที่อยู่ภพภูมิต่ำๆแน่ๆ ผมจึงเดินกลับที่พัก เพื่อผมจะทราบว่า ท่านประสงค์ส่ิงใด เมื่อถึงที่พักแล้ว จึงกำหนดจิตเพื่อสื่อสารกับท่าน จิตที่นิ่งกลับนิ่งยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับพลังของท่าน การสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น
% H+ ]+ \( D( z0 Yผม : สวัสดีครับ ท่านประสงค์สิ่งใดที่พอจะให้ผมช่วยได้+ K, Q* }0 F+ x- Y
เทวดา : ยินดีที่ได้พบ
, }) J* W" R: Y  E( P% R: [ผม : ยินดีเช่นกันครับ " `8 ~& P& ]% ~. U
เทวดา : เรามีข้อธรรมอยากจะถามสักนิด ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม; \6 k) e5 Y9 v3 u( }# _
ผม : หากผมช่วยได้ ก็ยินดีช่วยครับ
) O$ p, V% {& S4 H9 J# lเทวดา : เรามีข้อสงสัยว่าเทวดาสามารถหลุดพ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นได้หรือไม่8 P; ]9 _) p, B. n% S, X# ]* e* Q
ผม : ได้สิครับ
& M$ S" q% J- dเทวดา : แล้วจะทำเช่นไร) J0 M" D0 q4 {. h  W2 t+ [' n
ผม : ท่านจะลองภูมิผมหรอครับ หรือมีสิ่งอื่น; d. z2 L! x  U2 U5 `3 ]
เทวดา : มิใช่เลย เราขออภัย ลืมบอกไปว่าเรากำลังหมดบุญ แต่เรายังไม่อยากมาเกิดยังเมืองมนุษย์ในเวลานี้ เพราะโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความเสื่อม มนุษย์ขาดซึ่งศีลธรรม เราจึงยังไม่อยากมาเกิดในตอนนี้ จึงมีผู้แนะนำว่าให้มาหาท่าน เราจึงมาหา ขออภัยในความเข้าใจผิด
  I" ~' e: A) {7 @7 \ผม : ผมมิได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าสงสัยเท่านั้น ต้องขออภัยเช่นกัน% D& w5 B6 P! w1 D+ y, M) m7 N! p
เทวดา : เราเข้าใจ มาสู่คำถามที่ค้างไว้ ว่าเราจะทำเช่นไร9 W1 Y) d! c% M% ^& W& R
ผม : สิ่งแรกคือ ‪#‎บุญชั้นทาน‬ ครับ
% D9 |& p6 {/ g9 g/ oเทวดา : เราจะทำทานได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีกายเนื้อ3 j6 P7 _- ?, g) @# ~7 F
ผม : ทำได้ครับ บุญชั้นทานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งทานหมายถึงการให้ ให้ในสิ่งดี มีประโยชน์แก่ผู้รับ แล้วทานเองก็มีหลายแบบ เทวดาอย่างท่าน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ ‪#‎บุญเป็นทาน‬ สามารถทำได้โดยสละบุญของท่านให้วิญญาณที่เดือดร้อนโดยบอกว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำบุญของข้าพเจ้าส่งถึงวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ" ต่อมาก็ ‪#‎ธรรมทาน‬ โดยการ นำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกผู้อื่น พูดกล่าวด้วยความเคารพ พูดด้วยเจตนาดี นี่ก็คือธรรมทาน ต่อมาก็ ‪#‎อภัยทาน‬ หากท่านโกรธ อาฆาตแค้น พยาบาท สิ่งใดหรือผู้ใดให้ท่าน ให้อภัยในสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นเสีย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรโดยพูดว่า "ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า หากผู้หนึ่งผู้ใดหรือใครก็ตามที่กระทำกรรมกับข้าพเจ้าไว้ด้วยทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าภพใด ภูมิใด ชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อเขาผู้นั้น ขอให้เขาผู้นั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ขอพระรัตนไตร ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ" แต่ต้องทำด้วยความจริงใจนะ แล้วท่านจะหลุดพ้นจากความพยาบาท ท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ  N& y1 _$ k- E) x
เทวดา : สาธุ แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม8 @8 o3 H5 R# T2 }& r1 U; C
ผม : มีครับ เป็น ‪#‎บุญชั้นศีล‬ ซึ่งบุญชั้นศีลนี่ท่านเป็นเทวดาทำได้อยู่แล้ว
: I4 G2 P6 p; K& E5 P- ]เทวดา : เราจะทำได้อย่างไร
3 }$ D. p$ u9 _! N6 ^ผม : ก็ท่านเป็นเทวดา ท่านไปฆ่าใครหรือทำร้ายใครหรือไม่' n9 r) [& A( @+ W1 j
เทวดา : ไม่เคย
2 N% P6 g' E2 ^/ [/ X7 O4 f! uผม : ท่านเคยไปลักขโมยผู้ใดหรือไม่
% |% o2 G2 w% W$ E% z8 k0 Uเทวดา : ไม่เคย$ E, r) |2 g6 p& q
ผม : ท่านเคยผิดลูกผิดเมียใครหรือไม่: U+ ?* L; h# {, P3 Q$ y
เทวดา : ไม่เคย4 F  E1 L* b0 s& X7 {
ผม : ท่านเคยโกหก หรือพูดไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่5 c3 z- d! g$ \( x  i
เทวดา : ไม่เคย5 M7 F. o- H) k/ g
ผม : แล้วท่านเคยดื่มสุรา น้ำจันทร์ จนขาดสติ หรือไม่
8 b' O# ?. h. B, f' i, z5 _  }เทวดา : ไม่เคยเลย
% k$ w% o' W; f* Z: ^/ E8 E. o# Y3 bผม : ก็นี่อย่างไรหละคือศีล 5 ส่วนศีลที่สูงๆขึ้นกว่านี้ก็ยังมีอีก ท่านลองศึกษาดู การรักษาศีลของท่านให้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร โดยอธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระรัตนไตร ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอรักษา ขอยึดมั่นต่อศีลธรรม ขอบารมีของพระรัตนไตรโปรดปกปักรักษาข้าพเจ้าด้วยเทอญ" ให้ท่านลองทำดู0 R* Z0 l" n. u9 \4 x3 E$ w( E! z
เทวดา : สาธุ เราจะทำ แล้วยังมีอีกไหม ดีจังที่ได้สนทนากับท่าน
3 Q5 N; w+ P0 D& Q& e+ fผม : มีครับ ก็ ‪#‎บุญภาวนา‬ สิ่งนี้ไม่ยากเลย การภาวนา ก็คือการสวดมนต์ ไม่ว่าสวดมนต์บทใดก็ได้อนิสงค์เช่นเดียวกัน หากท่านไม่รู้จะสวดมนต์บทใด ก็ให้ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ ........" ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะพอใจ3 @7 k$ }2 n9 i; j8 v7 l0 v9 A
เทวดา : สาธุ ง่ายดีแฮะ
! k; P) P* H" o+ y* nผม : ก็สิ่งง่ายๆนี่แหละที่คนมองข้าม ไปมองอะไรก็ไม่รู้ให้ยากให้ลำบาก
1 r. K  V: D: F/ `2 J, G7 L4 ^' T2 ^เทวดา : จริงของท่าน แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม
1 e! |1 f: `! D( ~4 P$ rผม : มีครับ ‪#‎บุญชั้นสมาธิ‬ เป็นบุญที่ดีเป็นบุญที่เจริญ ซ้ำยังมีกุศลมาก
. W3 {$ v4 c& R8 @( |เทวดา : แล้วเราจะทำได้อย่างไร
' k' M8 @& _" U. Q  j# nผม : ท่านจำคำภาวนาที่ผมบอกได้ใช่ไหมครับ
4 R/ Z$ p" v' L  T3 s: e: A  s9 tเทวดา : ได้สิเราจำขึ้นใจเลยหละ0 g- [" B% ^  E5 \# b8 [8 g
ผม : ให้ท่านภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ภาวนาจนกว่าจิตจะนิ่ง จิตจะจับที่คำภาวนา มีเหลือแต่คำภาวนา นี่แหละสมาธิครับ หรือให้ท่านกล่าวว่า "พุทโธ ๆๆๆ" คำเดียวก็ได้ โดยกล่าวว่า "ข้าแต่พระรัตนไตย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำดวงจิตข้าพเจ้าให้กลายเป็นสมาธิด้วยเทอญ พุทธโธ ๆ ๆ ๆ " เพียงเท่านี้ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว+ e* z6 ]8 [3 _8 m! A" G
เทวดา : สาธุ ดีจริงง่ายๆเช่นนี้เอง เราจะนำไปปฏิบัติ มิเสียเวลาจริงๆที่มาพบท่าน แล้วยังมีข้อธรรมอีกหรือไม่  @( _  m) X- K# M8 I
ผม : มีครับ
% I9 Y/ F) X0 D3 oเทวดา : มีอีกหรอ น่าสนใจจริงๆ ไหนท่านลองกล่าวมาสิ
) |2 B0 r' \  Y: q, u! ]$ f/ S, o& ^ผม : ได้สิ เขาเรียกว่าวิปัสสนา ท่านรู้จักวิปัสสนาไหม
9 O6 c8 l$ v+ {% R. N) {6 s1 ^เทวดา : ไม่รู้เลย ไหนท่านลองอธิบาย
' M/ v8 M0 _+ ~ผม : วิปัสสนาคือการระลึกรู้ เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจกฏของธรรมชาติว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นมาตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด เป็นกฏของธรรมชาติ 8 H5 u; K% \* b  @5 W0 f
เทวดา : นั้นสินะ จริงของท่าน! a  V- a8 r& N) n  h0 a
ผม : มนุษย์กับ ชาวทิพย์จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีร่างกายหยาบ แต่เทวดาอย่างท่านไม่มี' z" y" _; o8 W# k$ c: R
เทวดา : ใช่แล้ว- [+ O1 m) \2 I! p5 _$ m/ a
ผม : แต่พื้นฐานแล้วไม่ต่างกัน มนุษย์มีขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย 6 }7 |' l3 P0 t5 N6 x
- รูป คือธาตุที่ประกอบมาเป็นกายเนื้อนี่เอง 5 j! j7 n' v, ?9 l" F' t
- เวทนา คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์8 e$ l+ J8 H0 a4 ?4 `
- สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้เช่น จำว่าเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน 1 }3 b9 }3 e4 _7 s: H9 o1 |# j
- สังขาร คือ ความร่วงโรยของวัยเด็ก วัยกลางคน วัยชรา ความตายอย่างเทวดาก็จะมีบุญเป็นสังขาร มีมรณะ เป็นสังขาร ใช่ไหม
/ o' F: f% A5 z! ?9 uเทวดา : ใช่' e; k! @) i; ^$ U$ }) [% |
ผม : วิญญาณ คือการรับรู้สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง การรับรู้ว่า สิ่งนี้เป็นดี เป็นเลว แต่เทวดาจะมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงข้อเดียว ก็คือรูป แต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังมีอยู่ครบ ให้ท่านพิจารณาดูเถิดว่าสิ่งที่ท่านมีนี้เที่ยงหรือไม่
6 x0 s* d/ ^: a7 |8 Dเทวดา : ไม่เที่ยง ไม่คงทน หากคงทนเราคงไม่มาหาท่าน
/ R9 J' F/ p: q0 h) ^) R, r. |ผม : จริงที่สุด ให้ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่
% }4 f/ J- t/ x; Xเทวดา : เป็นเช่นนั้นจริงๆ
* M, n! k) D- ]% k, i- Iผม : มีข้อสงสัยอีกหรือไม่
- V" F5 Y! h& sเทวดา : หมดข้อสงสัย หากมีข้อสงสัยเราจะมาหาท่านและคุยกับท่านอีก
& e$ u7 |* o: f# O6 i5 iผม : ยินดี และน้อมส่งท่านกลับยังวิมานของท่าน "ข้าพเจ้าขออำนาจพระรัตนไตร โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาถวายแด่เทวดาผู้นี้ด้วยเทอญ"" n" s% |7 D: e2 x; \
เทวดา : สาธุ ไปแล้วนะ5 u. E% R; Q* N  m
แม้แต่เทวดายังมีความเสื่อมถอยของบุญ แล้วเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ความเสื่อมถอยของบุญจะไม่เกิดแก่เราได้เช่นไร จงถามตัวเองเสมอว่า ‪#‎วันนี้คุณสร้างบุญแล้วหรือยัง‬ ขอบุญนี้จงไปถึงวิญญาณทุกดวงที่ต้องการบุญด้วยเถิด สาธุ3 w/ d0 t/ S( \% g& ~/ L# X9 U