โปรไฟล์ของ ณัฐดนัยแบ่งปัน http://www.dannipparn.com/?10764

ฝากข้อความ

facelist

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถฝากข้อความ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก


สมประสงค์ 2013-7-28 21:48
ณัฐดนัย: สายเดียวกันครับ ถ้าผมรู้ผมจะช่วยตอบนะครับ แต่ผมไม่ได้เรียนมานะครับ พ่อผมเป็น ...
เรียนคุณ ณัฐดนัย สุดยอดกตันญยูเลยนะครับ เพราะ พ่อและแม่ คีอพระองค์แรกของเรา ผมไม่รู้จะเปรืยบอย่างไรให้สมกับท่านเสียสละให้เราใด้มากมาย ผมสงสารคุณจริงๆๆ ความรู้สืกนี้เมี่อ พ่อและแม่ ผมสิ้นบุญไปแล้วทั้งสองท่าน ครับผมจะช่วย ภาวนาส่งกำลังจิตถีงท่านให้หายไวๆ คุณ รัฐดนัย คนที่เลี้ยงดูพ่อแม่ เจ็บไข้ใด้ป่วยคอยดูแล ผมเห็นมามาก มักเจริญก้าวหน้าจริง ๆไม่อดไม่จน  เรี่องของงานที่ทำคุณหมั่นฝืกฝนไม่ช้าก็เป็นเจ้าของกิจการเองได้ครับ ผมเอาใจช่วยเต็มที่ครับสำหรับความรู้ที่ผมมีอย่างไหนรู้จะแนะนำให้ครับ ผมอยากให้คุณอ่าน ประวัติอาจารมั่น เฃียนโดย อาจาร์วิริยัง แล้วคุณจะเฃ้าใจอ่านให้ครบ แปดตอน แล้วคุณจทราบชื้งจริงๆๆ อนุโมทนาสาธุครับ
กำไร 2013-7-28 21:26
   สวัสดีเช่นกันค่ะ สบายดีนะคะ มีไรบอกได้นะ
ณัฐดนัย 2013-7-28 19:15
กระทู้ของคุณมารน้อย
              เริ่มตั้งแต่ปี 2549 ผมได้เรียนรู้วิธีการอุทิศบุญ เบิกบุญ และพิสูจน์ทราบว่าเป็นวิธีการที่นำบุญส่งถึงวิญญาณได้จริง ผมได้ใช้วิธีการอุทิศบุญ และการเบิกบุญแก้ปัญหาให้กับตัวเองและครอบครัว ทั้งด้านนายเวรที่มากระทำ,พระภูมิ เจ้าที่และทุกวิญญาณที่อยู่ในบ้านผม ทุกวิญญาณที่รักษาตัวบุคคบ อีกทั้งวิญญาณที่ประจำอยู่ที่รถของผม หลังจากพิสูจน์ทราบได้ว่ามีวิญญาณใครบ้างเกี่ยวพันกับผมและครอบครัวทุกวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับผมและครอบครัว ได้รับผลบุญอุทิศจากผมและครอบครัว ต่างมีความสุขกันถ้วนหน้าและมีความผูกพันกันระหว่างคนและวิญญาณ เหมือนครอบครัวเดียวกัน
จากนั้นผมก็เริ่มทดลองช่วยวิญญาณอื่นๆภายนอกบ้านซึ่งพบ วิญญาณที่ลำบากมากที่สุด มีทั้งสัมภะเวสี เปรต อสูรกาย อดอยากหิวโหยทุกข์ทรมารด้วยกรรมมากมายเหลือเกิน ญาติใครบ้างก็ไม่รู้ มีทั้งประจำอยู่กับที่ และ เร่ร่อนทั่วไป ไม่มีใครอุทิศบุญให้เขา เหล่านั้นเลย ญาติก็ไม่รู้เรื่อง จัดงานศพตามประเพณีเสร็จแล้วก็จบกัน พอผมเริ่มอุทิศบุญแจกไปทั่ว ต่างก็หลั่งไหลมารอรับบุญเต็มหน้าบ้านไม่หมด 7 V/ t0 E5 K$ v4 A' j6 `3 c
จากการอุทิศบุญช่วยเหลือวิญญาณต่างๆ บางครั้งเขารับบุญไม่ได้ ทั้งๆที่ผมเบิกบุญของผมอุทิศให้ตรงๆก็รับไม่ได้จำเป็นต้องการอุทิศบุญที่พลิกแพลงไป ให้อยู่ในสภาพที่วิญญาณเหล่านั้นรับได้ ขอยกตัวอย่างดังนี้
วิญญาณที่เป็นร่างมนุษย์ หรือร่างสัตว์ที่เพิ่งหลุดจากร่างของสัตว์ที่ถูกฆ่าตาย อย่างเช่นตามตลาดนัด ส่วนมากเราจะพบว่าปลาดุก ปลาช่อน กบ จะถูกทุบแล้วก็เชือดกันสดๆ ผ่าท้องกันสดๆ เห็นเนื้อของสัตว์เหล่านั้นเต้นระริกด้วยความเจ็บปวด ลูกค้าหลายคนชอบชี้ตัวเป็นๆ แล้วสั่งให้แม่ค้าปลาจัดการชำแหละให้สดๆ มันกินอร่อยดี โถ ใจยักษ์ ใจมารทั้งคู่เลย ร่างวิญญาณที่หลุดจากปลาและกบเหล่านั้น มีทั้งเป็นร่างคนคือกรรมของเขาเริ่มเบาบาง แต่ถ้าเป็นร่างสัตว์ที่ตายเหมือนเดิม แสดงว่ากรรมของดวงวิญญาณนั้นยังมีมากอยู่
พอผมอุทิศบุญให้วิญญาณของสัตว์ที่ตายใหม่ๆ นี้มันไม่รับคือมันไม่รู้เรื่อง สิ่งที่วิญญาณเห็น คือเป็นลำแสงบุญสีขาว พุ่งไปหาเขา แต่เขาไม่รู้จัก แลยไม่ได้ตั้งจิตอนุโมทนารับบุญ บุญนั้นก็สะท้อนกลับขึ้นข้างบนคือกลับไปเป็นกองบุญของผมตามเดิม ดังนั้นผมจึงต้องคิดวิธีอธิษฐานให้ใหม่ดังนี้
“ขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้า จงเปลี่ยนเป็นอาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ให้กับวิญญาณเหล่านี้ โดยขอให้เขารับบุญได้ด้วยเถิด”4 I" |- |8 P+ L0 r
เมื่ออธิษฐานแปลงผลบุญ แบบนี้ปรากฎว่า วิญญาณของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายใหม่ๆ ก็จะรับผลบุญที่เราอุทิศให้ได้ถ้าเป็นวิญญาณร่างมนุษย์ สักระยะหนึ่งเขาจะมีการเรียนรู้จากการบอกเล่ากันในหมู่วิญญาณ ทำให้เขารู้วิธีการรับผลบุญนำไปอธิษฐานเองได้ แต่ถ้าวิญญาณนั้นยังเป็นร่างสัตว์ เนื่องจากกรรมของเขายังมากอยู่ พวกนี้จะเรียนรู้ได้ยากคือมันไม่ค่อยรู้เรื่อง การอุทิศบุญจึงยังต้องใช้การอธิษฐานแปลงผลบุยให้จนบุญเริ่มมาก ร่างวิญญาณสัตว์เหล่านั้น ก็จะกลายเป็นรูปร่างของวิญญาณมนุษย์ ดังนั้นถ้าไม่สามารถรู้ได้เอง เราก็คงต้องใช้วิธี อธิษฐานแปลงผลบุญให้กับสัตว์ที่เพิ่งตายไปก่อนเลย- H5 I" `4 [1 E8 J) F( c9 v9 W
ที่แขนและมือของผมมีผื่นขึ้นเต็มไปหมด ตรวจสอบปรากฎว่าเป็นแมลงนายเวรในอดีตชาติจำนวนมากมาย เกาะและกัดให้เป็นผื่นคัน กินยาทายาเท่าไหร่ก็ไม่หาย อุทิศบุญให้มันปรากฎว่า นายเวรแมลงไม่รับคืนมันไม่รู้เรื่อง ผมก็ต้องใช้วิธีอธิษฐานแปลงบุญเป็นอาหารน้ำดื่มให้ ปรากฎว่านายเวรแมลงได้รัย จนพอใจก็ละจากเราไป แต่พวกใหม่ก็มาอีก นี่ก็ยังใช้หนี้กันไม่หมดเลย ผมเองก็ต้องใช้หนี้อยู่ทุกวัน ยังไม่หมดเลยยากินยาทาก็ต้องใช้รักษาตัว หนี้กรรมก็ต้องใช้บุญก็อุทิศให้ เรียกว่า ใช้วิธีแก้ไขทั้งสองทาง ขนาดใช้หนี้กันทุกวัน นายเวรยังต่อแถวยาวเหยียด จนหมดชีวิตชาตินี้ ก็ยังใฃ้หนี้ไม่หมดเลย แล้วคนที่ไม่อุทิศบุญใช้หนี้กรรม เพื่อให้เกิดอโหสิกรรมล่ะ อ๋อ! รับกรรมเต็มๆนะซีครับ สำหรับตัวผมนั้นกรรมที่รับก็ยังส่งผลอยู่แต่ผ่อนหนักเป็นเบา เพราะมีการอโหสิกรรม เกิดขึ้น จนเหลือแต่กรรมที่ส่งผล แต่วิญญาณนายเวรที่คอยซ้ำเติมนั้น ละไปจำนวนมากแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ที่เห็นป่วยกันตามโรงพยาบาลนั้นโดนทั้งกรรมและวิญญาณนายเวรเล่นงานทั้งนั้น
วิธีอธิษฐานแปลงบุญอีกอย่าง เช่น เราหยอดเงินเหรียญบาทใส่ตู้ทำบุญ เราก็อธิษฐานแปลงบุญได้เลย ดังนั้นเหรียญหลุดมือให้คิดทันที เช่น “ขอบุญนี้จงเปลี่ยนเป็นอาหาร น้ำดื่ม ให้กับวิญญาณ........”หรือจะคิดแปลงเป็นอย่างอื่นก็ตามแต่เราจะคิดอธิษฐาน 2 I& s* V1 Q" a+ S; N6 o0 r+ T
มีอีกอย่างที่ควรจะทำในการชดใช้หนี้นายเวร ก็คือ การขอโทษ ขออภัย ขอขมา ขออโหสิกรรม ต่อนายเวร อ้างเลยว่าเราจำเหตุที่ล่วงเกินไม่ได้แล้ว เพราะมันคนละภพชาติ แต่เมื่อเขาเป็นนายเวร แปลว่าเราได้กระทำเขามาแน่นอน ก็ขอโทษ ขออภัยในสิ่งที่เคยล่วงเกิน ขออโหสิกรรม ยกมือพนมไหว้ด้วยยิ่งดีใหญ่ ขอชดใช้ด้วยบุญจนกว่านายเวรจะพอใจ บางครั้งเราต้องการช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ถูกขังด้วยอาคมเราก็สามารถทำได้ โดยอธิษฐานดังนี้
“ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญสมาธิของข้าพเจ้าที่สร้างไว้ทั้งหมด ลงมามลายมนต์อาคมที่ผูกมันวิญญาณดวงนี้ให้หลุดเป็นอิสระด้วยเถิด”  y" H+ q+ E1 T+ p5 |8 G
ถ้าวิญาณนั้นยังไม่หลุดจากอาคม แสดงว่ากรรมของเขามีมาก ให้อุทิศบุญให้หลายๆครั้ง แล้วลองมลายมนต์อาคมดูใหม่ ถ้ายังไม่หลุดจากอาคมอีก แสดงว่ากรรมเยอะจริงๆอาจจะเคยเป็นหมออาคม ที่จับวิญญาณมาขังในชาติก่อนๆ หรือเป็นคนเคยขังสัตว์มากมาก กรรมก็เลยตามมาสนองบ้าง
สุดท้ายก็ใช้วิธีขอบารมีพระพุทธองค์ มลายมนต์ ถ้าหลุดจบภาระ แต่ถ้ายังไม่หลุดจากอาคมอีก แปลว่ากรรมเขาหนักจริงๆ ใครก็ฝืนกฎแห่งกรรมไม่ได้ ก็ต้องกำหนดจิตบอกเขาในใจว่า เจ้ามีกรรมมากจะตั้งใจปฎิบัติภาวนา เพื่อสร้างบุญหนีกรรมเอาเอง ผู้อื่นช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว3 K* l' ~2 T) M/ Z7 z& B
ในเหล่าวิญญาณที่มีฤทธิ์ เช่น อสูร ยักษ์ เทวดา พรหม ฤาษี ท่านเหล่านี้ บางครั้งก็มาเกี่ยวข้องกับมนุษย์ตามวาระกรรมได้เช่นกัน มีทั้งมาช่วยเหลือ หรือมาทำร้าย วิญญาณเหล่านี้มีฌาณ สมาธิ มีฤทธิ์ทางจิตสูงมาก คือบำเพ็ญฌาณมาทั้งนั้น บุญที่อุทิศให้ เขาไม่สนเท่าไร แต่ถ้าเป็นบุญเหรียญทองหรือบุญสมาธิ รู้สึกว่า ท่านเหล่านั้นจะพอใจ เพราะบุญเหล่านี้ ทำให้ฤทธิ์ ของเขามากขึ้นด้วย โดยอธิษฐานดังนี้
“ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญเหรียญทอง บุญสมาธิของข้าพเจ้า ลงมาส่งถวายแด่ท่าน………..”, T2 }1 p2 w! g0 |- D8 \
ผมเองประสบกับวิญญาณของยักษ์และอสูรมาด้วย เคยมีกรรมต่อกันในอดีตชาติ เขาผูกแค้นติดตามมา จะทำให้เราเจ็บปวดอย่างหนัก หรือ เกิดอุบัติเหตุ เขาเหล่านั้นทำได้หมด ถ้ามีกรรมแค้นต่อกัน ผู้ที่เป็นวิญญาณที่รักษา เราทั้งหมดต้องหลีกไม่สามารถขัดขวางได้  เพราะเขาเป็นนายเวร นี่คือกฎของโลกวิญญาณ กรรมของใครผู้นั้นต้องชดใช้คนอื่นไม่เกี่ยว นอกจากอุทิศบุญสมาธิบุญเหรียญทองให้แล้วผมยังต้องขอขมา ขออภัย เป็นทางการอีกด้วย คือ ต้องตั้งบายศรี มีไข่อยู่ยอดบายศรี มีอาหาร ขนม ไข่ต้ม ถวายอีกในการขอขมา จุดธูป 16 ดอก ประกาศขอขมาพร้อมทั้งถวายเครื่องสังเวย และสักการะถึงได้ยอมอโหสิ แถมกลับมาเป็นญาติธรรมช่วยกันอีก
ท่านผู้มีฤทธิ์ตามที่กล่าวมานั้น ท่านไม่ได้อยากได้บุญ แต่ต้องการ การคารวะ การยอมรับนับถือ การขอขมาแบบเป็นทางการถ้าบางคนได้ประสบกับเหตุการณ์แบบผมก็ลองนำวิธีของผมไปใช้ดูบ้างอาจจะได้ผลนะครับ ผมทำจนรอดมาแล้ว ตอนแรกนึกว่าเขาจะเอาตายเสียแล้ว พอสงบศึกได้ด้วยสันติวิธี เลยได้ญาติธรรมที่ทรงฤทธิ์คอยช่วยเหลือดูแลอีก$ I5 O! k% ?- z3 ~7 ]
บุญเหรียญทอง สามารถนำมาใช้แก้กรรมคือ อุทิศให้นายเวรที่มาถึงตัวได้ แต่ควรจะต้องแปลงผลบุญก่อน ป้องกันวิญญาณสัมภะเวสีที่เป็นนายเวรของเรารับไม่ไหว โดยอธิษฐานแปลงดังนี้ ก็ได้ “ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญเหรียญทองของข้าพเจ้าจงเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ต้องการ ให้นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า” อย่าลืมขอขมา ขออภัยด้วย แต่ถาต้องประสบเคราะห์กรรมอย่างหนักคิดว่าแค้นของนายเวรแรงมาก ท่านลองใช้วิธีขอขมาแบบที่ผมใช้บายศรีดูบ้างก็ได้ หรือถ้าหาบายศรีไม่ได้ก็ใช้พวงมาลัยดอกไม้สด พร้อมอาหาร ก็คงพอได้ อาจจะทำให้เคราะห์กรรมเบาบางลงได้ เพราะความพอใจของวิญญาณนายเวรที่กระทำเรา
การภาวนา สำหรับคนธรรมดาสามัญทั่วไป มักจะใช้การปฎิบัติสาธิภาวนา ครับนี่แหละบุญมหาศาล ยิ่งกว่าทานหรือศีลอีกไม่ต้องใช้เงินสักบาท ใช้ความตั้งใจลงมือปฎิบัติทำที่ไหนก็ได้ที่เหมาะสม ไม่ว่าที่บ้านหรือที่วัด ขอให้เป็นที่สงบ และจิตกับสติเราพร้อม ถ้าเราไม่มีเวลานั่งสมาธิ จะใช้วิธีกำหนดสติ ไว้ที่ตัวตลอดเวลา เท่าที่ทำได้ คือประคองความรู้สึกไว้ทั้งตัวให้ได้นานที่สุด ถ้าเผลอหลุดไปก็กำหนดใหม่โดยไม่ต้องเพ่ง ทำใจเบาๆ รู้สึกเบาๆ ทั้งตัว นี่ก็เป็นวิธีทำสมาธิอีกวิธีหนึ่ง ที่ทำได้ตลอดเวลาที่เรามีสติรู้ระลึกรู้สึกตัวทำงานไปก็ทำได้ตลอดวัน ทั้งหมดนี่เป็นบุญมหาศาล ถ้าจะอุทิศให้กับวิญญาณใด ก็ขอให้แปลงบุญก่อน เช่นก่อนเราทำสมาธิวิธีใดก็ช่าง ให้อธิษฐานเปิดบุญก่อนว่า “ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญภาวนาของข้าพเจ้าจงเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ต้องการให้กับวิญญาณของ.................”2 O7 T8 z: u8 Z# z  J
หลังจากนั้นเราก็ลงมือภาวนาตามแบบที่เราถนัด โปรดทราบ ทุกคนมีญาติที่ถูกทรมานอยู่นรกภูมิทุกคน อย่าลืมว่าทุกคนเกิดมาหลายภพหลายชาติ ญาติแต่ละคนมีมากมายนับไม่ไหว ที่ยังทรมานที่นรกก็มากมาย เวลาในการทรมานบางคนหลายร้อยปีมนุษย์ บางคนถึงหลักพันปีขึ้นอยู่กับกรรมของเขา + _2 t, b# P9 k, q$ L# }; ~: u: u
เราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วใจชาตินี้ เราจำญาติเก่าๆเหล่านั้นไม่ได้หรอก แต่จงรู้ว่าญาติเราถูกทรมานอยู่ที่นรกมีจริง ขอท่านจงใช้บุญภาวนาของท่าน ส่งตรงถึงญาติทั้งหมดของท่านที่นรกด้วยเถิด ช่วยทำกันบ่อยๆ หน่อย เพื่อช่วยให้ญาติของท่าน ได้ลดวันเวลาในการลงโทษให้น้อยลง เมื่อได้บุญภาวนาบ่อยเข้า ญาติของท่าน จะได้พ้นจากการถูกลงโทษได้เร็วขึ้น
วิธีการอธิษฐานบุญภาวนา ส่งถึงญาติที่นรก
1.อธิษฐานบุญภาวนา แปลงเป็นอาหารน้ำดื่มให้ญาติที่นรก บางรายที่ถูกลงโทษจนเบาแล้วจะมีโอกาสได้กินอาหาร น้ำดื่ม จากเรา ที่เคยพบบางรายถูกทุบตีอยู่แต่มือก็คว้าอาหารกินด้วยความหิวโหยก็เคยเจอ
2.อธิษฐานเปิดบุญภาวนาโดยตรง ส่งให้ญาติที่นรกวันเวลาในการลงโทษของเขาจะลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าเราขยันภาวนาส่งบุญลงไปให้ นรกภูมิจะลดวันเวลาให้ทุกครั้ง พอกำลังบุญเพียงพอ วิญญาณญาติเหล่านั้น ก็จะหลุดขึ้นมาเป็นสัมภะเวสีที่โลกมนุษย์ พวกนี้พอขึ้นจากนรกมาได้ จะมีเทวดาที่สอนปฎิบัติธรรมในที่ต่างๆ ช่วยกันแนะนำสอนให้ปฎิบัติกันที่พบพอหลุดขึ้นมาจากนรก จะนุ่งชุดขาวปฎิบัติกันอย่างเคร่งครัดขยันมาก เพราะกรรมที่นรกจ่อหลังอยู่ บุญที่ช่วยดึงขึ้นมาได้นั้น เป็นเพียงเหมือนการประกันตัวออกมา ถ้าไม่รีบสร้างบุญด้วยการปฎิบัติธรรมหนีกรรม ก็ต้องถูกนำตัวไปลงโทษที่นรกภูมิอีก เมื่อพลังบุญที่ได้รับเบาบางลง # {! k3 |2 R$ L: g
ญาติใครญาติมั่นช่วยกันเอาเองนะครับ ทำไปเถิดการภาวนา นั้นบุญเกิดกับตัวเรามหาศาล บุญที่อุทิศไปให้ญาตินั้น บุญเราไม่ได้พร่องไปเลย ยังอยู่ครบเหมือนเดิม แถมเอาบุญทำทานอีก บุญเรายิ่งทวีมากขึ้นอีกด้วย
เมื่อคิดจะภาวนาก็ควรจะรักษาศีลด้วย เอาศีล 5 นี่แหละ ลองพยายามทำดูซิครับ พอทำไปนานเข้าความเคยชินกับศีลจะเข้ามาอยู่ในใจ พอจะทำอะไรผิดศีล แหม!มันฝืนใจน่าดู เมื่อเรารักษาศีลเป็นอารมณ์ การภาวนาจะก้าวหน้าดีมากนะครับ" s- c5 L/ a! t, x0 A
คำเตือน!จากที่ผมแนะนำวิธีมลายมนต์อาคมให้กับวิญญาณที่ถูกมนต์อาคมขังไว้ ต้อนที่ผมได้วิธีการมลายมนต์นี้ใหม่ๆ เจอที่ใหนปล่อยแหลก พอทำไปเรื่อยๆ ก็เกิดคำเตือนจากเบื้องบนมาว่า ขณะนี้ครูอาจารย์ที่สร้างวัตถุอาคมที่ขังวิญญาณ คือเป็นวิญญาณ ครูบาอาจารย์ของผู้สร้างจำนวนหลายท่าน ได้ติดตามมองดูการกระทำของผม ที่ถือได้ว่าล่วงเกินเขา บังอาจปล่อยวิญญาณที่เขานำมาขังไว้ในรูปวัตถุอาคมต่างๆ เขาไม่พอใจมาก เพียงแต่เขายังไม่ลงมือทำร้ายผมเท่านั้น ท่านผู้อยู่เบื้องบนให้ผมเปลี่ยนวิธีการช่วยดวงวิญญาฯที่ถูกกังขังเสียใหม่ คือไม่จำเป็นจริงๆ อย่าปล่อยวิญญาณเหล่านั้น โดยวิธิการมลายมนต์อาคม ให้เปลี่ยนไปใช้การอุทิศบุญให้กับวิญญาณเหล่านั้นพร้อมสอนให้เขาปฎิบัติภาวนาสร้างบุญเอาเองแล้ววิญญาณเหล่านั้น จะหลุกจากการคุมขังได้เองเมื่อบุญที่เขาสร้างเพียงพอ ท่านเบื้องบนเตือนไว้คืออย่าให้ผมไปยุ่งกับกรรมของผู้อื่น  กรรมของเขาเองที่ทำให้วิญญาณของเขาถูกขังอยู่อย่างนั้ ตัวผมไม่ควรไปยุ่งแก้ให้วิญญาณเหล่านั้น เดี๋ยวกรรมนั้นจะย้อนกลับมาเล่นงานผมเข้า% u- i( h7 F0 f
ดังนั้นทุกวันนี้ผมใช้วิธีอุทิศบุญให้วิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ในวัตถุอาคมต่างๆแทน โดยไม่เอาจิตเข้าไปยึดว่าต้องช่วยให้ได้ถือว่าแล้วแต่กรรมของเขา ส่วนการแนะนำการปฎิบัติธรรม ผมขอให้ชาวทิพย์ ที่ไปกับผมหรือที่อยู่บริเวณนั้น รับภาระในการสอนไป ส่วนวิญญาณครูอาจารย์ของผู้สร้างวัตถุอาคมเหล่านั้น ผมอุทิศบุญถวายพร้อมกล่าวขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินจนเดี๋ยวนี้ไม่มีวิญญาณครูอาจารย์ท่านใดมาคอยจ้องดูด้วยความไม่พอใจอีกแล้ว รอดไปอีกงานเกือบพลาดไปซะแล้ว เมื่อเจอข้อบกพร่อง ก็บอกวิธีแก้ไขให้แล้วนะครับ ถ้าใครยังมลายมนต์ ช่วยวิญญาณตามวิธีของผมอยู่อีก ก็ระวังตัวด้วยนะบอกแล้วนะ เตือนแล้ว
ณัฐดนัย 2013-7-28 08:22
พระเครื่อง เครื่องรางของขลังกับคนไทยเป็นของคู่กันที่แยกไม่ออก แต่ละบ้านมีวัตถุมงคลอยู่บ้านละมากๆ ทั้งเก่าใหม่ พระเครื่องในประเทศไทยพบมาตั้งแต่ยุคทวาราวดี, ลพบุรี,  เชียงแสน, สุโขทัย, อยุธยา จนปัจจุบัน การสร้างของครูบาอาจารย์ที่สร้าง มีทั้งสร้างบรรจุไว้ตามเจดีย์ ตามวัด ตามถ้ำ เพื่อสืบต่อพระศาสนา บ้างก็สร้างไว้แจกให้ผู้คนที่นับถือนำไปเคารพบูชาหรือนำไปติดตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตราย, เมตตามหานิยม, แคล้วคลาด, อยู่ยงคงกระพัน, มหาอุด, ป้องกันภูตผีปีศาจ ฯลฯ, `# Q( \+ d7 }: O5 \  Z1 u9 r5 R
                รูปแบบการสร้าง ส่วนใหญ่จะสร้างรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นองค์ที่ชาวพุทธเคารพบูชาสูงสุด ส่วนรูปแบบอื่นก็มี แต่จะมีน้อยกว่า
                การปลุกเสก พระเครื่องแต่โบราณที่นิยมมากก็คือ การสวดอัญเชิญบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แผ่บารมีลงสถิตที่พระเครื่องที่สร้างขึ้น บารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สถิตอยู่ที่พระเครื่อง จะมีบารมีทางคุ้มครอง แคล้วคลาด เมตตา ป้องกันภัยจากภูตผีปีศาจที่จะมาทำร้าย รังสีจากองค์พระที่แผ่ออกมา เรียกรังสีออร่าจะเป็นสีเหลือง จับพลังด้วยมือจะพบพลังเย็น พลังที่พบจะมีมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับบารมีธรรมของผู้สร้าง ความบริสุทธิ์ใจของผู้สร้าง เป็นพลังสำคัญ6 s3 x7 i& _4 K
                ถ้าการปลุกเสกมีจุดประสงค์เพื่อใช้ป้องกันตัวเวลาออกสงคราม เน้นให้เกิดความคงกระพัน ผู้สร้างจะใช้อาคมและพลังจิตในการปลุกเสก โบราณผู้ปลุกเสกก็มักเป็นผู้ทรงศีล ใช้เวลาสงัดและฤกษ์ยามที่เหมาะสมปลุกเสกเดี่ยวอยู่เพียงผู้เดียว ถ้าพลังจิตมีพลังมาก วัตถุมงคลที่ปลุกเสกจะถูกพลังจิตของผู้ปลุกเสกอัดเข้าไป จนวัตถุมงคลนั้นเคลื่อนไหว กระดุกกระดิกหรือกระโดดจากภาชนะที่ใส่อยู่ นั้นเรียกว่าปลุกเสกได้เข้าขั้นใช้ได้เลย ถ้าปลุกเสกแต่วัตถุมงคลนั้นยังนิ่งเฉย แสดงว่าพลังจิตและอาคมที่ประจุลงไปยังน้อยไปใช้ไปป้องกันตัวไม่ได้ ปัจจุบันที่ได้ข่าว พระที่ปลุกเสกได้อย่างนี้มีหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม อ.บรรพตพิสัย นครสวรรค์ ส่วนองค์อื่นเชื่อว่ามีที่ท่านทำได้แต่ผมไม่รู้ข่าว
                ส่วนที่เราเห็นพิธีปลุกเสกแบบพิธีการใหญ่โต นิมนต์เกจิอาจารย์มานั่งปรทตามกำหนดเวลาพร้อมๆกัน มีพระสวดดังลั่นอยู่เห็นแล้วส่ายหน้าเลยจะไปเหลือสมาธิจิตในการปลุกสักเท่าไร  ถ้าวัดใดสร้างและต้องไปอาศัยบารมีจากครูบาอาจารย์วัดอื่นๆ ช่วยในการปลุกเสก ขอให้นำวัตถุมงคลนั้นไปถวายให้ท่านทำการปลุกเสกเองที่วัดท่าน โดยนัดแนะเวลาอีก 3 วัน 7 วันหรือ 1 ไตรมาสค่อยมาขอรับคืน ครูบาอาจารย์ท่านจะได้หาเวลาสงัดที่กำลังจิตท่านดีผ่องใสว่างจากภารกิจ ทำการปลุกเสกวัตถุมงคล จะได้พลังที่รุนแรงเต็มที่& p- {" Y. h7 H! T$ p
                พระเนื้อดินแต่โบราณที่ผมมีอยู่เป็นของกรุต่างๆ ตั้งแต่ยุคทวาราวดี ลำพูลลงมาจนถึงอยุธยา  ผมพบสิ่งวิเศษสุดที่ครูบาอาจารย์ทำเป็นมวลสารใส่ไว้ในองค์พระ คือ เหล็กไหลที่แข็งตัวแล้วจำพวกโครตเหล็กไหล,  เหล็กไหลตาน้ำ,  เหล็กไหลเพลิง,  เหล็กไหลบารมี  นำมาบดเป็นผงสีดำๆ  ผสมกับดินที่มาสร้างพระทำให้พระเครื่องที่สร้างมีบารมีทางอยู่ยงคงกระพัน  แคล้วคลาด  มหาอุด  ด้วยบารมีของเหล็กไหลที่ใส่อยู่  ถ้าท่านมีพระกรุเก่าๆ อยู่ทดลองดูได้โดยอาศัยแม่เหล็กที่มีกำลังแรง  แหย่เข้าไปใกล้พระองค์พระที่วางอยู่บนที่เรียบนูนเช่น  กระจกเลนซ์นูนของแว่นขยาย องค์พระจะถูกแม่เหล็กดูดจนเคลื่อนที่ วิธีนี้พอจะพิศูจน์เองกันได้ทุกคน แต่ระวังนะครับปัจจุบันก็มีพระทำปลอมขึ้นมาแล้วใส่ผงเหล็กหรือฝังเศษเหล็กไหลไว้ภายใน  เอาแม่เหล็กดูดดูวิ่งเข้าใส่เลย
                อีกสิ่งหนึ่งที่ผมพบเป็นสิ่งที่สูงมากนำมาบรรจุในองค์พระหรือติดไว้ที่ผิวองค์พระคือ พระธาตุครับ ถ้าเป็นของจริงพลังบารมีของพระองค์นั้นจะสูงสุดๆ เลย แต่ผู้ที่จะใส่ควรจะมีศีลมีธรรม ท่านจึงจะปกป้องคุ้มครอง พบมีของปลอมอีก โดยวิธีนำทรายที่มีลักษณะคล้ายพระธาตุมาผสมใส่เนื้อดิน สร้างเป็นรูปพระขึ้นมา เอาไว้หลอกคนที่ชอบพระธาตุ; r; n1 E; g7 _+ S# T
                พลังในพระเครื่อง มีอยู่จริงๆ  บางท่านที่มีสมาธิจิตดีๆ สามารถสัมผัสกับพลังในองค์พระได้ มีทั้งการปลุกแบบเต้นไปทั้งตัว แสดงว่าผู้ปลุกจิตยังอ่อน ปลุกแล้วไม่รู้เรื่องว่ามีอะไรบ้างภายในองค์พระ บางท่านจับองค์พระไว้ทีมือพอจิตสัมผัสองค์พระ มือจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ  เช่นกระตุกไปข้างหน้า หมายถึง คงกระพัน กระตุกวิ่งเข้าหาอกนั่นคือพลังเมตตามหานิยม กระตุกมือลงข้างล่างเป็นมหาอุด มือเคลื่อนที่วิ่งวนอยู่ข้างหน้าคือ แคล้วคลาด  ถ้ามือยกขึ้นเหนือศีรษะคือ คุ้มครองป้องกัน  วิธีปลุกดูพุทธคุณโดยดูจากมือที่เคลื่อนที่นี้  เราจะรู้รายละเอียดในองค์พระว่ามีพลังอะไรอยู่บ้าง บางองค์มี 1 อย่าง บางองค์ลงไว้หลายอย่าง และพลังแรงของมือที่สะบัดไป ถ้าแรงมากแปลว่าพลังในองค์พระมาก  ผมพบวิธีนี้ตอนผมเรียนอยู่ที่ รร.ช่างกลไทยสุริยะ ประมาณปี 2517 ที่บางบัว อ.บางเขน กรุงเทพฯ  ผู้ที่ใช้วิธีนี้ชื่อ อาจารย์ทองคำ ที่จริงแกป็นภารโรงอยู่ในโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่นั่นแหละ  ผมขนพระมาให้อาจารย์ทองคำปลุกดูเป็นร้อยๆ องค์ หาพระที่มีพลังสูงๆ ใส่  ส่วนมากพระที่มีพลังสูงๆ มักพบเป็นพระกรุแต่โบราณ  ส่วนพระรุ่นใหม่ที่มีพลังสูงๆ พบน้อยก็คงมีมาก แต่ผมอาจจะไม่มีพระเครื่ององค์นั้นๆ อยู่ จึงไม่สามารถจะรู้ทุกองค์ได้ ผมเองก็เรียนรู้วิธีการปลุกพระจากอาจารย์ทองคำ ท่านก็สอนให้แต่ใช่ว่าจะรู้วิธีทำแล้วจะทำได้ทุกคน  มันต้องขึ้นอยู่กับสมาธิจิตด้วย  วิธีการและคาถามีดังนี้! n; r; F9 M8 F+ p/ I4 y
                                นะโม 3 จบ        เอหิพุทธา มามานุภาเวนะ2 e3 v, u9 A4 I/ R
                                                เอหิธัมมา มามานุภาเวนะ
                                                เอหิสังฆา มามานุภาเวนะ2 l$ ~+ u+ N1 M0 j4 w
                                เสร็จแล้วว่าวนที่คำว่า  มะอะอุ อุอะมะ% u- d/ L& P" }& J
                ส่วนองค์พระที่เราจับให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้จับองค์พระไว้  อย่าเกร็งมือ พุ่งจิตไปจับความรู้สึกตรงนิ้วที่จับองค์พระไว้  อย่าเพ่งไปใส่นะครับ ให้กำหนดจิตเปิดรับพลังจากปลายนิ้วที่จับองค์พระ ให้ไหลเข้าทางแขนมาหาตัวเรา  เมื่อจิตเรานิ่งจนละเอียดเพียงพอ  จิตจะรับสัมผัสพลัง ผ่านทางนิ้วมาแขนเข้ามาที่ตัวเรา  พลังจะวิ่งเหมือนไฟดูดนั่นแหละ  ส่วนมือจะสบัดไปในทิศทางตามพลังแต่ละอย่างที่ลงไว้ในองค์พระ  ท่านผู้อ่านท่านใดจะลองนำไปทดลองดูบ้างก็ได้  ส่วนตัวผมทดลองมาหลายครั้งแล้ว ตอบแบบภาคภูมิใจเลย  ผมยังทำไม่ได้ครับ!  ส่วนตัวอาจารย์ทองคำ ท่านตรวจพุทธคุณได้เร็วมาก  จิตท่านเร็วมาก  เอามือจับองค์พระกำหนดจิตแล้วมือสะบัดไปทันทีที่ไม่ได้ใช้พระคาถาเลย  เมื่ออาจารย์ทองคำทำเป็นตอนแรกก็ต้องใช้คาถานี่แหละ  แต่พอชำนาญเข้า  จิตไวมากไม่ได้ใช้ จับปุ๊บได้ปั๊บ  พระ 100 องค์เช็คชั่วโมงเดียว เรียบ
                อีกวิธีที่ท่านอาจารย์ทองคำใช้ คือ กำหนดจิตมององค์พระ ดูรังสีที่พุ่งออกจากองค์พระ  องค์ไหนมีรัศมีสว่างแสงสีแจ่มชัด  ก็คือมองดูรังสีออร่าในองค์พระนั่นเอง  เรียกว่ามองพระที่วางปนกันทั้งกล่อง  ยื่นมือไปหยิบพระองค์ที่มีพลังแรงได้เลย  วิธีเช็คพลังพระเครื่องที่ผมพบที่อาจารย์ทองคำ เป็นวิธีแรกที่ผมรูจัก ถ้าท่านผู้อ่าน  อ่านแล้วอยากนำพระไปตรวจสอบ ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยเพราะอาจารย์ทองคำ  ท่านเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2538  ผมได้ไปงานฌาปณกิจศพท่านที่วัดบางบัวมาแล้ว  หลังจากที่พวกผมติดต่อวิญญาณได้ ก็ได้ติดตามหาอาจารย์ทองคำ  พบอยู่ที่ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นอันว่าหมดห่วงไป
                ปัจจุบันที่ผมพบผู้ที่สามารถใช้วิธีตรวจสอบพลังในองค์พระได้ที่ชัยนาท  โดยดูจากการสะบัดมือ เคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ แล้วบอกรายละเอียดพลังที่อยู่ในองค์พระได้ละเอียด  เป็นข้าราชการของกรมชลประทาน ปัจจุบันที่เขียนอยู่นี้ปี 2551 ท่านผู้นี้อายุเกือบ 60 ปีแล้ว  ทำงานอยู่ที่ อ.วัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท นามสกุลบุญประสิทธิ์  ผมบอกให้แค่นี้นะครับ  ผมเองก็อาศัยท่านผู้นี้ในการตรวจสอบรายละเอียดในองค์พระเป็นครั้งคราว# V4 C+ v/ _; K* q
                ส่วนพวกผมที่สำเร็จวิชามโนมยิทธิ  เองทดสอบลองตรวจพลังในองค์พระดูทำได้คือมีพลังวิ่งจากองค์พระพุ่งเข้าแขนผ่านอกไปยังมืออีกข้างหนึ่งพลังมากหรือน้อย  ดูจากพลังนั้นวิ่งข้ามไปได้ไกลถึงส่วนไหนของแขน  และแยกแยะได้เพียง  พลังเย็นคือพุทธคน  พลังร้อนคืออาคม
                อีกวิธีหนึ่งคือ  กำหนดดูรังสีออร่าจากองค์พระว่ามีสีอะไร  และสว่างแค่ไหน  ก็สามารถ  รู้พลังในองค์พระได้
                อีกวิธีคือกำหนดจิต  ถาม  จากครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างไว้เลยสะดวกดีเพราะสามารถติดต่อกับโลกวิญญาณได้5 t5 i; M5 X/ C9 `0 y8 D7 |8 K# g
                ขอยกตัวอย่างพระที่ผมเคยตรวจสอบแล้วพบว่าพลังแรงในด้านต่างๆ  ดังนี้, ?7 q5 Q9 D+ Q, d. q
                        1.  สมเด็จวัดระฆัง   กรุงวังหน้าขององค์สมเด็จโตที่เขานิยมกันมาก  พลังที่พบเป็นรังสีขาว  มีพลังเย็น  ผู้ที่อยากได้ไว้บูชาถ้าเช่าหาในราคาแพงๆ มาขึ้นคอผมเสียดายเงินจังเลย  ความจริงพระกรุวัดพระแก้วยุครัชกาลที่  4  ราคาเช่าบูชา  แค่หลักสิบหลักร้อย หลักพัน  ยังมีอยู่ตามแผงพระใน  กทม. เยอะแยะครับ  อันนี้แล้วแต่ใครจะดูเป็น  นั่นมีปัญหาอีกไม่เป็นไรดูไม่เป็นเปลี่ยนวิธีใหม่  ผมเคยตรวจสอบพลังพระใหม่ๆ ที่สร้างเป็นรูปสมเด็จ  เช่นวัดเกษไชโยอ่างทอง  ที่วัดระฆัง  หรือที่วัดอื่นๆ สร้างโดยอาราธนาบารมีขององค์สมเด็จโตท่านมาแผ่บารมี  ผมยืนยันจากการตรวจสอบมาหลายครั้งว่าพลังบารมีในองค์พระเท่ากันกับสมเด็จวัดระฆังองค์เป็นล้านนั่นแหละครับ  มีหลายๆวัดสร้างเป็นรูปองค์สมเด็จโตเป็นเหรียญบ้างเป็นเนื้อผมบ้าง  พุทธคุณเหมือนกันกับสมเด็จวัดระฆังเลย  ใครชอบของแพงของถูกก็เลือกเอาเองครับคุณภาพเท่ากัน
                        2.  พระหลวงปู่ทวด  ออกวัดไหนก็ช่างผมตรวจสอบกี่องค์พุทธคุณเหมือนกันหมดคือ  เป็นพลังเน้นแคล้วคลาด  เด่นมาก  เหมาะกับผู้ใช้รถควรมีติดตัวหรือหน้ารถไว้  เก่าใหม่ไม่ใช่ตัวแยกความศักดิ์สิทธิ์  ถ้าหลวงปู่ทวดได้รับอาราธนา  มาแผ่บารมีลงในรูปของท่าน  ของใหม่ๆ ก็มีพลังเท่ากับของวัดช้างไห้ปี  2497  นั่นแหละมีพลังออร่าสีขาว  เป็นพลังพระโพธิสัตว์  ความแรงเท่ากันกับสมเด็จวัดระฆัง3 o; k" `  ]  C) w
                        3.  หลวงปู่เทพโลกอุดร  จะใหม่เก่าพลังออร่าสีทองอร่ามเลยดีครบทุกด้าน  มีพลังสูงมาก  ผมมีทั้งของเก่าดั้งเดิมและที่มีศิษย์สร้างขึ้นใหม่หลายองค์  พุทธคุณเท่ากันหมดทั้งเก่าใหม่  พลังที่ลงไว้แรงแต่หย่อนกว่าของหลวงปู่โตและหลวงปู่ทวด  ผมมีเพื่อนที่สามารถถอดจิตไปเรียนปฏิบัติจิตกับหลวงปู่เทพโลกอุดร  ผมฝากกราบเรียนถามว่าทำไมหลวงปู่ลงไว้เพียงเท่านี้  หลวงปู่ตอบว่าที่ลงให้เพียงเท่านี้รู้ว่าเพียงพอต่อการปกป้องคุ้มครองแล้ว  ถ้าใครจะให้มีพลังในองค์พระสูงกว่านี้ต้องปฏิบัติธรรมสื่อจิตกับท่านเมื่อนั้นพลังในองค์พระจะสูงขึ้นเอง  คืนท่านเน้นให้ผู้มีพระของท่าน  หันมาปฏิบัติธรรม
                        4.  พระกรุถ้ำเสือ  แถบ จ.สุพรรณบุรี  มีออกมาเยอะมีทั้งพิมพ์ที่นิยมและไม่นิยม  สร้างโดยฤาษีก็มีพระก็มีบรรจุไว้ตามถ้ำตามวัด  สร้างมาหลายยุคหลายสมัย  มีพลังออร่าสีแดงเป็นหลักคือเน้นคงกระพัน  เหมาะสำหรับใช้ป้องกันตัวเวลาออกรบยามมีสงคราม  ที่ผมมีอยู่มีทั้งพิมพ์นิยมและไม่นิยม  เช่าหามาในราคาหลักสิบหลักร้อย  ตรวจสอบดูพุทธคุณ มากทุกพิมพ์เลย  ตกลงดีทั้งของถูกของแพง  ภายในองค์พระทุกองค์มีเหล็กไหลประเภทที่แข็งตัวแล้วตามธรรมชาติบรรจุอยู่เป็นเม็ดเล็กๆ จากการบดก็มี  ยัดไว้เป็นก้อนนูนเลยก็มี  แถมบางองค์บรรจุพระธาตุไว้ภายในองค์อีก  ตรวจสอบพบเพราะดูจากแสงออร่า  มีทั้งสีแดง  และขาว  คือออร่าของพระธาตุ  ปนอยู่ด้วยกัน  พระขุนแผนกรุบ้านกร่างก็ใช่มีทั้งเหล็กไหลและพระธาตุบรรจุอยู่ทำให้พลังสูงมากแต่ความนิยมทำให้ราคาแพงอย่าไปสนใจหาเลย  เลือกเอาพระถ้ำเสือเก่าๆที่นอกพิมพ์นิยมจะถูกกว่าเยอะ
                        5.  พระกรุสุโขทัย  ยุคพญาลิไทช่วงปี พ.ศ.1900  ทั้งที่สุโขทัย  กำแพงเพชร  พญาลิไท  ท่านสร้างพระบรรจุไว้ตามเจดีย์ตามวัด  มากมายจริงๆ ที่พบมากเป็นพระเนื้อดิน  ภายในเนื้อดินพบผงดำๆ ปนอยู่ตรวจสอบพลังดูจึงรู้ว่านั่นคือเหล็กไหลประเภทหนึ่งถูกบดปนอยู่  เห็นมั๊ยครับเหล็กไหลหาง่ายจังเลยพระกรุยุคสุโขทัย  เน้นการลงพุทธคุณมาก  ออร่าจะออกไปทางสีเหลืองปนส้ม  คือ  พลังแคล้วคลาด  เมตตา  คงกระพัน  คุ้มครอง  พลังพอๆกับพระของหลวงปู่ศุข  วัดปากคลองมะขามเฒ่า  อย่างพระซุ้มกอ  เม็ดขนุน  ลีลาถ้ำหีบ  แพงทั้งนั้นผมมีพระซุ้มกอพิมพ์กลางอยู่องค์หนึ่ง  นำมาทดสอบพลังพุทธคุณก็มีพลังเท่าๆ กับพระกรุสุโขทัยที่ถูกขุดพบโดยชาวบ้านภายหลังและนำมาจำหน่ายสามารถพบเห็นตามแผงพระได้  ตกลงถูกแพงไม่เกี่ยวกับพลังในองค์พระ  มันคนละเรื่อง  ใครชอบถูกแพงก็เลือกเอาเอง
                        6.  หลวงปู่ศุข  หลวงพ่อเงิน  หลวงพ่อเดิม  ทั้ง  3  ท่านนี้คือครูบาอาจารย์ที่ทางอภิญญาฤทธิ์จริงๆ  ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทพโลกอุดรทั้งหมด  รู้สึกว่าจะธุดงค์ไปเรียนกันที่ถ้ำวัวแดงในป่า  ชัยภูมิ  พลังอภิญญาฤทธิ์ของทั้ง  3  ท่านที่ลงในวัตถุมงคลใกล้เคียงกันมีพลังสูงมาก  ของรุ่นเก่าที่ท่านสร้างไว้ราคาไม่ต้องห่วง  แพงครับ  ถ้ามีอยู่ก็ดีครับโชคดี  ท่านลงกันครบทุกทางหมดแต่เน้นมากคือ  คงกระพัน  มหาอุด  นำหน้าเลยแถมยังล้อมอาคมไว้กันคัดวิชาออกอีกต่างหาก  ผมเองเก็บพระหลวงปู่ศุข  กรุวัดดอนตาลไว้เป็นร้อยเลย  เซียนเขาตีปลอมครับที่ชัยนาทนี่เขาใช่แว่นส่องปล่อยเขาไป  ผมใช้ตรวจพุทธคุณ  ตรวจออร่าจ้าออกมาสีเขียว  พลังอภิญญาฤทธิ์เต็มๆเลย  แถมไปกราบเรียนถามหลวงปู่ศุขอีกต่างหาก  ใครว่าปลอมช่าง  ผมพิสูจน์ตามวิธีของผมเรียบร้อยแล้ว  หลวงปู่ทำไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่จริงๆ  ผมนำออกไปถวายวัดช่วยในงานสร้างเจดีย์ที่อุทัยธานี  และเจดีย์ศรีชัยพาผึ้ง  ลักษณะเนื้อทองเหลือง  หล่อติดกัน  3  องค์  ทีนี้คนทั่วไปจะหาที่ไหนไม่ต้องคิดมาก  วัดใดสร้างรูปหลวงปู่ทั้งสามองค์นี้ที่สร้างใหม่นะครับ  ถ้าผ่านพิธีการปลุกเสกผู้สร้างก็ต้องอารธนาเชิญหลวงปู่เจ้าของรูปนั้นมาปลุกเสกด้วยตรวจสอบดูได้เลย  พุทธคุณเท่าของเก่าจริงๆ  เลือกเอาเองนะครับถูกกับแพง
                        7.  หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง  อยู่ในคอผมตลอดเลยครับทั้งพระคำข้าวพระหางหมาก  พระคำข้าวเน้นพุทธคุณ  เมตตา  แคล้วคลาด  คุ้มครองคงกระพัน  คือดีครบทุกทางนั่นแหละ  พระหางหมากจะเน้นทางบู๊มากหน่อยแต่ดีครบทุกทางจริงๆ  หลวงพ่อฤาษีท่านเคยกล่าวไว้ว่าท่านไม่ได้ปลุกเสกเองท่านอาราธนาอัญเชิญ  บารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์อีกทั้งเทพมหาศักดิ์  ผู้ทรงฤทธิ์มาแผ่บารมาลงในองค์พระ  ดีกว่าหลวงพ่อทำเองอีก   100  ปีก็ไม่เท่ารังสีออร่าสีเหลือง  ชักจำไม่แม่นเช็คมานานแล้วเป็นพลัง  พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  คือ  พุทธคุณนั่นเอง  ที่วัดตรงศาลารับแขกยังให้เช่าบูชาครับ  ดีทุกรุ่นครับเลือกเอาเอง  พลังเท่ากันทั้งนั้น
                        8.  พระรอดฝังพระธาตุข้าว  ของครูบาชัยวงษา  พระบาทห้วยต้ม  อ.ลี้  จ.ลำพูน บารมีพระธาตุข้าวของพระพุทธเจ้า  สูงมากๆ  กำลังสร้างเจดีย์อยู่ที่วัดยังมีให้บูชาอยู่  องค์ละ  100  บาท  เท่านั้น  พลังออร่าของพระธาตุข้าวเป็นสีขาวคลุมหมดเลย  ทั้งคุ้มครองแคล้วคลาด  เมตตา  ไปเอามาบูชาให้ได้นะครับของดีราคาถูก  สั่งทางไปรษณีย์ก็ได้ที่วัด
                        9.  พระผสมเหล็กไหลของวัดถ้ำแฝด  อ.ท่าม่วง  กาญจนบุรี  ของวัดนี้ใช้เหล็กไหลชนิดต่างๆ  นำมาสร้างพระจริงๆ  ผมไปที่ตู้วัตถุมงคลของวัดพลังจากเหล็กไหลในบริเวณนั้นบีบศีรษะปวดหัวเลย  พลังแรงจริงๆ เน้นทางคงกระพันมหาอุด  ดีจริงครับ  ที่วัดยังมีอยู่เยอะ  ใครชอบเชิญ
                        10.  เหล็กไหลวัดพุทไธสวรรค์  จ.อยุธยา  หลวงพ่อหวลปัจจุบันชรามากไปตัดเหล็กไหล  ไม่ไหวแล้ว  ของที่ยังเหลืออยู่ที่วัด  พลังแรงมากมีทั้งสีปีกแมลงทับ  สีเงินยวง  เป็นเม็ดข้าวสาร  เป็นกำไล  เป็นองค์พระ  อย่างถูกสุดขนาดเม็ดข้าวสาร  หรือกำไล  ราคาค่าเช่าบูชา  500  บาท  อย่างได้ของดีไปเอาเก็บไว้เสีย  หมดแล้วหมดเลย
                        11.  พระลำพูน  สร้างมานานครับเข้าแม่จามเทวี  มีองค์ฤาษีเป็นผู้สร้างทุกพิมพ์ทุกองค์  ใส่เหล็กไหลครับ  พลังแรงเหลือเฟือ  ทั้งแคล้วคลาดคงกระพัน  แถมบางองค์มีพระธาตุปนอยู่เนื้อพระ  พิมพ์ที่นิยมไม่ต้องไปหาหรอกแพงครับ  ที่เราขุดพบภายหลังนำมาวางตามแผงพระผมพบบ่อยพลังก็เท่ากับองค์เป็นแสนเป็นล้าน  แต่ผมเช่ามาราคาหลังสิบหลักร้อยเอง
                        12.  หลวงพ่อปานวัดบางนมโค  จ.อยุธยา  พิมพ์ขี่สัตว์ต่างๆ  นิยมกันมากแต่ดีจริงๆครับ  ทั้งคุ้มครองแคล้วคลาด  คงกระพัน  เป็นพลังบารมีพุทธคุณทราบว่าท่านใช้วิชาในตำราของพระร่วงเจ้าแต่ครั้งสุโขทัย  นำมาปลุกเสกพระรุ่นหลังที่สร้างไว้ให้ประชาชนเช่าบูชาที่วัด  หลวงปู่ปานท่านอยู่ที่ชิ้นดุสิต  สวรรค์ชั้นที่ 4  ที่อยู่ของพระโพธิสัตว์  ท่านเมตตาลงมาปลุกเสกรูปพระของท่าน  พลังก็เท่ากับพระที่ท่านสร้างครั้งยังมีชีวิต4 {2 |9 K  L5 u" j( D  y* [
                        13.  หลวงพ่อจักร  วัดเขาถ้ำรังไก่  อ.วัดสิงห์  จ.ชัยนาท  อดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม  ลาว  ฆ่าคนในสงครามมาเยอะ  สละชีวิตทางโลกบวชล้างบาปวิชาอาคมร่ำเรียนมามาก  ถนัดในการใช้ฤทธิ์จากวิชาอาคม  วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก  เน้นด้านคงกระพันมหาอุด  หันคา  ชัยนาทไม่ไกลจากเขาถ้ำรังไก่  ยังมาช่วยปลุกเสกด้วย  ดังนั้นวัตถุมงคลที่วัดนี้เน้นด้านบู๊จริง  ยิ่งถ้าพระปิดตารุ่นแรกๆ ท่านทำสมัยปี  2525  เหลืออยู่ไม่มากผสมเหล็กไหลทั้งนั้นเลยแต่ท่านเรียกเลือดผา  ท่านได้จากถ้ำสมัยธุดงค์จากอุ้มผางผ่านป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมาโผล่ที่  อ.บ่อพลอย  กาญจนบุรี  ตอนผมไปเช่าบูชาคุยกับหลวงปู่ ท่านพูดตรงๆ  โผงผางแบบคนจริง  บอกถ้าไม่มั่นใจมึงเอาปืนมาลองยิงดูได้เลย  ถ้ายิงออกไม่ต้องเอาไป  ใครอยากได้รีบนะครับ อายุท่านมากแล้วสุขภาพไม่ดีด้วย; }# d# ^, k3 S" q9 W
                        14.  หลวงพ่อสุพจน์  วัดศรีทรงธรรม  อ.บรรพตพิสัย  นครสวรรค์  ทางจากนครสวรรค์ไปพิษณุโลก  ออกจากนครสวรรค์ไปประมาณ  40 กม.  จะเห็นป้ายบึงปลาทูอยู่ซ้ายมือ  เลี้ยวรถเข้าไปประมาณ  5  กม.  ถึงวัดท่านเป็นพระที่เชื่อมั่นในวิชาอาคมสูง  พลังจิตแรงมาก  พระหรือวัตถุมงคลของท่าน  ปลุกเสกจนกระดุกกระดิกได้  แรงจริงครับท่านทำให้ลองได้เลยยิงดูเลยยิ่งออกไม่ต้องใส่ให้หนักคอ  อายุท่านประมาณ  55  ปี  พลังกำลังแรง  ใครอยากได้เชิญที่วัด
                        15.  วัดดอนหวาย  นครปฐมมีตลาดนัดวัดดอนหวาย  ผมไปเที่ยวปล่อยให้ภรรยากับลูกเดินซื้อของ  ส่วนผมเดินเข้าไปในศาลาที่จัดชุดสังฆทานเอาไว้ให้คนทำบุญ  มีตู้วัตถุมงคล  ยืนมองดูเอ๊ะ!  นั่นพระสมเด็จเนื้อหล่อด้วยเรซิ่นใสๆ  ภายในองค์พระนั่นพระธาตุทั้งนั้นเลย  ผมเช่าบูชามา  2  องค์พอตรวจสอบด้วยจิตดู  พลังจากพระธาตุสูงมากๆ เลยทราบว่าพระธาตุนี้ทางวัดได้มากจากถ้ำแถว  จ.นครศรีธรรมราช  ใครอยากได้พระบรรจุอรหันต์ธาตุของแท้จริงๆ  เชิญที่วัด/ P9 y0 l, j3 Z, Q( L
                        16.  ขอเป็นตัวอย่างสุดท้านนะครับ  พระของวัดถ้ำรัตนคีรี  (เขากวางทอง)  จ.อุทัยธานี  มีถ้ำซึ่งภายในพบพระสิวลีธาตุเต็มไปหมด  ทางวัดนำมาบรรจุลงในพระเครื่อง  ผมผ่านไปลองเช่าบูชามา  ตรวจทางจิตเป็นพระสิวลีธาตุจริงๆ ครับ พลังสูงมาก
                ของดีในเมืองไทยยังมีอีกมาก  แต่ผู้ที่รู้คือผู้ที่สามารถตรวจสอบพลังได้จึงจะรู้ว่าของดีอยู่ที่ไหนบ้าง  ผมเลยเขียนให้เป็นตัวอย่างพอสมควร  ที่ผมยังไม่รู้มีอีกเยอะครับ  ผมไม่ใช่เซียนพระตำหนิรูปพรรณดูไม่เป็น  เพียงแต่รู้จักพิมพ์ทรงบ้าง  ไปเดินดูตามแผงพระก็มีจุดประสงค์หาของดี  หาเทวดาที่สถิตตามองค์พระเอามาช่วยงานบุญที่บ้าน
                ขอแยกแยะเรื่องออร่าหน่อย  ออร่าเป็นรังสีที่เปล่งออกจากวัตถุมงคลตามพลังที่บรรจุไว้ในวัตถุมงคลตามพลังที่บรรจุไว้ในวัตถุมงคล  เริ่มเลยคือผมอ่านหนังสือชื่อ  “พระเครื่อง”  ท่านมีจิตสัมผัสที่เก่งมาก  เห็นแสงจากองค์พระและแยกแยะคุณสมบัติของสีออกมา  ดังนี้
                        สีแดง        เป็นพลังด้านคงกระพันชาตรี
                        สีส้ม        เป็นพลังแคล้วคลาด/ K6 n5 ]" I! Q$ i7 c0 h9 y
                        สีม่วง        เป็นพุทธบารมี0 k6 W2 G) g6 {% X
                        สีเขียว         เป็นพลังจากญาณสมาธิ  อภิญญา  เมตตา
                        สีเหลือง          เป็นพลังพุทธคุณ  พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์5 r9 i* f: @7 e* z# s7 U3 \
                        สีขาว        เป็นพลังพระโพธิ์สัตว์
                        สีฟ้า        เป็นพลังส่งเสริมการค้าขาย9 g, R3 q$ k( H& _  @0 V
                นอกจากนี้  “คนเห็นผี”  ยังเขียนถึงพลังออร่าในตัวคนอีกว่ามีสีต่างๆ  คือการดูจิตคนว่าสีอะไรบ่งบอกถึงว่าเป็นคนอย่างไรได้อีก  เมื่ออ่านแล้วของพิสูจน์หน่อย  พวกผมใช้สมาธิจิตจับที่องค์พระก็พบสีแสงต่างๆ จริง ส่วนความหมายของสีผมเองก็ต้องดูจากหนังสือของ  “คนเห็นผี”  พอทดลองดูจิตคนก็เห็นแสงสีจริงๆ เออ!  แปลกดีครับ5 e; Z. u# }; b) e- q) |: O
                อีกอย่างหนึ่งที่แปลงมากคือ  ท่านผู้เขียนหนังสือลงในนิตยสารโลกทิพย์โลกลี้ลับ  ชื่อ  อ.ธีรศักดิ์  สามารถตรวจพลังพระเครื่องได้ เชิญที่ชมรมโลกทิพย์  แถวดินแดงช่วงวันเสาร์อาทิตย์  ท่านเขียนว่ารูปพระเครื่องในหนังสือนิตยสาร  ที่ถ่ายจากรูปพระเครื่องของแท้ๆ มีพลังในรูปเท่ากับพระเครื่องจริงสามารถทำมาห้อยคอบูชาติดตัวได้  แปลกมั๊ยครับต้องทดลองผมมีแสตมป์ชุดเบญจภาคี  ทั้งเนื้อดินเนื้อชินอยู่ลองให้พวกผมเอานิ้วแตะดูพลัง  โอ้โฮ!  ไม่น่าเชื่อพลังเท่ากับจับองค์จริงเลย  แปลกมากถ้าเป็นอย่างนี้ใครที่ไม่ยึดติดกับรูปร่างของจริง  ไปซื้อหนังสือนิตยสารที่รูปพระเยอะๆ มาเลยเลือกเอาเลยชอบองค์ไหน  ตัดเลี่ยมขึ้นคอเลย  พุทธคุณเท่ากันจริงๆ ครับบางครั้งผมซื้อหนังสือนิตสารพระเครื่องมาดูเล่น  นึกอยากรู้ว่าพระที่ลงโฆษณาในหนังสือองค์ไหนดีจริง  ก็ให้พวกผมเอานิ้วแตะดูจากรูปในหนังสือเลย  เท่านี้ผมก็รู้แล้วครับ
                พลังในพระเครื่องที่แรงสุดๆ ที่ผมพบ
                        -  พลังด้านพุทธบารมี  ก็คือ  พระบรมสารีริกธาตุ  พระอรหันต์ธาตุ พระธาตุข้าวของพระพุทธเข้า
                        -  พลังด้านคงกระพัน  ก็คือ  เหล็กไหล  ครับ3 f3 J6 n! Z# F7 V: b8 Q" _
                ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมพบโดยบังเอิญ  คือผมเดินดูแผงพระเล่นๆ ไปพบขวดแก้วขนาดขวดรักยมบรรจุวัสดุใสมีสีต่างๆ เป็นก้อนเล็กๆ คล้ายพระธาตุผมเลยลองเก็บไปตรวจสอบดู  ปรากฏว่าพลังพุทธบารมีสูงมากๆ เกือบเท่าพระธาตุจนผมเข้าใจผิดว่าคือพระธาตุ  ผมเลยเหมาเอาไปหมดเลยประมาณ  50  ขวด  คิดว่าจะนำพระธาตุในขวดนี้ไป  บรรจุเจดีย์  ศรีชัยผาผึ้ง  อ.บ้านเขว้า  ชัยภูมิ  พอเอาทั้งหมดกลับไปบ้าน  ลองเอาแว่นขยายส่งพิจารณาดู  ผมชักสงสัยไม่ใช่พระธาตุแน่ๆ  คล้ายกับเป็นเรซิ่นหรือวัสดุทางวิทยาศาสตร์ชนิดใดชนิดหนึ่ง  ยิ่งชนิดที่เป็นเม็ดกลมเล็ก ดูออกชัดเลยว่าย้อมสี  เอ!  เราโดนหลอกเสียแล้วกระมังหมดไปหลายตังส์เลย  ลองตรวจสอบพลังแสงออร่าก็พบพลังแสงสีขาวใส่เกือบเท่าพระธาตุ  ตรวจสอบพลังดูก็เกือบแยกไม่ออกคืออ่อนกว่าพระธาตุนิดเดียวเอง  อะไรกันนี่ ลองสืบหาดูโดยขอติดต่อกับเทวดาที่มากับวัตถุมงคลนี้จึงทราบว่า  ของสิ่งนี้มาจากประเทศลาว  วัดอยู่แถวริมแม่น้ำโขง  โดยข้ามฝั่งที่จังหวัดหนองคาย  ทางวัดได้จัดการปลุกเสกโดยพระอรหันต์โดยสมมุติให้ของสิ่งนี้  เป็น  “สิ่งเทียมพระธาตุ”  ใช้เคารพบูชาแทนพระธาตุ  อึ้งเลยผมอย่างนี้ก็มีด้วย  แสดงว่าพระอรหันต์ฝั่งลาวที่ผมไม่ทราบนามนี้  คงจะเป็นพระอรหันต์ที่มีบุญบารมีและฤทธิ์บารมีสูงมากๆ ใครพบตามแผนพระเช่าไปบูชาเถิดดีจริงๆ  ลักษณะขวดขนาดขวดรักยม  มีจุดยางสีสดใสได้ข่าวว่าตามแผงพระใน กทม. ก็มีเยอะ คือมีคนไปเช่ามาจากวัดที่ประเทศลาว  นำมาไว้ตามแผงพระในประเทศไทย8 n8 f$ r: j$ ~1 e! U; S  A! ]
                เขียนบอกพระองค์นี้ว่าดีจริงๆ  ขอทุกท่านโปรดเข้าใจ  ต่อให้ท่านคล้องพระที่ว่าดีที่สุดแล้ว  อย่านึกว่าท่านใส่เสื้อเกราะใครทำอะไรไม่ได้ผิดครับ  อิทธิฤทธิ์  บุญฤทธิ์  ในพระเครื่องแพ้กรรมฤทธิ์ครับถ้ากฎแห่งกรรม  อกุศลกรรมมาถึงตัวท่านพระทั้งหมดที่เต็มคอช่วยไม่ได้เลยครับ  เวลาเราคล้องพระหรือวัตถุมงคลชนิดใดก็ตาม  รังสีออร่าจากสิ่งที่เราคล้องอยู่จะแผ่ไปรอบๆ ตัวเราจริง  ปกป้องภัยอันตรายและเป็นคลื่นกระแสเย็นเมตตาได้จริง  พลังเหล่านี้จะปกป้องคุ้มครองคนที่มีศีลมีธรรม  ส่วนคนที่ไร้ศีลธรรมประพฤติผิดทำรองคลองธรรม  ไม่มีพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณใดๆ ปกป้องท่านหรอก  หนักคอเปล่า5 F! c) W: @8 J8 e6 Z! n: O
                เราจะพบคนที่ไม่ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าจะยึดถือวัตถุอาคมทางไสยศาสตร์เป็นที่พึ่งของชีวิต  รูปวัตถุที่เขาพกพาบูชาจะมีรูปร่างแปลกๆ เยอะแยะ มีทั้งรูปสัตว์  อวัยวะคน  เทพเจ้าในวรรณคดี  ของเหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์นะครับอย่าดูถูกกัน  บทจะเหนียวๆ จริงๆ แต่ต้องยึดมั่นถือเค
ณัฐดนัย 2013-7-28 07:29
สายเดียวกันครับ ถ้าผมรู้ผมจะช่วยตอบนะครับ แต่ผมไม่ได้เรียนมานะครับ พ่อผมเป็นช่างยนต์ผมช่วยท่านทำงาน แต่ท่านไม่สบายเลือดออกในสมองจึงต้องปิดกิจการครอบครัวผมก็เลยย่ำแย่ทางการเงินอย่าหนัก ท่านนอนไอซียูหลายเดือนผมคิดว่าจะไม่รอดเสียแล้วผมจึงทำทางด้านสวดมนต์ภาวนาให้ท่านหาย แล้วท่านก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้ท่านสามารถเดินได้แต่ซีกขวาเป็นอัมพฤกครับพูดไม่ค่อยได้พูดไม่ชัดครับ ท่านย้ายไปอยู่ลำปาง ทางโนนฐานะดีกว่าทางนี้มากครับเลยต้องให้ท่านไปอยู่ที่ลำปางแทนครับ ผมเลยย้ายไปทำงานกับเพื่อนท่านสะสมประสบการจากการทำงานครับ ทำมาประมาณ 3 ปีแล้วครับ ซ่อมไดชาร์จ ไดสตาร์ท แอร์รถยนต์ เดินสายไฟรถยนต์ พันมอเตอร์ใหม่ครับ ความรู้ผมมีประมาณหางอึ่งครับ ผมคิดว่าคุณอาจจะมีความรู้มากกว่าผมอีกก็ได้ครับ ไว้มีโอกาสค่อยคุยกันเรื่องนี้บ้างนะครับ ยินดีครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับคุณสมประสงค์ปฏิบัติไปไวจริงๆนะครับ ผมคงตามไม่ทันแล้วละครับอนุโมทนาสาธุครับ แต่ผมก็จะปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆครับจะไม่ยอมทิ้งครับ ชาตินี้ขอชาติหนึ่งครับได้เจอพระพุทธศาสนาแล้วถ้าไม่คว้าไว้แล้วนำมาปฏิบัติเพื่อตนเองแล้ว ก็เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำทะเล แล้วมีเรือลำใหญ่มาคอยช่วยเหลือแต่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ถ้าชาตินี้ผมไม่รับเอาคำสอนของพระพุทธองค์ไว้แล้ว ผมเองต้องทุกข์และทรมารอย่าแสนสาหัสในอบายภูมิอย่ามิต้องสงสัยประการใดเลยครับ อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ สาธุครับ  
สมประสงค์ 2013-7-27 22:15
ณัฐดนัย: อนุโมทนาสาธุครับ อาจารย์มั่น ภูริทัตโต ใช่ไหมครับ แล้วจะกลับไปอ่านครับ สาธุคร ...
ตอนนีัผมฝีกพลังจิตรรักษาโรคด้วย ช่วงตี 5 แล้วถีงเข้าสมาธิอีกเกีอบ1ชั่วโมง นิ่งดีมากเลยครับ (ขอโทษนะครับเห็นว่าเป็นช่างไดนาโม ผมเป็นช่างแอรและไฟฟ้าและผมอาจขอคำแนะนำจากคุณได้ใหมครับ ฃอบคุณสวัดดีครับ
จิดาภา 2013-7-26 23:32
ณัฐดนัย: สวัสดีครับ
สวัสดีคีะ มีคำสอนหลวงปู่โตมาฝากค่ะ "ถ้าเรามั่นใจในคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉะนั้นเจ้าจงหมั่นสะสมบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนาไว้อย่างสม่ำเสมอ เทพยดาฟ้าดิน จะเอ็นดูช่วยเหลือเจ้าเอง" พยายามเข้านะคะ สู้สู้
สมประสงค์ 2013-7-26 21:47
ณัฐดนัย: สาธุครับ ผมจะพยายามต่อไปครับ สวัสดีครับ
สวัดดีครับ  คุณลองหาประวัติ อาจารมั่น ถูทิทันโต คุณจะทราบฃึ้งและอยากปัติบัติมาก ท่านเป็นอาจารดังสายวัดป่าองค์หนื่งทึ่เก่งกรรมฐานจริงๆอนุโมทนาสาธุครับ
สมประสงค์ 2013-7-25 19:57
ณัฐดนัย: สาธุครับ จิตผมยังไม่นิ่งเลยครับ แล้วจะตามให้ทันนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุคร ...
lสาธุอนุโทนา ยินดืเป็นกำลังใจให้ตลอดครับ สาธุ
ณัฐดนัย 2013-7-25 19:27
ทำไมผมไปช้ามากเลย ทำไมหนอ
สมประสงค์ 2013-7-24 21:58
ณัฐดนัย: สวัสดีครับ ไปถึงไหนแล้วครับ ส่วนผมคุณจิดาภาแนะนำเลยไม่ค่อยฟุ้งแล้วครับ แต่ก็ ...
สวัดดืครับ แน่นอนครับ และเรากำลังเดินทางสายเดียวกันอยู่ คุณณัฐดนัยครับ พอคุณนั่งสมาธิแล้ว หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโธ เคินลมให้ช้าๆ และนิ่งไว้กำหนดจิตรไว้ในร่างกายของ คุณเมี่อสมาธินิ่งแล้ว เสร็จแล้วไม่ต้องภาวนาพุทธโธและกำหนดจิตรเพ่งไปที่อวัยวะ ส่วนใดก็ใด้พิจารณาถีงการเกิด และดับ กลับไปกลับมาจนจิตรรู้เองแล้วเปลียนไปจุดอี่นในตัวเราเอากายเราเป็นอาจารจนถีงนิพพานครับ อนุโมทนาสาธุ
จิดาภา 2013-7-24 16:11
"จำไว้นะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขา กรรมมันอยู่ที่เขา ไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา ไม่ต้องเอามันมาใส่ใจ"   (คำสอนหลวงตามหาบัว) สู้สู้
จิดาภา 2013-7-23 12:07
ณัฐดนัย: สาธุครับ ผมหวังพระนิพพานครับอาจจะดูเกินตัวแต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุดครับ ผมจะ ...
วิธีแก้อารมณ์ฟุ้งที่องค์หลวงพ่อเคยสอน ท่านบอกให้จิตมันฟุ้งไปตามเรื่อง แต่เราเอาจิตตามดูมันไปเรื่อยๆ เมื่อมันฟุ้งถึงที่สุดมันจะหยุด หลังจากนั้นเมื่อเราภาวนาจิตจะทรงตัวดี    ลองนำไปทำดูนะคะ  สู้สู้สู้
จิดาภา 2013-7-23 11:30
ณัฐดนัย: สาธุครับ ผมหวังพระนิพพานครับอาจจะดูเกินตัวแต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุดครับ ผมจะ ...
เวลานั่งสมาธิหากจิตฟุ้งซ่านจริงๆ ลองกำหนดแนวทางในการคิด ให้จิตคิดไปในทางพิจรณาร่างกาย ลองใช้บทบังสุกุลตายกับบังสุกุลเป็นดู อะนิจจา วะตะสังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ ลองพิจรณาดูว่าไม่เที่ยงอย่างไร อุปปาทะวะยะธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุตฌันติ เตสัง วูปะสะโมสุโข เมื่อเกิดแล้วต้องเสื่อมไป (แก่)เมื่อเกิดแล้วต้องต้องดับไป(ตาย) ลองพิจรณาดูว่า ตั้งแต่เกิดจนตายนี้เราพบทุกข์อะใรบ้าง การเข้าไปสงบระงับสังขารได้เป็นความสุข(นิพพาน)  บังสุกุลเป็น อะจิรัง วะตะยังกาโย ปะฐะวิง อธิเสสสะติ ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัตถังวะ กะลิงคะรัง ในไม่ช้าร่างกายนี้ จักมีวิญญานไปปราศแล้ว(ตาย)  อันเขาทิ้งไว้บนแผ่นดิน กายนี้ก็เหมือนไม้ที่ไร้ประโยชน์ท่อนหนึ่ง  ถ้าพิจรณาไปนานๆจิตชักซ่านหรืออยากภาวนา ก็หันมาดูลมหายใจใหม่ ลองทำดู ดังที่หลวงปู่ดูลย์สอน ถ้าจิตจะฟุ้งก็ไม่ควรให้ออกไปไกล ใช้สติระลึกดูให้เห็นภายในกายนี้ ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  อสุภสัญญา หาสาระแก่นสารไม่ได้  พยายามเข้านะคะ อย่าเพิ่งท้อเป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้สู้
ณัฐดนัย 2013-7-23 10:33
สาธุครับ อนุโมทนาสาธุกับคุณด้วยนะครับที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม ขอให้ผลบุญนี้ย้อนคืนไปหาคุณด้วยนะครับ ดูแปลกๆนะครับแต่ก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับ ขอบคุณครับสาธุครับ ยินดีมากครับที่ได้รู้จักคุณ และทุกๆท่านในแดนนี้ครับ สาธุครับ     
ณัฐดนัย 2013-7-23 10:11
สาธุครับ ร่วมปฏิบัติด้วยกันนะครับ สาธุครับ
สมประสงค์ 2013-7-21 14:59
ณัฐดนัย: อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ ยินดีมากเลยครับที่ได้ร่วมปฏิบัติธรรมไปกับคุณทุกๆคนนะ ...
อนุโมทนาสาธุเช่นกัน ครับ ฃอให้การปฎิบัติธรรมฃองทุกคนจงก้าวหน้าฃึ้นไปเรี่อยๆๆนะครบ อนุโมทนาสาธุ
จิดาภา 2013-7-20 23:39
ณัฐดนัย: บุญใดที่เกิดจากธรรมทาน ที่เกิดขึ้นได้แล้วในตัวกระผมนี้ ขอทุกๆท่านจงมีส่วนในผ ...
สาธุ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวัง ยินดีที่ได้ช่วยค่ะ
Teerapat 2013-7-20 21:34
ณัฐดนัย: ผมมีเรื่องมาบอกครับ เมื่อครู่นี้คุณแม่ผมท่านบอกว่าเข้าพรรษานี้ท่านจะเลิกเบี ...
ว้าวสุดยอดครับ คนจะเลิกสิ่งเหล่านี้ต้องการกำลังใจมากนะครับ ท่านพูดแบบนี้ผมยังรู้สึกยินดี อนุโมทนากับท่านนะครับ แต่ผลจะเป็นยังไง ได้กี่วันก็ขอให้ชมท่านให้กำลังใจท่านนะครับ การได้เริ่มก็ถือว่าได้เข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นแล้ว  
สมประสงค์ 2013-7-19 17:01
ณัฐดนัย: อนุโมทนาสาธุครับ ไปไวมากเลยนะครับ ผมก็ทำอยู่ครับช่วง 2-3 วันนี้ไม่ได้ภาวนา จิตต ...
อนุโมทนาสาธุเช่นกันครับ  ไช่ครับฝรั่งมาบวชที่วัดท่านหลายองค์ครับ  จิตรตกไม่เป็นไร แต่  อย่าวิตก ส่วนใหญ่หลังตื่น ตี่ 4 ตี่ 5 ช่วงนื้นั่งนิ่งดีมากครับ  ฃอบคุณที่เป็นกำลังใจ และฃอให้คุณหมั่นปัติบัต  นะครับ อนุโมทนาสาธุเช๋นกันครับ

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-5-8 17:36 , Processed in 0.045637 second(s), 8 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.