วัดพระธาตุกองลอย บ.กองลอย ม.๔ ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่

	วัดพระธาตุกองลอย บ.กองลอย  ม.๔  ต.บ่อสลี  อ.ฮอด  จ.เชียงใหม่ [พระบรมธาตุเจดีย์]

	การเดินทางไปวัดพระธาตุกองลอย ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่-ฮอด-แม่สะเรียง) เมื่อถึงอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ให้ขับรถเลี้ยวตรงวงเวียนหอนาฬิกาหน้าที่ว่าการอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่  ไปทางอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขับรถตรงไปตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่-ฮอด-แม่สะเรียง) มุ่งหน้าสู่บ้านกองลอย อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางห่างจากอำเภอฮอดถึงวัดพระธาตุกองลอยประมาณ ๖๐ กิโลเมตร ค่ะ

	หมู่บ้านกองลอย อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่  อยู่บนดอยติดถนนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่-ฮอด- แม่สะเรียง) ค่ะ ถนนทางเข้า/ออก (ตรงลูกศรชี้) วัดพระธาตุกองลอย จะอยู่ด้านซ้ายของถนนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่-ฮอด-แม่สะเรียง) อยู่ใกล้ถนนทางเข้าโรงเรียนบ้านกองลอย ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ค่ะ

	เมื่อเราขับรถเลี้ยวเข้าถนนทางเข้า/ออก วัดพระธาตุกองลอย มาแล้ว เราก็ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ ๕๐๐ เมตร ก็ถึงวัดพระธาตุกองลอยแล้วค่ะ บันไดทางขึ้น/ลง วัดพระธาตุกองลอย ค่ะ

	บรรยากาศภายใน วัดพระธาตุกองลอย ร่มรื่นด้วยต้นไม้ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอีกที่หนึ่ง มีพระครูศีลวงษ์ประสิทธิ์ สิทธิวํโส เจ้าคณะตำบลบ่อสลีและพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาส วัดพระธาตุกองลอย ค่ะ

	วิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดพระธาตุกองลอย กำลังดำเนินการก่อสร้าง ศรัทธาชาวบ้านกองลอย ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างมากกว่า ๗ ปี ค่ะ

	ภายใน วิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดพระธาตุกองลอย ค่ะ พระประธานหยกขาว (พระธรรมกายหยกขาว) และ  รูปพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย  ประดิษฐานภายใน วิหารพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)  วัดพระธาตุกองลอย  พระประธานหยกขาว สร้างถวายโดย พระครูสีลวงศ์ประสิทธิ์ พระสุธรรม และคณะศรัทธาสาธุชนผู้ใจบุญทุกท่าน และรูปพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระฉัตรมงคล ฉตฺตลาโภ สร้างถวายค่ะ

	เดี๋ยวเราเดินไปกราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุกองลอย กันต่อเลยนะคะ พระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานด้านหลัง วิหาร วัดพระธาตุกองลอย ค่ะ บันไดนาคทางขึ้น/ลง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุกองลอย ค่ะ

	พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุกองลอย ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ประวัติการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุกองลอย (แหล่งที่มา : คำบอกเล่าของพระภิกษุ วัดพระธาตุกองลอย เรียบเรียงโดย เว็บแดนนิพพาน ดอท คอม)   ประมาณปีพ.ศ.๒๕๓๑-๒๕๓๒ มีเด็กชาวบ้านคนหนึ่งบวชเป็นสามเณรอยู่จำพรรษาที่วัดพระธาตุกองลอย วันหนึ่ง ได้เห็นพระบรมธาตุเสด็จลอยออกมาตรงบริเวณวิหารเก่า  สามเณรจึงวิ่งไล่จับพระบรมธาตุอยู่นานและมาวิ่งไล่จับพระบรมธาตุได้ตรงบริเวณองค์พระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานตั้งอยู่ปัจจุบัน พอจับพระบรมธาตุได้ สามเณรก็สลบไป พระภิกษุที่วัดจึงได้นำพระบรมธาตุเก็บรักษาไว้ในผอบที่วัด ต่อมาปีพ.ศ.๒๕๓๕  มีพระภิกษุจากจังหวัดศรีสะเกษมาจำพรรษาและเป็นเจ้าอาวาส วัดพระธาตุกองลอย ท่านเจ้าอาวาสก็ได้สร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่สามเณรจับได้ โดยสร้างองค์พระเจดีย์ตรงบริเวณที่สามเณรจับพระบรมธาตุได้ ต่อมาพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ท่านมาบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน ซุ้มจระนำ องค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุกองลอย ค่ะ

	จุดธูป เทียน ถวายดอกไม้ ลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา  และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระธาตุกองลอย วัดพระธาตุกองลอย  พร้อมกันเลยนะคะ (กล่าวนะโม ๓ จบ)  วันทามิ  เจติยัง  สัพพัง  สัพพัฏฐาเนสุ  ปะติฏฐิตา  สะรีระธาตุโย  เกศาธาตุโย  อะระหันตา  ธาตุโย  เจติยัง  คันทะกุฏิง  จะตุละสี  ติสสะหิสเส  ธัมมักขันเธ  สัพเพสัง  ปาทะเจติยัง  อะหังวันทามิ  ธาตุโย  วันทามิทุระโส  อะหังวันทามิ สัพพะทา  อะหัง  วันทามิ  สิระสา ฯ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แด่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ