แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดพระพุทธบาทตากผ้า ม.๖ ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

21#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2013-6-29 23:59 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_7183.JPG



IMG_7185.JPG



IMG_7171.JPG



ลานธรรมสังเวช (เมรุครูบา) วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_7175.JPG



IMG_7172.JPG



IMG_7166.JPG



IMG_7178.JPG



ต้นศรีมหาโพธิ์ลานธรรมสังเวช (เมรุครูบา) วัดพระพุทธบาทตากผ้า

ต้นศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ ได้ยืนตะหง่านทอดกิ่งก้านสาขาบนลานพระราชทานเพลิงศพของพระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก) บริเวณหน้าวัด ซึ่งนับว่าเป็นลานธรรมสังเวชที่สรีระสังขารของท่านครูบาปรากฏเป็นครั้งสุดท้าย

และ ณ ลานธรรมสังเวชนี้เช่นกัน ที่ได้ทำให้พระเพลิงมลายสรีระสังขารของท่านครูบา กลับคืนสู่ธรรมชาติตามกฎไตรลักษณ์


IMG_7162.JPG



ประวัติลานธรรมสังเวช (เมรุครูบา) วัดพระพุทธบาทตากผ้า


ลานธรรมสังเวช เป็นสถานที่ประดิษฐานสรีระสังขารของท่านครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก (พระสุพรหมยานเถร) ครั้งสุดท้าย เพื่อพระราชทานเพลิงศพ ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดพระพุทธบาทตากผ้า

เป็นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีขนาดกว้างยาว ๒๑ เมตร มีความสูงของฐาน ๑.๐๙ เมตร พื้นปูด้วยแผ่นศิลาแลง ขนาด ๐.๔๐ x ๐.๔๐ เมตร ตั้งใบเสมาที่ทำด้วยศิลาแลงโดยรอบ ใช้เป็นราวกันตก จำนวน ๙๖ ใบ ซึ่งใบเสมาแต่ละใบ มีขนาดกว้าง ๐.๗๐ เมตร สูง ๐.๗๙ เมตร หนา ๐.๑๐ เมตร ตรงมุมได้ตั้งเสาที่ทำด้วยศิลาแลง ขนาด ๐.๒๕ x ๐.๒๕ เมตร สูง ๑.๒๐ เมตร บนหัวเสาแกะเป็นหัวเม็ดคล้ายดอกบัวตูม ทำด้วยศิลาแลงเช่นกัน ทำบันไดทางขึ้นทั้ง ๔ ด้าน ราวบันได ทำเป็นพญานาค ๒ ข้าง อย่างสวยงาม

กลางลาน ใช้ศิลาแลงก่อเป็นฐานเพื่อตั้งปราสาท มีขนาดความกว้าง ๓.๒๑ เมตร ยาว ๓.๓๒ เมตร สูง ๐.๖๕ เมตร ภายหลังเมื่อพระราชทานเพลิงเสร็จแล้วไม่นาน ได้ปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ลงบนฐานกลางลาน หน้าต้นพระศรีมหาโพธิ์ด้านทิศตะวันออก ได้ประดิษฐานรูปหล่อท่านครูบา ทำด้วยทองเหลือง มีขนาดความสูง ๑.๕๙ เมตร เบื้องบนกั้นด้วยฉัตรทองเหลือง มีโต๊ะตั้งเครื่องบูชาด้านหน้าด้วย

ต้นศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ ได้เจริญเติบโตสูงเกือบ ๑๐ เมตร เป็นต้นไม้ที่เมื่อไปยืนดูครั้งใด ก็ทำให้อนุสรณ์ถึงการจากไปของท่านครูบา เกิดธรรมสังเวช ให้เห็นถึงความไม่จีรังยั่งยืนของชีวิต


IMG_7180.JPG



อนุสาวรีย์พระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก) ประดิษฐานใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ ณ ลานธรรมสังเวช (เมรุครูบา) วัดพระพุทธบาทตากผ้า

ทางวัดได้สร้างรูปหล่อเหมือนของท่านครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก ไว้เป็นอนุสาวรีย์อนุสรณ์ถึงการจากไปของท่านครูบา เกิดธรรมสังเวช ให้เห็นถึงความไม่จีรังยั่งยืนของชีวิต และระลึกถึงคุณงามความดี เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้เจริญรอยตาม



IMG_7086.JPG



รูปปั้นแสดงวัฏจักรแห่งชีวิต "เกิด แก่ เจ็บ ตาย" วัดพระพุทธบาทตากผ้า

สะท้อนให้พิจารณาถึงธรรมที่พอยึดได้ว่าเป็นปัจฉิมโอวาทที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่สงฆ์เวลาจะเสด็จปรินิพพาน โดยพระพุทธองค์ยกเอาพระธรรมบทนั้นขึ้นมาว่า

“ดูก่อนพระภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราเตือนท่านทั้งหลาย สังขารธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเกิดหรือเจริญขึ้นแล้ว เสื่อมไปดับไป จงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด”


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

22#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-13 10:53 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_6863.JPG



พระธาตุสี่ครูบา ประดิษฐานบนยอดดอยเครือ ซึ่งเป็นดอยที่ตั้งอยู่ด้านหลังวัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0239.JPG



IMG_0242.JPG



IMG_0270.JPG



ทางขึ้นพระธาตุสี่ครูบาโดยรถยนต์ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ขับรถอ้อมผ่านหน้าวัดพระพุทธบาทตากผ้า ทางด้านขวาตัดขึ้นไปบนดอย ระยะทางประมาณ ๒ กิโลเมตร


IMG_0438.JPG


IMG_0429.JPG



บันไดทางขึ้นพระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า เดินขึ้นบันไดด้านหลังวัดพระพุทธบาทตากผ้า มีบันได ๔๖๙ ขั้น


Picturekan-466.jpg


IMG_0431.JPG


IMG_0434.JPG



รูปปั้นกุมภัณฑ์และเสือ ประดับบันไดทางลง พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0287.JPG



IMG_0299.JPG



ทางเดินและบันไดนาคทางขึ้น พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า คุณสมนึก-คุณละไม ศรีศักดา กทม. สร้างถวายเมื่อ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๕


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

23#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-13 16:29 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_0313.JPG


IMG_0569.JPG



IMG_0352.JPG



IMG_0320.JPG


IMG_0374.JPG



IMG_0389.JPG


IMG_0420.JPG



IMG_0444.JPG



พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ครูบาเจ้าศรีวิชัย ดำริที่จะสร้างเจดีย์ไว้บนยอดดอยเครือ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แต่ท่านได้มรณภาพเสียก่อน คณะศิษย์ของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย จึงได้ดำเนินการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นตามแบบพระธาตุหริภุญชัย


IMG_0462.JPG



คำไหว้พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า

(กล่าวนะโม ๓ จบ) อะหัง ภันเต สิระสา นะมามิ อิมิสสัง เจติยัง ปะติฏฐิเต สารีริกะธาตุโย อะระหันตะธาตุโย จัตตาโร จะ มะหาเถรา อินทะจักกัญจะ มะหาเถรัง พรัหมจักกัญจะ มหาเถรัง คัมภีรัญจะ มหาเถรัง โพธิกัญจะ มหาเถรันติ วันทิตวา จะ ปะนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทาฯ


คำแปล ข้าพเจ้าขอนอบน้อมไหว้ ด้วยเศียรเกล้า ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุเจ้า พระอรหันตะธาตุเจ้าทั้งหลาย และพระมหาเถระทั้งสี่รูป คือครูบาเจ้า อินทจักรรักษามหาเถระ ครูบาเจ้าพรหมจักรมหาเถระ ครูบาเจ้าคัมภีรญาณมหาเถระ พระครูบาพ่อเป็ง โพธิโกมหาเถระ อันประดิษฐานอยู่ ณ พระเจดีย์นี้ ก็แล ครั้นไหว้แล้ว ขอความสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้าในกาลทุกเมื่อเทอญฯ



IMG_0316.JPG



IMG_0486.JPG



ประวัติพระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า


พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า เป็นเจดีย์สีทอง องค์ระฆังเล็ก ฐานกว้าง ๒๐ เมตร สูง ๓๔ เมตร รายล้อมด้วยเจดีย์ขนาดเล็กอีก ๑๗ องค์ ฐานทาสีทอง องค์ระฆังและปลียอดหุ้มทองจังโก ซุ้มจระนำเป็นทางเข้าสี่ทิศ ประดับลวดลายปูนปั้นรูปหงส์ นาค ซุ้มประตูทำแบบวัดพระธาตุลำปางหลวง บานประตูทางเข้า เป็นไม้แกะสลักลวดลายป่าหิมพานต์


สร้างเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๑๘ โดยครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา มีนายโต๊ะโนะ ชาวกะเหรี่ยง เป็นช่างผู้ก่อสร้าง ภายในบรรจุพระเครื่อง ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อความเป็นสิริมงคล


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเจิมแผ่นหิน เพื่อบรรจุในเจดีย์ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ ทรงยกฉัตรพระเจดีย์ และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ เจดีย์สี่ครูบา เมื่อวันอังคารที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

24#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-13 17:17 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_0402.JPG



ซุ้มประตูทางเข้า พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0469.JPG



IMG_0454.JPG



สถูป ภายใน องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0478.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์องค์เล็ก ประดิษฐานภายใน สถูป องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า สร้างตามแบบเจดีย์พระเจ้าล้านทอง จ.ลำปาง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้รวบรวมไว้



IMG_0463.JPG



รูปเหมือนครูบาพ่อเป็ง โพธิโก วัดป่าหนองเจดีย์ (ปัจจุบันนี้เรียกว่า วัดนครเจดีย์) อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ประดิษฐานภายใน สถูป องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0474.JPG



รูปเหมือนพระสุธรรมยานเถร (ครูบาอินทจักรรักษา) วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ประดิษฐานภายใน สถูป องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0458.JPG



รูปเหมือนพระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก หรือครูบาพรหมจักร) วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ประดิษฐานภายใน สถูป องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0456.JPG



รูปเหมือนพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (ครูบาคัมภีระ) วัดพระธาตุดอยน้อย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ประดิษฐานภายใน สถูป องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

25#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-13 18:14 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_0449.JPG



IMG_0451.JPG



รูปภาพท่านครูบาสี่องค์พ่อลูก ถ่ายพร้อมกัน ณ วัดป่าเหียง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ ภายใน องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า


๑. พระครูสุนทรคัมภีรญาณ (คำ คมฺภีโร) วัดพระธาตุดอยน้อย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อายุ ๔๒ ปี พรรษา ๒๒


๒. พระสุพรหมยานเถระ (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน อายุ ๔๔ ปี พรรษา ๒๔


๓. พระสุธรรมยานเถระ (น้อย อินฺทจกฺโก) วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อายุ ๔๖ ปี พรรษา ๒๖


๔. ครูบาพ่อเป็ง โพธิโก วัดป่าหนองเจดีย์ (ปัจจุบันเรียกว่า วัดนครเจดีย์) อ.ป่าซาง จ.ลำพูน อายุ ๘๐ ปี พรรษา ๑๘



IMG_0467.JPG



รูปเหมือนพระครูเวฬุวันพิทักษ์ (พระมหาเขื่อนคำ อตฺตสนฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า อายุ ๖๔ ปี พรรษา ๔๔ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ ประดิษฐานภายใน องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0483.JPG



IMG_0488.JPG



IMG_0485.JPG



ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภายใน องค์พระธาตุสี่ครูบา วัดพระพุทธบาทตากผ้า



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

26#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-14 10:34 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

Picturekan-454.jpg


IMG_0360.JPG


IMG_0564.JPG



IMG_0562.JPG



พระวิหาร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0537.JPG



พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน พระวิหาร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0542.JPG



รูปเหมือนพระครูเวฬุวันพิทักษ์ (พระมหาเขื่อนคำ อตฺตสนฺโต) ประดิษฐานภายใน พระวิหาร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

27#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-14 10:39 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_0357.JPG



วิหารพระสุพรหมยานเถระ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า นายพิเชษฐ-นางอำภา รุ่งนพคุณศรี สร้างถวายเมื่อ ๒๕๔๑


IMG_0379.JPG



รูปเหมือนพระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก) ประดิษฐานภายใน วิหารพระสุพรหมยานเถระ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0381.JPG



รูปภาพพระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมา พฺรหฺมจกฺโก) ประดิษฐานภายใน วิหารพระสุพรหมยานเถระ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0396.JPG


IMG_0401.JPG



ศาลาพระเจ้าทันใจ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0406.JPG


IMG_0411.JPG



ศาลาพระพุทธรูปและพระสังกัจจายน์ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0410.JPG



กู่อัฐิปู่น้อย-พ่อหลวงหนานคำ-แม่หลวง  เซ็นนันท์ ย้ายจากฉางข้าวน้อยใต้ (วัดป่ายาง) นำขึ้นมาบรรจุ ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า วันอังคารที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๑


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

28#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-14 12:56 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

IMG_0422.JPG



IMG_0425.JPG



วิหารยงใจยุทธ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า พระพุทธรูปและวิหารหลังนี้ สร้างโดย พลเอกชวลิต-คุณหญิงพันธ์เครือ ยงใจยุทธ ถวายเมื่อ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๓๙


IMG_0427.JPG



พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน วิหารยงใจยุทธ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0501.JPG



วิหารพระพุทธจุฬารัตน์ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0506.JPG



Picturekan-439.jpg



พระพุทธจุฬารัตน์ และ รอยพระพุทธบาทจำลอง ประดิษฐานภายใน วิหารพระพุทธจุฬารัตน์ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

29#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-14 13:22 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

Picturekan-427.jpg



ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0524.JPG



พระพุทธรูปปางลีลา ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0513.JPG



IMG_0515.JPG



รูปเหมือนครูบา ๘ องค์ ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0516.JPG



รูปเหมือนครูบาศรี อริยวํโส วัดป่าบุก อัฐิกลายเป็นธาตุ ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0517.JPG



รูปเหมือนครูบาอ้าย อินทปัญญา วัดสะปุ๋งน้อย อัฐิกลายเป็นธาตุ ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0518.JPG



รูปเหมือนพระครูพุทธิวงศ์ธาดา เจ้าคณะอำเภอปากบ่อง วัดฉางข้าวน้อยเหนือ อัฐิกลายเป็นธาตุ ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0519.JPG



รูปเหมือนครูบาแสน วัดหนองเงือก ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0520.JPG



รูปเหมือนครูบาปวน ญาวีโร วัดช้างค้ำ พระผู้มีมนต์คลัง ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0521.JPG



รูปเหมือนครูบาขัตติยะ วัดป่าเหียง อาจารย์ของครูบาทั้ง ๓ องค์ คือ ครูบาอินทจักร ครูบาพรหมจักร ครูบาคัมภีระ ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0522.JPG



รูปเหมือนครูบาหวัน มหาวโน พระอุปัชฌาย์ วัดป่าเหียง ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0523.JPG



รูปเหมือนครูบาพ่อเป็ง โพธิโก วัดป่าหนองเจดีย์ (ปัจจุบันเรียกว่า วัดนครเจดีย์) บิดาของครูบา ๓ องค์ คือ ครูบาอินทจักร ครูบาพรหมจักร ครูบาคัมภีระ ประดิษฐานภายใน ศาลาบาตร บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

30#
pimnuttapa โพสต์เมื่อ 2021-12-14 13:48 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

Picturekan-412.jpg



IMG_0377.JPG



ศาลาพระเจ้ากาวิละ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า


IMG_0324.JPG



ประวัติศาลาพระเจ้ากาวิละ วัดพระพุทธบาทตากผ้า


ศาลาพระเจ้ากาวิละ วัดพระพุทธบาทตากผ้า สร้าง พ.ศ.๒๕๔๐ พระครูเวฬุวันพิทักษ์ (ท่านมหาเขื่อนคำ) เป็นประธานริเริ่ม และออกแบบศาลาที่ประทับอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละและพระอนุชาเจ้าบุญมา เพื่อเป็นที่ระลึกและประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้รับทราบ และเป็นที่สักการบูชารดน้ำดำหัวตามประเพณีสงกรานต์


ผู้มีจิตศรัทธาในการก่อสร้างครั้งนี้ มีเจ้าวงศ์ศักดิ์ ณ เชียงใหม่ คุณเจ้าดารารัตน์ ณ ลำพูน และญาติพี่น้องที่สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้ากาวิละ นางโสภา เมืองกระจ่าง (นันทขว้าง) พร้อมญาติพี่น้องเพื่อนฝูง


ตระกูลนันทขว้าง ซึ่งต้นตระกูล คือ ท้าวขว้าง และ ท้าวนัน มาจากสิบสองปันนา เป็นทหารของพระเจ้ากาวิละ ได้ร่วมรบกับพม่า ประมาณปี พ.ศ.๒๓๒๕-๒๓๓๙ ตามคำบอกเล่าสืบกันมา


----------------------


(แหล่งที่มา : ป้ายประวัติศาลาพระเจ้ากาวิละ วัดพระพุทธบาทตากผ้า)



IMG_0326.JPG



ประวัติชาวยองในลำพูน


ชนชาติยอง มีภาษาพูดเป็นของตนเอง มีสำเนียงคล้ายชาวลื้อ สิบสองปันนา และชาวเขิน เชียงตุง ที่เรียกว่า ชาวยอง เพราะอยู่ลุ่มน้ำยอง เรียกว่า เขิน หรือ ขืน เพราะอาศัยอยู่ลุ่มน้ำขืน ที่เรียกเต็มศัพท์ว่า ชาวไทยยอง หรือ ไตยอง เพราะเป็นชนชาติดั้งเดิมของชนชาติไทย ตามพงศาวดารโยนก อาจารย์ไกรศรี นิมมานเหมินทร์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์เมืองเหนือ ได้เล่าว่า


เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๔๘ ปลายรัชกาลที่ ๑ ลำพูนหรือเมืองหริภุญชัย เป็นบ้านร้างเมืองร้างเป็นส่วนมาก มีผู้คนอยู่อาศัยน้อยเต็มที เนื่องจากถูกคุมคามด้วยไข้ทรพิษ ผู้คนได้อพยพไปอยู่ที่อื่นเสียเป็นส่วนมาก วัดวาอารามก็รกร้างว่างเปล่า พระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้ลงไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ และได้กราบทูลว่า ปัจจุบันลำพูนเป็นบ้านร้างเมืองร้างมีผู้คนน้อยเต็มทีจะควรทำอย่างไรดี รัชกาลที่ ๑ ได้ตรัสถามว่า ผู้คนที่มีภาษาพูดพอฟังกันรู้เรื่องได้มีอยู่ไหม พระเจ้ากาวิละได้กราบทูลว่า มี รัชกาลที่ ๑ ทรงตรัสตอบว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไปกวาดต้อนมา


พอพระเจ้ากาวิละกลับถึงเมืองเชียงใหม่ ก็ได้มีพระบัญชาให้ พระมหาอุปราชบุณทวงค์ (บุญมา) พระอนุชาให้ยกทัพไป สิ้นระยะทางเป็นเวลา ๑ เดือน กับ ๒ วัน พอใกล้จะถึงเมืองยอง ก็ได้ตั้งทัพอยู่นอกเมือง แล้วก็ได้ส่งพระราชสาส์นถึงเจ้าหลวงเมืองยองว่า บัดนี้เราพระมหาอุปราชแห่งนครเมืองเชียงใหม่ ได้รับบัญชาจากพระเจ้ากาวิละได้ยกทัพมาถึงนอกเมืองนี้แล้ว จะทำการรบหรือจะยอมสวามิภักดิ์โดยดี


ส่วนเจ้าหลวงเมืองยอง คิดว่าเรามีน้อย ยอมเขาเสียเถิด จึงได้ตอบพระราชสาส์นไปว่า เมืองยองไม่ประสงค์จะทำการรบ ขอให้พระมหาอุปราชยกทัพเข้ามาในเมืองได้เลย เจ้าหลวงเมืองยองได้ถวายน้องสาวร่วมบิดาแต่ต่างมารดาให้เป็นหญิงบาทบริจาค ๑ คน ช้างแก้ว ๑ เชือก และม้าแก้ว ๑ ตัว พระมหาอุปราชพักอยู่ในเมืองยองนาน ๑ เดือน จึงได้เคลื่อนทัพไปตีเมืองยู้ เมืองหลวย
เมืองลวง เมืองวะ เชียงขาง ได้กวาดต้อนเอาผู้คนมา พอกลับมาถึงเมืองยอง ได้ประกาศว่า


บัดนี้เราจะนำเอาพวกท่านทั้งหลายไปอยู่เมืองลำพูน ถ้าใครไม่ไปให้โกนหัวเสีย ผู้คนเมืองยองกลัวจะได้มาเมืองลำพูนกัน ต่างพากันโกนหัวเสียเป็นส่วนมาก คงเหลือแต่เพียงเล็กน้อยที่สมัครใจมา ฝ่ายพระมหาอุปราชคิดว่า ถ้าเราเอาพวกไม่โกนหัวไป ก็จะได้พลเมืองน้อย จึงให้ประกาศใหม่ว่า “พวกไม่โกนหัวไม่เอา พวกนี้หัวแข็ง เราจะเอาคนหัวอ่อน ขี้กลัวนั้นแหละไป พวกนี้ว่าง่ายสอนง่าย” จึงได้พากลับมา ประมาณเดือนหนึ่งมาถึงเมืองลำพูน สมัยนั้นเรียกว่าสมัยเก็บผ้าใส่ซ้า เก็บข้าเข้าเมือง


พระเจ้ากาวิละได้นำผู้คนที่กวาดต้อนมาจากเมืองลวงไปอยู่ที่ดอยสะเก็ด เรียกว่า ลวงเหนือ ลวงใต้ จนถึงปัจจุบัน ส่วนคนเมืองยู้ก็ให้ไปอยู่ที่บ้านยู้ บ้านหลวย ในปัจจุบัน ส่วนคนเมืองยองให้อยู่กระจัดกระจายไปทั่วเมืองลำพูน พระเจ้ากาวิละคิดว่าเจ้าหลวงเมืองยองนี้ดี ยอมสวามิภักดิ์โดยดี จึงได้สร้างเวียงยองขึ้นที่ฝั่งแม่กวงด้านตะวันออกของเมืองลำพูนให้เจ้ายองอยู่ เจ้าก็ให้เป็นเจ้าเหมือนเดิม ปัจจุบันนี้ลำพูนมีประชากรประมาณสี่แสนห้าหมื่นคน เป็นชาวยองประมาณ ๙๐ เปอร์เซ็นต์

----------------------


(แหล่งที่มา : ป้ายประวัติชาวยองในลำพูน วัดพระพุทธบาทตากผ้า)



IMG_0330.JPG



IMG_0338.JPG



อนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ และ พระมหาอุปราชบุณทวงค์ (บุญมา) (เรียงจากซ้าย-ขวา) ประดิษฐานภายใน ศาลาพระเจ้ากาวิละ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0344.JPG



อนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ประดิษฐานภายใน ศาลาพระเจ้ากาวิละ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า



IMG_0343.JPG



อนุสาวรีย์พระมหาอุปราชบุณทวงค์ (บุญมา) ประดิษฐานภายใน ศาลาพระเจ้ากาวิละ บนยอดดอย วัดพระพุทธบาทตากผ้า



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-12-15 01:37 , Processed in 0.101376 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.