ภาพบรรยากาศงานทอดผ้าป่า ณ สำนักสงฆ์ ตามรอยพระพุทธบาทธุดงคสถาน

	เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมาทางคณะแดนนิพพาน และคณะศรัทธาชัยภูมิได้ร่วมทอดผ้าป่า เพื่อร่วมกันสร้างสำนักสงฆ์ "ตามรอยพระพุทธบาท ธุดงคสถาน" โดยใช้เวลาเตรียมตัวและบอกบุญหนึ่งสัปดาห์ ... หลังจากนั้นแดนิพพานก็ได้เดินทางไปยัง จังหวัดชัยภูมิเพื่อร่วมทอดผ้าป่าในครั้งนี้ โดยมีตัวตั้งตัวตี คือ ทีมงานแดนนิพพาน พี่เล็ก และ เฮียย้ง ซึ่งอยู่ในตลาดชัยภูมิได้ มีความคิดที่จะซื้อของไปถวาย พระอาจารย์ และ แม่นิ่ม เอาไปเอามาทางพี่เล็กและเฮียย้งบอกบุญร่วมกับ ผู้มีจิตศรัทธาภายในตลาดไม่ว่าจะเป็นแม่ค่าเจ้าของร้านต่างๆ ต่างก็มีความสนใจร่วมบุญในครั้งนี้ จึงตกลงกันว่า ทำเป็นผ้าป่าถวายเลย ซึ่งผ้าป่าในครั้งนี้ ทำเป็นชุดใหญ่เป็นสังฆทานด้วย ก็มีพระพุทธรูปหน้าตัก 30 นิ้ว และเครื่องบริขารต่างๆ ไม่ว่าเป็นผ้าไตร บาตร กรต และของใช้ต่างๆ จำเป็นสำหรับสงฆ์ แต่ละวันก็มีคนมาร่วมบุญเรื่อยๆ แม้แต่สมาชิกแดนนิพพานก็โอนเงินมาร่วมบุญกัน ก็รวบรวมปัจจัยเหล่านั้นเสียบที่ต้นผ้าป่า ... พอถึงวันทอดผ้าป่า ก็มีคนแถวนั้นมาร่วมบุญกัน ... โดยเหมารถสองแถวใหญ่ ไปหนึ่งคัน แล้วก็มีคนกระบะตามไปอีกสามคัน บางคันก็บรรทุกเสบียงน้ำต่างๆ และพระพุทธรูป ... ออกรถก่อนแปดโมงเช้ามุ่งหน้าสู่ อำเภอ หนองบัวแดง ...

	ในขณะที่เดินทาง ทางแดนนิพพานก็เป็นวิทยากรบรรยายธรรม ตามที่ครูบาอาจารย์ได้สอนใว้ในเรื่อง ศีลและบุญ เพราะต้องการให้ผู้ที่ร่วมในงานบุญในครั้งนี้ได้ีรับประโยชน์และบุญมากที่สุดจึงจำเป็นให้ทุกคนที่ไปด้วย ตั้งจิตให้อยู่ในศีลในธรรม มีศีลห้าเป็นที่ตั้ง เพื่อเป็นผู้ให้ที่บริสุทธิ์ อยู่ในศีลธรรม ... และพูดถึงกรรมต่างๆ ที่ทำให้เราทุกข์เพราะละเมิดศีล และตั้งสติให้อยู่ในอนุสติ ในศีลานุสติกรรมฐานไปในตัว ... จากนั้นรถก็เดินทางมาถึง ทางที่จะเข้ามาก่อนจะถึงปราสาทดิน เดินทางเข้าป่าประมาณ 7 กม. โชคดีที่วันนี้และเมื่อวานฝนไม่ตก ถ้าตกก็คงต้องเดินทางกันลำบาก พอมาถึงที่จะสร้างสำนักสงฆ์ ต่างๆ คน ต่างช่วยกันขนของลงจากรถเพื่อเตรียมถวายผ้าป่า ...

	เนื่องจากทางข้างหน้าเป็นทางน้ำรถไ-ม่สามารถข้ามไปได้ งานนี้ต้องอาศัย "รถอี่โก่ง" บรรทุกสิ่งของที่หนักข้ามไป ส่วนของที่ไม่หนักก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ลำเลียงไปที่สำนักสงฆ์ฯ  พอไปถึงนอนหมดแรงกัน ...

	สำหรับความก้าวในการสร้างสำนักสงฆ์ ขณะนี้ก็ได้ทำการปรับพื้นที่โดยกการขุดตอไม้ ถางหญ้า และได้ดำเนินการก่อสร้าง  ที่พักสงฆ์ ยกขึ้นมาเหนือพื้น โดยใช้เสาสิบสองต้น ส่วนใหญ่จะใช้ไม้มากกว่าปูนเพราะใช้งบประมาณน้อยกว่า ส่วนที่ประดิษฐานพระที่นำมาถวายก็ใช้แคร่มารองรับใว้ก่อนชั่วคราว ต่อไปก็ทำแท่นพระทีหลัง ... พอขนของหนัก มาทุกคนก็ช่วยกันขนของใว้บนแคร่ีที่ตั้งใว้ ...

	จากนั้นก็เตรียมอาหารถวายเพลพระ โดยช่วยกันคนละไม้คนละมือ พอถวายแล้ว พระอาจารย์ก็ให้พรและกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ...

	หลังจากถวายเพลเสร็จแล้ว แม่นิ่มก็ได้เล่านิมิต ก่อนที่จะนำพระมาถวายว่า "มีพระใส่ชุดสีพระราชทานได้เดินลงมาจากในป่าสิบองค์ ท่านมาล้อมตรงแคร่ที่จะตั้งพระ ท่านมาแสดงความยินดีที่แม่นิ่ม และพระอาจารย์ได้ที่แห่งนี้ในการสร้างสำนักสงฆ์ฯ " ...  จากนั้นก็เข้าสู่พิธีการถวายผ้าป่า โดยทุกคนรับศีลห้า จากนั้นก็ว่าคำถวาย ... เมื่อพระอาจารย์เป็นตัวแทนของสงฆ์ได้รับแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี ... จากนั้นก็นับปัจจัยที่ได้ทอดผ้าป่าในครั้งนี้ เป็นจำนวนเงิน 120,999 บาทจากนั้นก็ร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน บางคนก็นั่งตามใต้ต้นไม้ ลมเย็นสบายอากาศก็ไม่ร้อน ...

	เมื่อเสร็จพิธีแล้วทุกคนทานข้าวร่วมกันแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย ... โดยถ่ายภาพร่วมกับพระอาจารย์ และแม่นิ่ม ...

	จากนั้นก็เตรียมตัีวกันไปเดินดูตาน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดสำนักสงฆ์ได้ โดยระยะการเดินทางประมาณ 800 เมตรได้ เดินไปตามทา่งที่ พระอาจารย์และแม่นิ่มได้พาชาวบ้านพากันถางหญ้าให้สามารถเดินไปถึงตาน้ำได้สะบายกว่าเดิม ... พระอาจารย์ได้เดินนำพาคณะศรัทธาไปดูตาน้ำใกล้ทางขึ้นเขา ...

	ใช้เวลาในการเดินทางสักพักก็มาถึงตาน้ำ เดิมที่ ชาวบ้านแถบน้ำเรียกว่า "ซับเลี้ยงควาย" ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ชาวบ้านที่เดินป่าและสัตว์ป่้าได้อาศัยน้ำกิน ซึ่งตาน้ำนี้ได้อยู่ในเขต อนุรักษ์ฯ และทางแม่นิ่มได้เจรจากับทางอนุรักษ์ แล้วทางอนุรักษ์ฯ แนะนำว่า ให้ก่อบล๊อกกันฝุี่นตกใส่แล้วทำกากรปิดฝาบ่อ ทางแม่นิ่มก็บอกว่าจะเตรียมทำการขุดบ่อเล็กใว้ด้วยเพื่อให้สัตว์ได้ลงมากินน้ำ ... เดิมเป็นบ่อไม่ใหญ่มากนัก ทางพระอาจารย์และแม่นิ่มและชาวบ้านช่วยกันขุดให้ใหญ่กว่าเดิมพอขุดใหญ่น้ำก็ซึมซับมาเต็มเหมือนเดิม ... และณ ที่ตาน้ำแห่งนั้นก็มีสิ่งศักสิทธิ์ คอยดูแลรักษา คือ "ต้นตะเคียนทอง" ซึ่งทางที่ 25 ไร่ที่ได้สร้างสำนักสงฆ์นั้นก็มาจากความเมตตาจากท่านให้โชคให้ลาภ ทำให้ได้งบได้ทุนมาซื้อที่ได้ ... ทุกคนที่ไปต่างคนก็พอรู้ว่าที่นั้นมีต้นตะเคียนอายุหลายปีแล้ว ก็เตรียมเครื่องบูชา ... โดยทางแดนนิพพานให้คำแนะนำว่า ถ้าอยากจะขอพรขอโชคขอลาภ แด่เจ้าแม่ตะเคียนให้ ทำการอุทิศบุญกุศลให้ท่านก่อน และห้ามผิดศีลโดยห้ามฆ่้าสัตว์ ทุกคนต่างระวังตัวไม่ตบยุงไม่เหยียบมด กลัวยุงกัดก็จุดธุปก่อไฟให้มีควันไล่ยุงไปได้ ... จากนั้นก็เชิญพระอาจารย์นำอุทิศส่วนกุศลและนำขอพร เพื่อความเป็นระเบียบ และห้ามไปขุดหรือแตะต้องต้นตะเคียนทองเด็ดขาด ... เมื่อขอพรเสร็จก็กลับลงมาที่สำนักสงฆ์ฯ แล้วเดินทางกลับ ...

	ก่อนเดินทางกลับ แม่นิ่มได้นำไปดูตำแหน่งที่จะสร้างพระใหญ่ และพระอาจารย์ก็ได้ชี้จุดที่จะสร้างพระใหญ่ โดยด้านหลังจะเห็นเขาสูงสวยงาม และตำแหน่งจะอยู่ตรงใกล้หน้าทางเข้าสำนักสงฆ์ พอดี ... จากนั้นก็ได้นำญาติโยมไปเที่ยวสำนักสงฆ์ผาแดงที่อยู่ปัจจุบัน แล้วทุกคนก็กราบขอขมาพระอาจารย์และสถานที่ แล้วก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน ... สำหรับญาติโยมที่มีจิตศรัทธาอยากจะสร้างกุฏิใว้ถวายแด่สงฆ์ ใว้ ณ สำนักสงฆ์แห่งใหม่ "ตามรอยพระพุทธบาท ธุงดงคสถาน" จากภาพกุฏิตัวอย่างที่ผาแดงใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 5,000 บาท โดยประมาณ ...