ถามเรื่องการอุทิศบุญ

การขออโหสิกรรมแค่คิดยังไม่พอ ต้องขออโหสิกรรมซึ่งหน้ากัน
3 b" r3 a; Q0 k9 V$ Mถาม : กรณีที่เรา..... คิดให้อภัยทานเขาและขอขมาเขา ถือว่าเราทำผิดไหมครับ ?- @6 k7 K! S& s, L+ p% z5 a6 {% {; M  e

  m8 j, Y( _' Z' J' |ตอบ : ผิดตั้งแต่แรกแล้ว ถึงคุณจะตั้งใจอย่างไร ถ้ากรรมนั้นก็ยังไม่หมด แรงกรรมก็ยังส่งไปเรื่อย มีอยู่ทางเดียวคือวางอุเบกขา สงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์ สงเคราะห์ไม่ได้ก็ปล่อยไป ยกเว้นว่าคุณจะไปทำพิธีขออโหสิกรรมซึ่งหน้ากัน ถ้าเขาเอ่ยปากอโหสิแล้วกรรมถึงจะขาดลง ถ้ากระแสกรรมยังไม่ขาด กรรมนั้นก็ตามส่งผลไปเรื่อย
- R" t9 Q( C- l0 xสนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)# B9 l9 x$ E" |( b: q
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๕2 X, k! _4 G  C2 I/ j
) T* a/ e, X# k9 O: z. ~; b! ^
2 ^: O  {0 N3 H3 T

5 K4 Y; `! D* M7 _7 N8 u0 {  q+ k" B+ W2 W9 I5 [
[size=150%]โอวาทธรรม
/ b) \' F, C, [) ?" l- Zของ 8 N: G7 C. C2 F: O2 a
[size=150%]พระราชพรหมยาน1 b2 a- v+ _) b* X9 ^
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) * u0 k, C8 x  Y( h2 g$ \( J
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี
  h: r1 U& l# m  u
# ]6 X5 e- `, R% U7 V   Z1 `, d2 X% y. w+ b
/ H- h3 Q' u" s; m0 A4 w
การอุทิศส่วนกุศล" @) r: M: ?8 I' D, s5 n/ j% F: P
( x. _6 N1 C* F2 s( I: k" v
"หลวงพ่อคะ...ลูกทำสังฆทานให้สัมภเวสี ถ้ากลับไปแล้ว
/ B( {# E  H. \* d* e( \" P# M3 lจะกรวดน้ำได้ไหมคะ...?"# v% L7 v6 I9 b
5 n* z+ X: j. ], k. l( J/ \
การอุทิศส่วนกุศลในพระพุทธศาสนานี่ไม่มีน้ำ1 k& ^" F* Z* w
แต่ที่พระเจ้าพิมพิสารทำเป็นองค์แรก ; ]2 }; K% o( ?7 R
เพราะว่าศาสนาพราหมณ์เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร
; E) n' O' f  J/ eต้องให้คนนั้นแบมือแล้วเอาน้ำราดลงไป
& |# X- V7 ^( E2 S7 p+ D  }4 b3 u1 o
/ x) I! g2 J' p, B/ V& iและตอนที่พระเจ้าพิมพิสารทำ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้าม
1 n# D. ?: ?- Pเวลาที่พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนกุศลต้องใช้น้ำ
" X. T, y* v" k5 Oเพราะว่าท่านเพิ่งพบพระพุทธเจ้า
' r! x7 T. @$ T0 p# Wประเพณีของพราหมณ์ยังชินอยู่ แต่ว่าใจท่านตั้งตรง
# Q) I2 W) w( r: T8 e* r( I* g9 q9 @$ O
เวลาอุทิศส่วนกุศลจริงๆในพระพุทธศาสนาไม่ต้องใ้ช้น้ำ" \7 K$ |- i  r0 t& ~) b3 F6 z
ผีกับเปรตต้องรีบวิ่งกลับเพราะไม่ได้กินแน่ เพราะฉันเคยพบมาแล้ว
: {8 X( C1 _" H5 g4 rแต่ไม่มีน้ำนะ ว่า "อิมินาฯ" เพลินไป ) }. ~8 H" Y1 R0 U% _4 |: R* @: I6 s
ยังไม่ถึงครึ่งก็มีคน ๒ คนถือโซ่คล้องคอปั๊บลากไปเลย9 |' b  D9 V4 Y: M# F* }- X
2 {* z" e; }' G$ u! h% R1 N8 R' A

# o  x% b; D- W! ]6 V
0 |, N- k! F& q+ a' z; ?กรวดน้ำแบบแห้ง9 f' i0 {  i* C7 g$ B# g* x  ?5 l
) }  y8 d9 Y8 [$ F' E$ i, ~" w
"มีบางคนเขาบอกว่า กรวดน้ำแบบแห้ง( j- g; Y! [, _! w% ^: T- q' t- v
ตายไปชาติหน้าจะแห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำ
8 ?7 p8 m9 @; u6 @0 w: Q3 Hโบราณพูดอย่างนี้จะจริงหรือเปล่าคะ...?"
! n- K5 f' X) Q9 c; {
3 e! o& T/ |- d+ [0 Oเขาพูดได้ยินหรือเปล่า? คนที่พูดมาได้ยินหรือเปล่า?
' m9 g1 v0 _% U# i  }; ]6 oคนโบราณพูดอย่างนี้ คนโบราณพูดหรือเปล่า?' o  Y) s0 U" \# |
ถ้าได้ยินแสดงว่า เขาพูดจริงแต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจริง
/ |4 @6 {! J) {7 T! ]. E+ P& h# k
% f- s, [3 O0 C4 dการอุทิศส่วนกุศล พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ใช้น้ำ
: P% f1 ~% p, F& Q; }8 Fฉันใช้น้ำวันเดียว วันบวช ว่าไม่ถูกเลย
; ^3 }0 S. O) \ต้องระวังน้ำหยดอีก ผีไม่ได้กินน้ำ2 V: a! R0 R9 r; K6 E6 H
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันไม่เคยใช้น้ำเลยก็เห็นผีได้รับ$ B, G9 o+ [: N0 u. B) G
แต่ชาติหน้าถ้าจะทำอย่างนั้น ถ้าฉันยังไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน- I- R& w/ S2 s" @, Z3 W- c: c
แต่ไม่เป็นไรนะ กินน้ำเกลือเผื่ออยู่แล้ว เผื่อชาติหน้าจะอด! O. X& J; f* a2 R: ^" H! P

  }$ `8 Q0 z9 a) I"อ๋อ...มิน่าล่ะ...หลวงพ่อถึงให้น้ำเกลือบ่อยๆ"- A6 G( t( D5 ]% c$ Z/ J
ใช่..มีทั้งน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำหวาน เผื่อไว้ตลอด6 y5 m& [, e5 N) F
+ v7 R* O/ @! t6 T0 p' M: c; K
รวมความว่า เวลาจะอุทิศส่วนกุศล ให้ใช้ภาษาไทยสั้นๆ
. w; I( \2 S. d, v* X" dอย่างทำบุญสังฆทาน เราก็ตั้งใจว่า
. J9 ]0 G4 V' S"การบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ผลจะมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด
9 _# Z9 E& _6 [1 n3 u+ ]2 l0 Uขออุทิศส่วนกุศลให้แก่...(บอกชื่อ) * q% I5 r7 ?# V# }) R6 B$ O
ขอให้มาโมทนารับผลเช่นเดียวกับข้าพเจ้า"& }0 {5 R1 k  w$ C% U  S

9 @  @& A( y) z# ?' n% [และตอนที่พระสงฆ์ให้พรนี้ ; g5 w2 X# r- Q
ก็ขอเจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว
( Q+ q$ \7 G/ D- Q/ q8 mตั้งจิตปรารถนาเอาตามประสงค์ . Z3 e# j' l' Q0 b: B: [6 M
# \6 `1 U- N! K+ o7 D
สมมติว่า ท่านทั้งหลายตั้งใจเพื่อ "พระนิพพาน" ' I" S0 r$ K& a3 J1 \
อันนี้ก็ต้องเผื่อด้วยว่า หากสมมติว่าเราตายจากชาตินี้แล้ว* U6 k1 _! ^) L9 ?
ยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงไร
# P: l. Q# g, F& ^9 _5 ]สมมติว่าเราตาย...ถ้าไม่เผื่อไว้ละก็มันจะขลุกขลัก) p% @6 X/ z1 M# s. c5 Y! e, W- Q

  @8 e, t2 o  W5 G7 ]6 C3 sฉะนั้น การอธิษฐานจิต คือ ตั้งอธิษฐานเขาเรีัยกว่า อธิษฐานบารมี
% ^* i7 j' u! j! m* Gเจริญพระกรรมฐานก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี อธิษฐานว่า
3 J5 V* N* F8 ?$ T& L"ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าถึพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้- X6 Y' N2 c4 c6 r5 d
แต่ทว่าถ้าหากข้าพเจ้าไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด! Y% F1 }" E4 y$ D$ |6 d9 Q8 Y! s
จะเกิดใหม่ไปในชาติใดก็ตาม ขอคำว่าไม่มี...จงอย่าปรากฏแก่ข้าพเจ้า"/ l$ [9 Q8 d  {2 _: G# @

2 N+ \* @- E: {% o2 G# {. |% `ถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง. B: ?* M4 {* x) [4 H
จะไม่รวยมากก็ช่าง เท่านี้ก็พอแล้ว
" U2 i/ k' u' J* S' Z( l
8 R( h2 {% r' w / a  q; q. i3 N) b
/ `% `/ z8 U, S8 m+ w+ J( D, a, q
ลืมอุทิศส่วนกุศล 4 O8 D$ `' u8 S& e/ K

- v% L# [# ]3 }# ["เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...?", [$ d7 J5 n- U9 q  z+ ~
การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปีๆ บุญก็ยังอยู่
0 h" V* N7 s, m+ mถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปีก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย
+ M4 d" g! \( U2 Q% Pไม่ใช่เราทำบุญแล้วเดี๋ยวเดียวมันก็หาย ไม่ใช่อย่างนั้นนะ
! x7 s: y# S, [3 R7 o3 d# Q6 ~; b+ ^  M( f; B& g* t
"แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ?"  }* v* d' j- \. F
ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ
, {2 c- m( ^/ l. a1 ?/ B( l; |- X% i0 F( n
แต่อยู่ที่ว่า เราจะให้เขาหรือไม่ให้
9 t$ K5 H% P2 i) ^: C. U6 w6 i. ~% Oการอุทิศส่วนกุศลนี่ถ้าเราไม่ให้เราก็กินคนเดียว ใช่ไหม- n* t" Y7 B% K" ?( ^
ทีนี้ถ้าเราให้เขา ของเราก็ไม่หมด
& o! h, O1 ~( J  {7 R. |อีกส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม
* T; b: I  H4 Y, B% H9 q! ^) `! U8 i. k1 |6 |& m
อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ
! y/ h6 I- }7 I5 ~! M- x- |สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าให้ช้างของมหาเศรษฐี
6 b/ _( A1 C0 _6 G5 I; S8 W- lเวลาที่ทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ
  P1 `6 G/ D/ sท่านก็สงสัยว่า การแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม
: s: Y& M' j& `7 Fจึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ท่านรับบาตรนะ
+ L$ S9 U" l. e& K9 [( E. V3 [
# C/ x' ~9 ~$ K: F2 H4 Fท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า
& B4 Z* U: s5 ]: cสมมติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย
7 d& K/ n1 X3 |1 B5 B" T( Uคนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง
3 q. n. w4 @- {# h0 A# h- L& B& ~ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยม แล้วคบทุกคนก็สว่างไสวหมด$ V( w% b$ V. E/ k7 Z3 Z& n' `
อยากทราบว่า ไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม?, L: T* G6 W; q2 I8 n5 H% c
ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
3 V% \  t4 v  C9 e: e
7 ]& C+ e4 g1 {6 O" S, kแล้วท่านก็บอกว่า การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน
& P. [9 A5 U) y9 s! [3 Vให้เขาอนุโมทนา แต่บุญของเราเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
' j' i( Z' U& M4 e9 o% z2 C
6 |& `9 D  ~. ]  J8 {. M
1 }5 _  o: i( @$ J) s2 j7 C3 e" G  w; N5 x; B7 s
การแผ่ส่วนกุศล
! W% d- q. z$ U+ b+ B- q; Q) {6 f8 F/ G9 O3 M0 N( @3 |( J9 F
"การแผ่ส่วนกุศลไปให้แก่บิดามารดา ท่านจะได้รับผลไหมคะ...?"8 q, T! b' J4 S$ H

! s4 m8 k9 f+ ]( V" g! |7 {การได้รับส่วนกุศลนี่ ถ้าหากท่านมีโอกาสโมทนา ท่านก็ได้รับ7 S. }. v! j0 q7 u- V5 W
ถ้าท่านไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ได้รับ / G) x& z! `0 E$ S

# ~2 }  A( N+ j# |: i0 ]เหมือนเราเอาสิ่งของไปให้แก่ผู้รับเขาไม่รับ เขาจะได้ไหม# X% J$ m* ~/ e* L& w
ถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพาวุธสับฟันทั้งวัน
( i# [1 j% j* z% f" J5 |% P0 lถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขากินได้ไหม?
3 ^* V* \2 F1 i6 L% W"ไม่ได้ค่ะ"
3 U$ {, o3 \1 x8 Z6 {, t/ vอยู่ในแดนเปรต ๑๑ จำพวก ไมไ่ด้รับ
/ U3 a, u. K/ J* V/ {' Cแต่ถ้าเป็นพวกที่ ๑๒ คือ ปรทัตตูปชีวีเปรต พวกนี้มีโอกาสโมทนา* l: v- y: ?* g/ A

/ O& o! E  h6 e, }& W" I( w8 K"แล้วผู้สร้างจะได้ไหมคะ...?"
! T" e4 H! _" H+ _ไม่แน่..ถ้าสร้างดีก็ได้บุญ ถ้าสร้างไม่ดีก็ได้บาป6 r' F+ q' e  V" s) }+ q- m
"เป็นไงคะ...?"
" }8 k4 b# f9 L$ P! e' ~/ \คือ ก่อนจะทำบุญ ก็กินเหล้ากันก่อน พอพระไปก็กินเหล้ากันแล้ว 7 L; a$ @/ y( m( l- Y
ถ้าหากมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีบาป มีแต่บุญ ผู้สร้างได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์2 z. e  o7 u6 R; I5 i7 T) i: X  P" D
คือ บุญนี่จะได้แก่ผู้สร้างก่อน แล้วผู้สร้างอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น- C5 M9 b+ f0 H2 R# A) j* v- @
ถ้าเขามีโอกาสโมทนาก็ได้รับ
: b% {) F: ^! G6 _, `2 g& n
% j6 J0 m) g4 U. y2 Y( `& y 1 g; b/ H5 d3 @* I2 x( p
# j; H4 P5 D7 c6 K+ c& o  F
อุทิศเจาะจง' E; |4 I/ _( @

# S, S9 U; G3 u/ ["ทีนี้การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆที่ตายไปแล้ว% S: g, `( Q8 A% ~2 H! @' b
จำเป็นไหมครับว่าะต้องออกชื่อ รู้สึกว่า มีมากเหลือเกิน"
9 W2 d! J; s% P! z" h" E
& U$ M4 k/ `! h2 @8 Sถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง* v) i0 {7 S, r& S- f7 D3 f8 v
ถ้ากรรมหนาอยู่นิด ถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ* [0 m8 \2 q9 h5 I" N, ?( w
ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวมๆ ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี
; \5 i( @# v# |9 M; _& a; d" jเอายังงี้ดีกว่า ถ้าขืนไล่ชื่อไปน่ากลัวจะไม่จบ
, c$ F2 I2 }# I; T! C: _+ g! P9 I$ G
4 Q: y1 q/ N7 G( `! P, t; f: ]มันมีอยู่คราวหนึ่ง ไปเทศน์กัน ๓ องค์ & m8 r4 {( Y, p" V
บังเอิญที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน
- e; b" I: K& G% K+ v9 U9 \( W! j" c1 iเวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นด้วยรวมแล้ว ๕ องค์0 Q! b. ?/ L& m, X2 t
$ S4 H& G9 U0 e- k- ]* u
ทีนี้ตาทายกเขานำอุทิศส่วนกุศลในวันนั้น แกก็ออกชื่อคนตาย! `7 G1 r. Z( S0 k- V* z
แล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ
$ n3 a% ?6 v1 R7 n6 T' k2 z4 E$ yพวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่
2 `4 F6 Q. h% o3 }9 gไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้วผิวพรรณดีขึ้น
% ^& @( _$ Q. o( K! S9 H" \ไอ้พวกที่ไม่ใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ
5 z, A/ n* F1 n2 M$ g; W7 b9 X/ f7 ^
พอเขานิมนต์ขึ้นไปเทศน์ ! p+ V( K4 M. y2 _5 B
ตอนลงท้ายเขาถามกันว่า การอุทิศส่วนกุศลทำยังไง
4 J. I2 x- ?3 x% O, qองค์ที่มีปากร้ายอยู่สักหน่อยบอกว่า' m; A8 R! {' |
ญาติโยมที่นำอุทิศส่วนกุศล อย่าให้ใจแคบเกินไปนักสิ8 s/ l9 \+ V* p, m! d! `: m
( g: m8 @2 v5 ]# f; N2 l
อย่าลืมว่า การทำบุญแต่ละคราว
2 J% ?$ }  J2 l2 G8 D- Mพวกปรทัตตูปชีวีเปรต ก็ดี พวก สัมภเวสี ก็ดี จะมายืนล้อมรอบ
  K2 `2 I# R. P! d+ Y- Z, y) C0 R% Q/ h2 X  N
อย่างสวดบท อยัญจะโขฯ น่ะ1 S7 C$ ~, P# \1 t4 S: b5 t3 F, R
พวกบรรดาผีทั้งหลายทั่วบริเวณจะคอยโมทนา
% ]( a8 S, C' iแต่ถ้าเราให้แต่ญาติๆก็จะได้% w" Q/ T2 p* D, t6 V
แต่บุคคลอื่นไม่ใช่ญาติจะไม่ได้5 I2 p' N7 U/ E7 L
( ~0 c/ N4 H  h) Y
ฉะนั้นก็ควรจะให้ต่อๆกันไป 2 ?8 F3 f* v. v( y; U
คือว่า ให้ทั้งหมด ทั้งญาติและไม่ใช่ญาติ 0 _# I) t# \  b- z+ L* e

) Z# R5 D8 ~  i- C( y
# R# p4 }5 X2 a- H0 ^/ ~- ~/ l( ~* c; y7 ?- z) l
พุทธานุสติ2 L: H+ e0 e- ^4 J- `

3 g7 y. I. L) b- t" O& k"คนไปนิพพานแล้วอุทิศให้ได้หรือไม่...?"
/ z5 d% e% [, C, f3 y" aได้...แม้แต่พระพุทธเจ้าเราก็ควรอุทิศให้ได้
  b/ g) ?6 y; E+ L1 }เพราะเป็นการสนองคุณ แสดงความกตัญญูกตเวที # ^8 y* Z8 W9 e( `
  ]% \- d3 L4 |, g- T' z
ความจริงท่านไม่ต้องการหรอก ของท่านมีจนล้นแล้ว  j6 _3 c; x$ f
ถึงแม้ท่านจะไม่รับ แต่อย่าลืม อย่างเราเป็นพ่อแม่เขาน่ะ
; S' Z6 k/ ~) j! ~ถ้าไอ้ลูกมันอยู่บ้านไกล นานๆ มาหาที 2 ~7 _6 Y( g5 r2 A: M+ R
เอาของอะไรมาให้ ถึงแม้ของนั้นไม่มีค่าอะไร เราก็ยังดีใจใช่ไหม4 B4 L- X+ W: Q* A
เห็นว่า ลูกน่ะมีน้ำใจ มีกตัญญูรู้คุณ
4 u9 Y. A" N' Y8 p# j. z5 Q6 a8 X. ?# i
อันนี้ก็เหมือนกัน ถ้าหากว่า เราอุทิศส่วนกุศลให้พระพุทธเจ้า6 F- k6 `! c3 y8 b" J
ก็แสดงว่า เรากตัญญูรู้คุณของพระพุทธเจ้า
: n; w$ A6 F& w, R  @: F$ n) C4 C. R* }
การบูชาคุณของพระพุทธเจ้าด้วยความกตัญญูรู้คุณนี่" G- F0 }1 j; j) u  v
เป็นเหตุให้เราไม่ลงนรก
* V7 ]- j# g8 m7 Gท่านจะรับหรือไม่รับนี่ไม่สำคัญ 1 ^0 B) ]/ y7 k7 O' i' b7 q/ }
สำคัญที่ว่า ให้ใจของเราตามระลึกถึงอยู่เสมอก็แล้วกัน% X0 o: ^9 U' m5 B9 ?

1 E/ h8 V5 o9 y, ]7 Q
# k4 h# G0 Y. j9 ~! H% e8 ], Y2 J  W1 F1 g, q! a

( y) M4 Z" H( `/ q5 c. Lคัดลอกเนื้อหาจาก
8 L% @4 W. f1 S/ ?. K- z. s, @5 l' jหนังสือเรื่อง การอุทิศส่วนกุศล หน้าที่ ๓-๙
& U/ Q  H% {' Z! P# F3 W( Qโดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร

อนุโมทนาสาธุครับ คือว่าถ้าเราอุทิศบุญให้ใคร ถ้าเขามีชีวิตอยู่เขาไม่รู้ว่าเราให้ เขาไม่ได้อนุโมทนาบุญก็เท่ากับว่าไม่ได้ใช่ไหมครับ แต่ถ้าเขาไม่มีชีวิตหรือจากไปแล้วก็ได้รับใช่ไหมครับ หรืออยู่ที่ว่าเขาจะรับหรือไม่รับ และสาเหตุอะไรครับที่เปรต ๑๑ จำพวกถึงรับไม่ได้ครับ เขาบาปหนักจนบุญไปไม่ถึงหรือครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุ

ตอบกระทู้ ณัฐดนัย ตั้งกระทู้. R  |  X6 I- o, V4 U6 `$ C0 a8 _9 J

- ^% Z0 }  U% l2 u" yขอโมทนาด้วยครับ  ตอบคุณณัฐดนัย จากประสบการณ์ตรงที่ผ่านมาจากการพิสูจน์ทราบ ผมขอตอบแบบใช้คำไทยกันตรงๆไม่ต้องมีภาษาบาลีกันหละ ผมพบว่าจริงๆแล้วการที่ตัวเราจะอุทิศบุญให้กับผู้ที่มีชีวิตเขาก็รับได้เหมือนกันแต่ เขาไม่สามารถใช้ได้ทันทีบุญที่ได้จะไปรอเขาอยู่ตรงไหนไม่รู้ละ แต่เขายังใช้ไม่ได้โดยทันที แต่หากเป็นการแผ่เมตตาเขาจะรับกระแสเมตตาได้ เช่นภาวนาว่า "จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด" เขาจะรับกระแสนั้นได้ แต่หากเป็นวิญญาณ เขาจะรับและใช้ได้ในทันที โดยการโมทนา ของเขา มีเหมือนกันที่เขาไม่รับบุญจากการอุทิศของเรา  ส่วนเรื่องเปรต๑๑ จำพวก เขาไม่สามารถรับบุญไม่ได้เพราะเขาได้รับความทุกข์ทรามานมาก เหมือนดังช่างตีเหล็กที่ไม่สามารถรอให้เหล็กนั้นเย็นได้ในเวลาตี ต้องทำใหเหล็กร้อนอยู่ตลอกเวลา เหมือนกันกับเปรตที่ได้รับความทุกข์จนจิตของเขาไม่สามารถนึกถึงบุญได้ ไม่มีเวลาโมทนาบุญจากใคร เขาจึงไม่ไดรับบุญ

ตอบกระทู้ ณัฐดนัย ตั้งกระทู้: O# j) e  w' M' u

2 Y  e0 `! i2 ]แล้วถ้าเราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้รับไหมคะ...?9 |+ f$ G3 s! @

( @5 g0 W; N$ M9 c- Dคือว่าอุทิศส่งไปให้เขาจะได้รับหรือไม่ได้ก็ตาม ( i% B: @8 Q* f  N
บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่างๆ ที่เป็นอกุศลที่เราทำไปแล้ว เราไปยั้งมันไม่ได้
" h" d: U! q8 k! S% w/ sแต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีมีกำลังเหนือมันก็กวดไม่ทันเหมือนกัน, O( N* G; j6 T; Z. _" C; k
(หลวงพ่อน่าจะสอนให้รุ้จัก  วางอุเบกขา  ทุกคนย่อมตกอยู่ใต้กฎของกรรม  เราทำบุญย่อมได้บุญแล้ว ถ้าฟุ้งซ่านมากไปกำลังบุญจะลดตัว หลวงพ่อของเรา มีบุญมากมาย  ก็ยังต้องตกอยู่ใต้ กฎของกรรม คือป่วยเป็นปรกติ); ^3 a- O0 C$ g# z. \. S
6 K0 p& Z; W% A

3 V! ?# J3 L+ d/ C0 iสำหรับตอนที่สองให้โมทนา
$ u9 `+ f  t- H; Yท่านบอกว่าเวลาอุทิศอุทิศส่วนกุศลน่ะ ขอบอกให้ผมเป็นพยานด้วย
& J9 ?: B+ p4 N6 ^& t& h& @5 m, eท่านบอกว่าลูกหลานของท่าน ก็คือลูกหลานของผม และมันก็ไม่แน่นักหรอก
2 E) Q! s) Y5 S8 j' V* n& V0 Cบางทีไปอยู่สำนักผมมันอาจจะลืมก็ได้ เขาอาจจะนึกถึงบุญไม่ออก # a$ M  ]) c2 ^* s9 M3 `
ถ้านึกถึงบุญไม่ออก ถ้านึกไม่ออกก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปล่อยให้ตกนรก' w+ P. W# p+ ^. K
หากว่าถาม 3 เที่ยวนึกไม่ออก
: Z0 O' d; x0 f  o1 I$ @ผมจะได้ประกาศว่า นี่เขาเคยบอกฉันไว้ เวลาทำบุญเขาบอกให้ฉันเป็นพยาน
. C5 w  j% V- V" Z3 \* Oแล้วก็ประกาศกุศลนั้น ก็ได้ไปสวรรค์* B* n- Z4 J2 i8 ]

9 C  q" Q. c- A9 H* q3 v8 x( ทีนี้ถ้าคนอุทิศบุญกุศล ฉลาดซักหน่อย  ก็ให้ฝาก ท่านลุงพยายามราชไว้ ถ้าบังเอิญ เขาตาย จะต้องผ่านสำนักพยายม ท่านพยายมราชจะได้เป็นพยานบุญให้ แล้วก็อย่าลืมให้ท่านพยายมราช เป็นพยานบุญของตัวเอง ด้วยนะ ครับ ดูตัวอย่างพระเทวทัต ได้ อภิญญา5  ยังลงอเวจีได้เลย ถ้ายังไม่ได้เป็นพระอริยะเจ้า ก็อย่าประมาท ครับ )
7 r3 n, [. `0 O& w0 v" q2 T% a# H
7 s$ Y+ J# _3 q2 h  f+ J- E. A
การแผ่ส่วนกุศล
4 G; x0 @$ v( `- e7 J) a5 C' c
5 D0 V0 u* D2 \, h" w"การแผ่ส่วนกุศลไปให้แก่บิดามารดา ท่านจะได้รับผลไหมคะ...?"9 j4 h( R  R, B5 ?3 w8 {
. n) i- K3 w" P
การได้รับส่วนกุศลนี่ ถ้าหากท่านมีโอกาสโมทนา ท่านก็ได้รับ
/ F: b  d" a% j1 v( O- x+ hถ้าท่านไม่มีโอกาสโมทนาก็ไม่ได้รับ
" C6 d+ g; }$ i( H: I2 t! o2 L9 m" g$ T, o: U+ g
เหมือนเราเอาสิ่งของไปให้แก่ผู้รับเขาไม่รับ เขาจะได้ไหม
* j* \( H& a- X4 d0 s5 aถ้าพวกเขาอยู่ในนรก ไฟไหม้ทั้งวัน ถูกสรรพาวุธสับฟันทั้งวัน/ Y; W  H5 O' o3 B% I. C% _
ถ้าเราเอาขนมไปให้กิน เขากินได้ไหม?; b3 X' r) H3 F1 |1 i! ^9 s
"ไม่ได้ค่ะ"
% F* H; @2 f6 d, O, [% n$ R(เปรต  11 จำพวก ยังถูกไฟนรก เผาอยู่  ถ้าเราเอาไฟมาเผาตัวเรา   แล้วมีคนเอา ขนมมาให้เรา กิน เราจะกินได้ ไหม ...)7 \: ~5 ~; I; f/ X

3 x* {4 ~% k; ]; u( o2 W( \4 }หมายเหตุ  คัดลอกมาเป็น บางส่วน จาก ข้อมูลที่ลงไว้ ข้างบน  ควรย้อนกลับไปอ่าน ข้อมูล ช้าๆ ให้ละเอียด  จะได้ รับ ข้อมูล ที่ครบถ้วน  คัดลอกมาเพื่อ ตอบ คำถามเป็น ข้อๆๆ ครับ 0 o7 ^9 o4 j) |, V

! g% j% T# t/ m5 m6 }8 A7 L4 n. h  w4 L6 C; Q7 g
& D& {: c, X3 M# @/ N

$ A9 `0 J: a2 o1 D" Z3 w) k0 n
+ L+ @- E; R/ |3 @# O6 T

อนุโมทนาสาธุครับอาจารย์ และอนุโมทนาสาธุท่าน zero ด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุ

ขอถามหน่อยนะคับถ้าเรามีร้านค้านี่เราจะทำการเบิกบุญยังไงให้ได้ผลที่ดีที่สุดคับควรจะกล่าวว่ายังไงดีคับขอคุณมารน้อยช่วยแนะนำหน่อยคับ ขอบพระคุณล่วงหน้าคับ

ตอบกระทู้ ธานินทร์ ตั้งกระทู้
8 z$ B7 P3 d! e& M5 v8 w; D% I( V/ q/ m0 U7 D( U
สวัสดีครับ คุณธานินทร์ ขอบคุณสำหรับคำถามที่ถามมาครับ เรื่องที่ถามมาเกี่ยวกับร้านค้า หรือการค้าขาย เป็นคำถามที่ผมตอบปํญหาไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพย์ โดยทางส่วนตัว หรือเป็นเรื่องของกระทู้ และถูกเชิญไปดูสถานที่มากเป็นอันดับต้นๆก็ว่าได้ เรื่องทำการค้า ทำธุรกิจ ผมเคยลงบทความไว้ที่เวปเวปหนึ่ง ซึ่งพูดถึงการอุทิศบุญว่าเราจะอุทิศบุญให้ใครบ้างเพื่อช่วยในเรื่องการทำการค้าให้เจริญรุ่งเรือง จริงๆแล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก และมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่น วัสดุสิ่งของที่ขาย สถานที่ตั้งร้านค้า อื่นๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเห็นสถานที่จริงถึงจะตอบได้อย่างมั่นใจ   ผมขอตอบแบบรวมก็แล้วกัน ว่าเราจะอุทิศบุญให้ใครบ้างเพื่อทำให้ธุรกิจเราเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป( S8 F4 ?0 A0 Q. I& l  F( m( d
๑. ผู้ที่มีหน้าที่ช่วยเราขายของ คือ ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงในการขายของของเรา เช่น นางกวัก กุมารรักยม ปู่ย่า ตายาย บรรพบุรุษที่ร่วงรับไปแล้ว แล้วกลับมาคอยดูแล้วเรา หรือท่านอื่นๆที่มาช่วยเรา4 D" M( W  v2 {' o
๒.ผู้คุ้มครองดูแลเรา คือผู้ที่คอยปกป้องคุ้มภัยเรา เช่น เทวดาประจำบ้าน ผู้รักษาตัวเรา4 H% V5 Z" W% n  {
๓.ผู้คุ้มครองผู้ที่มาซื้อสินค้าจากเรา  สาเหตุเพราะคนทุกคนจะมีผู้ปกป้องคุมภัยแต่เขาไปที่แหล่งอื่น แล้วเขาไม่ได้บุญจากที่อื่นเลย เมื่อเขามาที่นี่แล้วได้บุญ เขาก็ดลใจให้คนคนที่เขาดูแลมาซื้อสินค้าจากเราอีก
, M3 n0 g' U6 P- {% o1 n๔.ผู้ที่ขัดขวางการค้าขายของเรา ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นนายเวร เพราะเขาอยากให้เราเป็นทุกข์มากกว่าสุขอยู่แล้ว* b4 O1 X1 Q3 G0 T
๕.ผู้ที่พาคนมาซื้อสินค้าจากเรา สาเหตุเมื่อเขาเคยได้เขาก็ต้องพาคนมาอีก
: v4 A3 k/ i- c7 q* W# E2 g) X๖.ผู้ที่ตามสิ้นค้านั้นมา(หากสินค้านั้นมีส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต)
" f& @  n" Y/ ~+ o% F$ kโดยปกติแล้วส่วนใหญ่เราไหวพระแล้วจะขอมากกว่า เช่นวันนี้ขอให้ขายของดีๆ รวยๆ แต่เราไม่เคยเป็นผู้ให้เลย เปรียบไปก็เหมือนเราจ้างพนักงานขายเป็นเงินเดือน เขาก็ขายตามหน้าที่ แต่หากเราให้ค่าคอมฯ พิเศษพนักงานขายเขาอยากขายได้มากๆใช่ไหม  "ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก"

งั้นอธิฐานในใจเบิกบุญว่าอย่างไรดีคับถึงจะครอบคุมหรือว่าให้เบิกบุญให้ทีละอย่างคับ