- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2013-1-26
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2016-3-21
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 162
- สำคัญ
- 0
- UID
- 10617

|
b" ^' |! I8 q
% B, x# N) n4 M( o: B+ Z Jมีอยู่วันหนึ่งคุยโทรศัพท์ คุยกับคุณAoddy ญาติธรรมฝ่ายเผยแพร่ของผม คุณAoddy ได้ขอให้ช่วยพิสูจน์ทราบว่า ผลบุญจากการบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียน มีบุญอย่างไร และอีกปัญหาหนึ่ง คือ คนไม่กล้าบริจาคดวงตา หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว คือ กลัวเกิดมาตาบอด นี่คือปัญหาที่ตั้งโจทย์ให้ผมช่วยหาคำตอบ4 I [" h3 F5 W" S+ w1 Y
เออ ! คำถามแบบนี้เข้าท่าดีนะ น่าติดตามพิสูจน์ทราบ พอดีคุยกับมารน้อย นึกขึ้นได้ ลองให้มารน้อยนำไปพิสูจน์ทราบแทน ได้ผลมาอย่างไรบ้างขอรายงาน
# w. h# X4 S7 Pมารน้อยเลยขออนุญาตท่านผู้ปกครองอยู่ชั้น 2 ของสวรรค์ดาวดึงส์ ขอช่วยแนะนำหน่อย ท่านเมตตาให้พบรายแรก นางฟ้าชื่อ พิมพกา สมัยยังมีชีวิต บ้านอยู่อยุธยาแถววัดใหญ่ชัยมงคล ท่านบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ ถึงแม้ลูกๆ จะคัดค้านแล้ว กลัวไม่ได้เผาศพแม่ แต่เธอก็ไม่เปลี่ยนใจ ให้บริจาคร่างด้วยเจตนาที่มั่นคง ด้วยเห็นว่าร่างของเราเมื่อตาย เราใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว ถ้าเผาก็แค่ได้กระดูกเหลืออยู่ ไม่มีประโยชน์เลย สู้นำไปให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้จัก เกิดประโยชน์กว่า นี่คือจิตเป็นกุศลที่นางฟ้าท่านนี้ตั้งใจไว้
5 ~# |% ~' R% K" D" ^+ [, Uดังนั้นเมื่อเธอสิ้นชีวิตลง ลูกๆ จึงจำเป็นต้องทำตามเจตนารมณ์ของแม่ที่สั่งไว้ ด้วยผลบุญจากการบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักเรียนแพทย์ได้เรียนนี้ ส่งผลให้วิญญาณของเธอไปจุติที่ชั้นดาวดึงส์ในระดับสูง (หมายความว่า ในสวรรค์ชั้นต่างๆ ก็มีการแบ่งย่อยไปอีก ผู้มีบุญมากก็จะอยู่ในระดับสูงกว่าผู้มีบุญน้อยในสวรรค์ชั้นเดียวกัน) 0 ~ \9 R3 m" [' ~
! C1 L B/ C1 B! ~
หลังจากอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไม่นาน ผลจากการที่เธอตั้งใจปฏิบัติธรรมตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งศีลและภาวนา มีผลในบุญของเธอมากขึ้น จนวิญญาณของเธอเลื่อนไปจุติอยู่ที่สวรรค์ชั้น 3 คือ “ยามา” ชุดเครื่องทรงปกติ ชั้นยามานี้ ชุดจะเป็นสีขาวเงินใสๆ แต่ชุดของนางฟ้าพิมพกานี้พิเศษกว่านางฟ้าในชั้นนี้ ด้วยบุญของการตั้งใจบริจาคร่างเป็นทานความรู้ ชุดของเธอจึงเป็นชุดสีทองใสสว่าง สวยงามมาก
! K1 z0 f$ w5 t! S. h' i& t
. n% C* h& W7 f) f3 Qรายที่สอง เป็นชาย เป็นชาวนนทบุรีตายมา 20 ปีแล้ว เป็นเทวดาอยู่ชั้นดาวดึงส์ ด้วยบุญที่ท่านบริจาคดวงตาไว้เป็นทาน ด้วยจิตที่จะบริจาคตาเพื่อช่วยคนตาบอดให้ได้มีตามองเห็น เพราะตายไปแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร เผาทิ้งไปก็สูญเปล่า ผลบุญนี้ทำให้เทวดาท่านนี้มีดวงตาพิเศษกว่าเทวดาในชั้นเดียวกัน คือมีตาทิพย์มองเห็นทั้งสามโลกได้ ครับที่คนเขากลัวกันนักว่า จะเกิดใหม่ตาบอดถ้าบริจาคดวงตา คิดกันได้อย่างไรหนอ มันคนละกายที่เกิดใหม่ก็คือร่างใหม่ ตาดวงใหม่ ยิ่งส่งผลดีเสียอีก อาจจะกลายเป็นคนตาทิพย์ ตาสวยเสียอีกด้วย เพราะการบริจาคดวงตาเป็นผลบุญยิ่งใหญ่นัก
~/ T8 C# f- |ในการบริจาคร่างกายหรืออวัยวะใดๆ เมื่อสิ้นชีวิตแล้วนั้น ถ้าอยากให้เกิดบุญสูงสุด ต้องคิดให้เป็นวิปัสสนาด้วย คือ คิดว่า ร่างกายนี้ มีแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย เมื่อตายแล้วหาประโยชน์อะไรไม่ได้ ทิ้งไว้ก็เน่าเหม็น เป็นที่น่ารังเกียจ มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น เราจะไม่ยึดติดกับร่างกายเน่าๆนี้ เมื่อตายไปแล้ว ร่างกายทั้งหมด ส่วนใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น เราขอบริจาคให้โดยมิได้คิดผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น คำว่า การมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่เป็นที่ต้องการของเราอีกแล้ว
9 ^$ U! M* g) W. vถ้าเราคิดเพียงว่า การบริจาคร่างกายนี้ให้เป็นผลบุญเกิดกับเราอีก นี่คือการคิดที่เจือกิเลส ผลบุญเกิดแน่นอน แต่น้อยกว่า การคิดบริจาคแบบปล่อยวาง1 M6 B& k- S( {' G- D% ?5 _
* n, P8 ?; y! t' d9 T
สรุป การบริจาคร่างกายหรืออวัยวะใดๆ ก็ตาม ผลบุญกับผู้บริจาคแน่นอน และเน้นย้ำเรื่องการบริจาคดวงตา ท่านไม่ต้องกลัวตาบอดในชาติต่อไป มีแต่ผลบุญบริจาคตานี้ จะทำให้ตาทิพย์ ตาสวยเสียอีกด้วย เข้าใจแล้วนะครับ, n' S% }5 C/ I! ]% P
! i `( B. u* I0 L3 ?& {
! W* C' P+ y m2 i- w
! w; j" K# C/ I5 G
; H6 x# D$ [6 f5 ? T" I' A+ b6 {+ x* P- b# S
- I7 R0 B' F8 }7 V0 M( {
% A# h1 e; k5 v: ]8 Q |
|