แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 5225|ตอบ: 0
go

‪แนะนำเทวดากำลังหมดบุญให้ปฏิบัติธรรม

Rank: 1

มารน้อย โพสต์เมื่อ 2015-12-16 20:22 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
4.jpg
. @' ^$ L! O2 D- h% O! S% y
ธรรมะหากใครปฏิบัติก็มีแต่ความสุข ความเจริญ ให้ผลในทางดีทั้งทางโลกมนุษย์ และโลกทิพย์ ไม่ว่าจะส่งผลช้าหรือส่งผลเร็ว ก็ส่งผลในทางที่ดีทั้งนั้น ในทางโลกมนุษย์แล้วนั้น หลายๆคนอาจจะมองว่าธรรมะ หากใครนำมาปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องของคนแก่บ้างหละ เชยบ้างหละ แต่ในทางโลกทิพย์แล้วนั้นใครปฏิบัติธรรมถือว่าสร้างกรรมดีมีผลในทันที จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เทวดา ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าทางธรรมเช่นกัน
. H0 v8 _. \8 T& p( F. K$ [, ?ดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าประสบการณ์การใช้บุญให้ฟังกันนะครับ& A) T6 x# G1 R0 K# K
วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ในเวลาพักเที่ยงจากการทำงานเมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวพักผ่อนเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงบ่ายต่อไป ผมรู้สึกสัมผัสกับพลังจิตอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นพลังที่เย็นสบาย ไม่หนัก มาสัมผัสเบาๆ แต่แฝงด้วยพลังที่มั่นคง ทำให้ผมทราบทันทีว่าท่านต้องไม่ใช่จิตวิญญาณที่อยู่ภพภูมิต่ำๆแน่ๆ ผมจึงเดินกลับที่พัก เพื่อผมจะทราบว่า ท่านประสงค์ส่ิงใด เมื่อถึงที่พักแล้ว จึงกำหนดจิตเพื่อสื่อสารกับท่าน จิตที่นิ่งกลับนิ่งยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับพลังของท่าน การสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น
& I1 @6 z% o' I  Y( z0 q+ Sผม : สวัสดีครับ ท่านประสงค์สิ่งใดที่พอจะให้ผมช่วยได้
! d8 z7 I0 t# bเทวดา : ยินดีที่ได้พบ7 f- s" `! H( M. i* O" F& {
ผม : ยินดีเช่นกันครับ 1 l& X% q2 H( J: ^$ t, R0 F
เทวดา : เรามีข้อธรรมอยากจะถามสักนิด ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม6 L& u7 V" ^3 _! u9 Z
ผม : หากผมช่วยได้ ก็ยินดีช่วยครับ6 ~+ i  I( b; N+ n/ \4 S/ f7 W) M
เทวดา : เรามีข้อสงสัยว่าเทวดาสามารถหลุดพ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นได้หรือไม่
$ J+ k7 z! B! o. \5 C. p+ u+ cผม : ได้สิครับ
7 g2 o$ o& n1 x* kเทวดา : แล้วจะทำเช่นไร
1 X/ P+ S! N( zผม : ท่านจะลองภูมิผมหรอครับ หรือมีสิ่งอื่น8 q/ @* v$ D9 R6 W- q5 z9 X
เทวดา : มิใช่เลย เราขออภัย ลืมบอกไปว่าเรากำลังหมดบุญ แต่เรายังไม่อยากมาเกิดยังเมืองมนุษย์ในเวลานี้ เพราะโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความเสื่อม มนุษย์ขาดซึ่งศีลธรรม เราจึงยังไม่อยากมาเกิดในตอนนี้ จึงมีผู้แนะนำว่าให้มาหาท่าน เราจึงมาหา ขออภัยในความเข้าใจผิด% [& q: l0 C/ w* V) f
ผม : ผมมิได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าสงสัยเท่านั้น ต้องขออภัยเช่นกัน; _( u( t; G" e2 |3 j+ r- N
เทวดา : เราเข้าใจ มาสู่คำถามที่ค้างไว้ ว่าเราจะทำเช่นไร& [, M, y! e$ j/ y# M. O
ผม : สิ่งแรกคือ ‪#‎บุญชั้นทาน‬ ครับ
' R% E6 }- n$ {# Y" x- gเทวดา : เราจะทำทานได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีกายเนื้อ
7 @, |+ ~" u: {. T) e8 ~+ P# t4 dผม : ทำได้ครับ บุญชั้นทานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งทานหมายถึงการให้ ให้ในสิ่งดี มีประโยชน์แก่ผู้รับ แล้วทานเองก็มีหลายแบบ เทวดาอย่างท่าน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ ‪#‎บุญเป็นทาน‬ สามารถทำได้โดยสละบุญของท่านให้วิญญาณที่เดือดร้อนโดยบอกว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำบุญของข้าพเจ้าส่งถึงวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ" ต่อมาก็ ‪#‎ธรรมทาน‬ โดยการ นำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกผู้อื่น พูดกล่าวด้วยความเคารพ พูดด้วยเจตนาดี นี่ก็คือธรรมทาน ต่อมาก็ ‪#‎อภัยทาน‬ หากท่านโกรธ อาฆาตแค้น พยาบาท สิ่งใดหรือผู้ใดให้ท่าน ให้อภัยในสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นเสีย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรโดยพูดว่า "ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า หากผู้หนึ่งผู้ใดหรือใครก็ตามที่กระทำกรรมกับข้าพเจ้าไว้ด้วยทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าภพใด ภูมิใด ชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อเขาผู้นั้น ขอให้เขาผู้นั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ขอพระรัตนไตร ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ" แต่ต้องทำด้วยความจริงใจนะ แล้วท่านจะหลุดพ้นจากความพยาบาท ท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ
+ D+ v) ?/ N# S; Z2 Sเทวดา : สาธุ แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม/ T2 G3 t+ c* q! `- h) ^
ผม : มีครับ เป็น ‪#‎บุญชั้นศีล‬ ซึ่งบุญชั้นศีลนี่ท่านเป็นเทวดาทำได้อยู่แล้ว# N# ^4 {6 E) d$ e1 L6 y% l
เทวดา : เราจะทำได้อย่างไร" R2 k8 ^# c7 T& a8 j) Q1 @) ~" b1 {
ผม : ก็ท่านเป็นเทวดา ท่านไปฆ่าใครหรือทำร้ายใครหรือไม่
! x/ G0 x) R( I# |, C) nเทวดา : ไม่เคย( A2 m" o/ F/ j
ผม : ท่านเคยไปลักขโมยผู้ใดหรือไม่
7 P; W# D. H3 f  Z. w0 nเทวดา : ไม่เคย4 d* v; f# a" Z5 a; l" i4 U
ผม : ท่านเคยผิดลูกผิดเมียใครหรือไม่! K0 [* j* d  a; u' h5 \
เทวดา : ไม่เคย1 u& a6 R, h; n0 x# Q
ผม : ท่านเคยโกหก หรือพูดไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่
9 M$ q; [+ v3 u( b0 u0 Uเทวดา : ไม่เคย
5 w2 U5 S& m" N" W8 Q0 l4 rผม : แล้วท่านเคยดื่มสุรา น้ำจันทร์ จนขาดสติ หรือไม่
3 V# v9 M! [0 T$ A$ iเทวดา : ไม่เคยเลย
% I' Q4 d  ~9 D# ]7 x3 Bผม : ก็นี่อย่างไรหละคือศีล 5 ส่วนศีลที่สูงๆขึ้นกว่านี้ก็ยังมีอีก ท่านลองศึกษาดู การรักษาศีลของท่านให้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร โดยอธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระรัตนไตร ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอรักษา ขอยึดมั่นต่อศีลธรรม ขอบารมีของพระรัตนไตรโปรดปกปักรักษาข้าพเจ้าด้วยเทอญ" ให้ท่านลองทำดู  ?; ?" H5 P3 P+ H! n* _: w% @0 U
เทวดา : สาธุ เราจะทำ แล้วยังมีอีกไหม ดีจังที่ได้สนทนากับท่าน4 o0 b* y5 |+ B
ผม : มีครับ ก็ ‪#‎บุญภาวนา‬ สิ่งนี้ไม่ยากเลย การภาวนา ก็คือการสวดมนต์ ไม่ว่าสวดมนต์บทใดก็ได้อนิสงค์เช่นเดียวกัน หากท่านไม่รู้จะสวดมนต์บทใด ก็ให้ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ ........" ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะพอใจ
4 i2 e3 V" L- ^3 D1 T  ~" r3 \  o* cเทวดา : สาธุ ง่ายดีแฮะ
. R0 B$ o# G+ D& ^: \+ K- kผม : ก็สิ่งง่ายๆนี่แหละที่คนมองข้าม ไปมองอะไรก็ไม่รู้ให้ยากให้ลำบาก - A9 E; m7 t& i
เทวดา : จริงของท่าน แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม
) F! E# A! O- f' a" }ผม : มีครับ ‪#‎บุญชั้นสมาธิ‬ เป็นบุญที่ดีเป็นบุญที่เจริญ ซ้ำยังมีกุศลมาก) M" W8 W7 l2 @3 t$ N! Y
เทวดา : แล้วเราจะทำได้อย่างไร7 {" ?' Y3 Q0 t8 X3 k5 [
ผม : ท่านจำคำภาวนาที่ผมบอกได้ใช่ไหมครับ8 S* {' r4 Q; q( x; X3 ]7 c! b% p. q! ]: B
เทวดา : ได้สิเราจำขึ้นใจเลยหละ
0 F! Q$ W0 J; Z" v1 ~. l1 J" lผม : ให้ท่านภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ภาวนาจนกว่าจิตจะนิ่ง จิตจะจับที่คำภาวนา มีเหลือแต่คำภาวนา นี่แหละสมาธิครับ หรือให้ท่านกล่าวว่า "พุทโธ ๆๆๆ" คำเดียวก็ได้ โดยกล่าวว่า "ข้าแต่พระรัตนไตย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำดวงจิตข้าพเจ้าให้กลายเป็นสมาธิด้วยเทอญ พุทธโธ ๆ ๆ ๆ " เพียงเท่านี้ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว1 N7 ^7 M5 ?$ R
เทวดา : สาธุ ดีจริงง่ายๆเช่นนี้เอง เราจะนำไปปฏิบัติ มิเสียเวลาจริงๆที่มาพบท่าน แล้วยังมีข้อธรรมอีกหรือไม่
  }& J0 w8 G+ `ผม : มีครับ
  n- h% `: {6 X( Jเทวดา : มีอีกหรอ น่าสนใจจริงๆ ไหนท่านลองกล่าวมาสิ, R& K) w. B' I" S3 z! e
ผม : ได้สิ เขาเรียกว่าวิปัสสนา ท่านรู้จักวิปัสสนาไหม
, O7 S/ A, `9 D. Sเทวดา : ไม่รู้เลย ไหนท่านลองอธิบาย. B4 ^, X3 |, b9 @( o3 G$ i
ผม : วิปัสสนาคือการระลึกรู้ เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจกฏของธรรมชาติว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นมาตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด เป็นกฏของธรรมชาติ 9 F) L& E) D3 ?
เทวดา : นั้นสินะ จริงของท่าน
" O' U! f( K: b' ]& pผม : มนุษย์กับ ชาวทิพย์จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีร่างกายหยาบ แต่เทวดาอย่างท่านไม่มี$ i! F5 L( J( i( f. [
เทวดา : ใช่แล้ว. j0 h! x- p6 o: O: ^+ D
ผม : แต่พื้นฐานแล้วไม่ต่างกัน มนุษย์มีขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย   z' C7 P2 O& d4 N
- รูป คือธาตุที่ประกอบมาเป็นกายเนื้อนี่เอง
! _, t; [. ], G, v- เวทนา คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์
; o: s+ S3 V2 h- สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้เช่น จำว่าเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน # j1 _" H  @7 ~2 D: l
- สังขาร คือ ความร่วงโรยของวัยเด็ก วัยกลางคน วัยชรา ความตายอย่างเทวดาก็จะมีบุญเป็นสังขาร มีมรณะ เป็นสังขาร ใช่ไหม
' P/ J+ E, k9 u- Wเทวดา : ใช่2 G3 r9 @3 A$ S4 G  e! X
ผม : วิญญาณ คือการรับรู้สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง การรับรู้ว่า สิ่งนี้เป็นดี เป็นเลว แต่เทวดาจะมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงข้อเดียว ก็คือรูป แต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังมีอยู่ครบ ให้ท่านพิจารณาดูเถิดว่าสิ่งที่ท่านมีนี้เที่ยงหรือไม่
3 L- j, g0 ^; ]* E! Eเทวดา : ไม่เที่ยง ไม่คงทน หากคงทนเราคงไม่มาหาท่าน
7 A+ Z" r* o# w& ~5 K0 D7 a% Oผม : จริงที่สุด ให้ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่# e! D9 ]; M: J' V$ i% K( K
เทวดา : เป็นเช่นนั้นจริงๆ
) t: G2 N; ?. e2 D7 a# Rผม : มีข้อสงสัยอีกหรือไม่ 4 R. c' g8 J) R" W& S+ l9 `
เทวดา : หมดข้อสงสัย หากมีข้อสงสัยเราจะมาหาท่านและคุยกับท่านอีก
; H3 U1 A$ F6 B/ n( m8 Zผม : ยินดี และน้อมส่งท่านกลับยังวิมานของท่าน "ข้าพเจ้าขออำนาจพระรัตนไตร โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาถวายแด่เทวดาผู้นี้ด้วยเทอญ"+ P. [) U3 Q. S+ `# `7 L+ b* @7 ]
เทวดา : สาธุ ไปแล้วนะ2 E# E  g. K3 ~% R3 i& Z6 Q
แม้แต่เทวดายังมีความเสื่อมถอยของบุญ แล้วเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ความเสื่อมถอยของบุญจะไม่เกิดแก่เราได้เช่นไร จงถามตัวเองเสมอว่า ‪#‎วันนี้คุณสร้างบุญแล้วหรือยัง‬ ขอบุญนี้จงไปถึงวิญญาณทุกดวงที่ต้องการบุญด้วยเถิด สาธุ- A' T# a3 @- J: D) y

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-11-7 16:58 , Processed in 0.047905 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.