แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 9838|ตอบ: 21
go

ถามเรื่องการอุทิศบุญ

Rank: 1

yuiflukefo โพสต์เมื่อ 2013-9-3 11:16 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
สงสัยค่ะว่าดวงวิญญาณนายเวรทั้งหลายที่เค้าตามเรานั้นเค้าจะเข้าใจความรู้สึกของเราหรือเรื่องราวในชีวิตประจำวันที่เราดำเนินกันอยู่รึเปล่าคะ เช่นปกติเวลาเราทำบุญหรือสวดมนต์เราก็จะอุทิศบุญให้กับนายเวรตัวเรา เทวดารักษาตัวเรา ไล่ไปเรื่อยๆ ถึงคนในบ้านด้วย ทีนี้ช่วงนี้เราจะอุทิศให้นายเวรแม่เรากับเทวดาแม่เราคนเดียวเนื่องจากช่วงนี้แม่เราป่วยเราก็เลยว่าให้ของแม่ก่อนของตัวไว้ทีหลัง(คิดเองว่าน่าจะเป็นการช่วยแม่ได้อีกทางนึงเพราะให้ทำเองคงยากมาก) ทีนี้นายเวรของเราเค้าจะโกรธมั๊ยหรือคิดยังไงประมาณว่าฉันเคยได้แล้วทำไมไม่ได้หรือเคยให้ฉันอยู่ๆ ทำไมไม่ให้รึเปล่า
2 x' w3 X3 P! e, w4 \4 c8 @: S

Rank: 1

มารน้อย โพสต์เมื่อ 2013-9-3 22:56 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ตอบกระทู้ yuiflukefo ตั้งกระทู้9 w8 O1 w% N" s; j. M
. `+ W- n; p: E4 \- m
สำหรับเรื่องนี้ตอบไม่ยากครับ โดยปกติแล้วการที่ใครสักคนมาจองเวรกันได้ ก็ต้องมีความแค้นต่อกัน ส่วนจากสาเหตุอะไรนั้น ก็แล้วแต่กรรม ที่กระทำไว้  ปกตินายเวรเขาอยากเห็นเราลำบาก ไม่ว่าจะเป็นกาย หรือใจก็ตาม เขาย่อมพึงพอใจอยู่แล้ว เพราะเขามีหน้าที่มาทำให้เราเดือดร้อน ส่วนเราจะอุทิศบุยให้นายเวของแม่จนลืมของเรานั้น อันนี้ไม่สมควร ถ้าใช้การอุทิศบุญให้ไม่ได้ก็เบิกบุญก็ได้นี้

Rank: 1

yuiflukefo โพสต์เมื่อ 2013-9-4 08:01 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
แล้ว  "อุทิศบุญ"  กับ "เบิกบุญ" ต่างกันยังไงคะ  

Rank: 1

มารน้อย โพสต์เมื่อ 2013-9-4 11:56 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ตอบกระทู้ yuiflukefo ตั้งกระทู้5 X( [+ d( @8 j6 ~' l7 J
; i1 }- V! y  e$ t" H* }. L
จากคำถามผมขอตอบแบบนี้ก็แล้วกัน  จากประสบการณ์ที่ผ่ามมา ทำให้ผมได้เข้าใจว่าการ อุทิศบุญ กับการเบิกบุญมีความแตกต่างกัน คือ
6 g& C3 g* k$ _# {; P"อุทิศบุญ" คือ การที่ให้บุญผู้อื่น(ผู้ที่ไม่มีกายหยาบแล้ว) ในขณะที่เรานั้นกำลังสร้างบุญ เช่น ตักบาตร ปล่อยสัตว์ ซื้อของให้แม่ ตักน้ำให้แม่ สวดมนต์ นั่งสมาธิ และอื่นๆมากมาย ในขณะที่เรากำลังสร้างบุญ จะเกิดแสงสีขาวสว่างวาบออกมา จะคงสภาพอยู่ประมาณ ๓ วินาที ระหว่างนี้ให้เราคิดทันทีว่า "บุญนี้ให้แก่...(ผู้ที่เราจะให้)........" บุญที่เราทำก็จะไปถึงผู้ที่เราให้ทันทีแล้วบุญที่ให้เขาจะสะท้อนกลับมาสู่ตัวเราอีกทีหนึ่ง3 s! [9 j& w/ N" |# C8 r
"การเบิกบุญ" คือ การที่เราให้บุญคนอื่นในขณะที่เราไม่ได้สร้างบุญ โดยปกติแล้วบุญที่เราสร้างจะถูกนำไปเก็บ ณ สถานที่หนึ่ง ที่เรียกกันว่าธนาคารบุญ โดยทั่วไปหากเราต้องการเบิกเงินเราต้องไปแจ้งความประสงค์ที่นายธนาคารเพราะนายธนาคารจะมีอำนาจในการเบิกจ่ายเงิน ธนาคารบุญก็เช่นกันเราขะขอเบิกบุญเราก็ต้องแจ้งที่นายธนาคารที่มีอำนาจแทนการเบิกจ่าย นายธนาคารก็จะมีใครละที่จะมีอำนาจ ดัง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  โดยเราอธิฐานว่า "ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาส่งไปยัง...(ผู้ที่เราต้องการให้)....." เท่านี้ก็เสร็จขบวนการ

Rank: 1

ณัฐดนัย โพสต์เมื่อ 2013-9-5 17:13 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ ได้ความรูัอีกแล้วครับ สาธุ

Rank: 1

yuiflukefo โพสต์เมื่อ 2013-9-6 07:47 |แสดงโพสต์ทั้งหมด

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

webmaster โพสต์เมื่อ 2013-9-10 20:20 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
ในการ "เบิกบุญ" ต้องเข้าใจว่า บุญเราไปอยู่ที่ไหน บุญไปอยู่ที่สังสารวัตหน้า หรือภพหน้า เหมือนชาตินี้ เรากินบุญชาติก่อน แล้วบุญก็ฝังอยู่จิตเจตสิกของเรา และบุญก็ถูกบัญทึกใน สามภพ คือ ยมโลก เทวโลก พรหมโลก เช่น ถ้าเราทำบุญด้านกรรมฐาน ก็จะลิ้งค์ไปที่ พรหมโลก โดยมีท่านท้าวมหาพรหมดูแลอยู่ เป็นต้น เพราะฉะนั้นในการจะเบิกบุญต้องอธิษฐานจิตว่า "ขอบุญที่กระทำ ณ โอกาสนี้ ที่จะส่งไปยังภพหน้า จงมาสำเร็จแก่ข้าพเจ้าในชาติปัจจุบันด้วยเทอน" ด้วยการอธิษบานจิตนี้่บุญก็จะส่งกลับมาทำให้เกิดความคล่องตัวปราถนาอะไรสำเร็จ แต่เราเองก็อย่าเบิกจนเพลินไม่ทำต่อหละ ก็ต้องทำต่อยอดให้มากยิ่งขึ้น ...
+ j4 R# o/ \; u; Y
- `7 D4 j- z% `* d7 C5 M  [- i
ส่วนการ "อุทิศบุญ" นั้นเราจะอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรคนอื่นไม่ได้ ตามหลักการคือ เขาไม่รู้จักเรา แล้วจะเอาของที่เราให้ได้อย่างไร เพราะคนที่เขารู้จักคือ แม่เรา เพราะฉะนั้น เราทำบุญต้องบอกให้แม่เรารับรู้ก่อน แล้วให้แม่เราอุทิศต่อ แบบนี้ถึงจะถูก เจ้ากรรมนายเวรของใครของมัน ก็ชดใช้กันไปอุทิศกันไป เหมือนเราเอาเงินให้แม่ แล้วแม่ก็เอาเงินนั้นถือว่าเป็นของแม่ ไปใช้หนี้กับคนที่แม่เป็นหนี้ คือ เจ้ากรรมและนายเวร นั้นเอง ส่วนเจ้ากรรมนายเวรของเรา เราต้องฉลาดหน่อย ต้องอธิษฐานกำหนดจิตบอกว่า "ขอบุญใดที่จะเกิดกับข้าพเจ้ามากน้อยเพียงใด ขอบุญนั้นจงสำเร็จแด่เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าเช่นกัน ขอให้มีความสุข ในทุกๆ ครั้งที่ข้าพเจ้าทำบุญ ถึงแม้จะลืมอุทิศด้วยจิตที่กำหนดในเจตสิกนี้ จงเป็นไปโดยอัตโนมัติ" เมื่อกำหนดแบบนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมอุทิศเพราะเรากำหนดจิตและสั่งจิตล่วงหน้าแล้ว และมั่นดับจิตเจตสิก โดยกำหนดว่า "เนวะสัญญา นาสัญญา ยะตะนะ ข้าพเจ้าไม่ขอมีเวรมีกรรมต่อผู้ใดอีกต่อไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" แบบนี้เรียกว่ากำหนดดับจิตเจตสิก. ^$ q% K" ~- P+ n+ j0 ]4 i7 v2 x0 L% t
% O+ b; k5 B8 L. ~

4 @) k. x; E8 M5 o: J# w5 W3 z/ ~วิธีการดับจิตเจตสิก
3 k. |: D. `6 }, e1 J6 yเวลาเรานั่งๆ ไปก็นึกถึงเวรกรรมที่ได้ทำ แล้วก็กำหนดลบจิตเจตสิกไปว่า
7 `1 U) f) ~7 P% ]7 P+ W# A"เนวะสัญญา นาสัญญา ยะตะนะ ข้าพเจ้าไม่ขอมีเวรมีกรรมต่อผู้ใดอีกต่อไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" ทำแบบนี้จนมันนึกไม่ออกทำยังไงก็นึกไม่ออกแบบนี้ กรรมที่ติดในเจตสิกของเราก็ได้ หายไปแล้วดับไปแล้ว ทำบ่อยๆ ก็มีแต่กรรมดีเข้าสนอง ก็ทำให้เรามีความสุข

; a- B0 K2 U- Y/ w( d3 J

Rank: 1

yuiflukefo โพสต์เมื่อ 2013-9-12 07:37 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
พอดีอ่านในหนังสือเล่มนึึงค่ะเจอศัพท์คำว่า "เชื่อมบุญ"  และ "โอนบุญ"  มีความแตกต่างกับสองอย่างแรกอย่างไรคะ

Rank: 1

ณัฐดนัย โพสต์เมื่อ 2013-9-12 20:40 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
อนุโมทนาสาธุครับ ท่าน webmaster ด้วยครับ สาธุครับ

Rank: 1

zero โพสต์เมื่อ 2013-9-13 01:17 |แสดงโพสต์ทั้งหมด
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ # |! g1 u+ D. \' l4 q
เจ้ากรรมนายเวรหลวงพ่อครับ คำว่าเจ้ากรรมนายเวรนี่หมายถึงใครบ้างครับ...?
! |2 w- v( }4 r6 k$ h- _
' ]) J4 A/ O8 v9 J
เจ้ากรรมนายเวรนี่ตัวตนมันไม่มีหรอก+ @2 O  @6 T# D; @
มันเป็นเรื่องของกรรมที่เป็นอกุศลกรรม ที่เราทำไว้
- Q3 {  E2 W8 k3 X: pตัวจริงที่เราเคยทำเขาไม่มายุ่งกับเราหรอก
, j5 Y) P% Q8 \3 E6 {) G. k* c) @- K- P; k  n6 x. P6 R) G7 c
อย่างเราฆ่าปลาตาย ปลาเขาก็ไม่มายุ่งกับเรา
- |; r4 z& G) ^6 mแต่ปรากฏของกรรมมันเล่นงานเรา ( w) G+ O* B  M* j( G
ถ้าปลานั่งจองเวรคอยลงโทษเราแกก็ไม่ต้องไปเกิดล่ะ* g$ u3 ]. ]8 N! m; d! V: y! d& M

6 F; h. j# R9 S0 q9 K4 @, Zคำว่าเจ้ากรรมนายเวรนี่นะ ถ้าพูดตามส่วนตัวจะว่าไม่มีก็ไม่ได้ " N% L% p% s' k7 i$ L6 M4 L

0 y! V. Q/ X; _! D( Yถ้าหากเราฝึกขั้นสุกขวิปัสสโก เราจะบอกว่าไม่มีตัว เพราะไม่เคยเห็น
: b9 f) ]7 X" gแต่ว่าตั้งแต่ เตวิชโช ขึ้นไปเขาเห็น 5 |6 X/ z# h- Q- K
ต้องพูดตามขั้นนะ ถ้าเราว่ากันตามหนังสือก็คิดว่าจะไม่มี0 ]5 P4 }6 B! A# |; h

: T' e  r; L& b; m9 q......................" z6 x% M! U* Z* f5 g- M' }
4 Z3 }! T, Z1 n+ K6 c
แล้วถ้าเราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้รับไหมคะ...?( P6 O" y$ n+ _/ X  S$ b4 \
0 F. X2 P: B2 S5 N
คือว่าอุทิศส่งไปให้เขาจะได้รับหรือไม่ได้ก็ตาม
' P1 ?/ m9 n% A$ ^% k$ O  ^- \  Gบุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข 2 X3 P% Z. \# p+ A! j
ไอ้กรรมต่างๆ ที่เป็นอกุศลที่เราทำไปแล้ว เราไปยั้งมันไม่ได้ ; W4 A3 [: R& D; C, n4 i  E
แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีมีกำลังเหนือมันก็กวดไม่ทันเหมือนกัน
/ S- H( }2 M) f) a/ u
7 p' ^% K1 W& z" s6 g$ Iสำหรับคำอุทิศส่วนกุศลที่ใช้อยู่เดียวนี้ยาวเหมือนกันแต่ยาวตามที่ท่านบอก
8 N: Z- [* w' z8 ?* Lบทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรก ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรนั่น หลวงพ่อปู่โต มาบอก1 A4 B" Y7 z: e& k) K
แล้วก็บทอุทิศส่วนกุศลอีก 3 ท่อน พระยายมราช มาบอก
+ O" @2 Y* F# B, L
) e9 t0 e" e* L' kสำหรับตอนที่สองให้โมทนา $ m' H" e3 c4 s0 |
ท่านบอกว่าเวลาอุทิศอุทิศส่วนกุศลน่ะ ขอบอกให้ผมเป็นพยานด้วย
; q) r3 p4 h% K$ s& [. R7 T& Xท่านบอกว่าลูกหลานของท่าน ก็คือลูกหลานของผม และมันก็ไม่แน่นักหรอก # f8 m. G* r: y2 k, A8 {2 Z7 T
บางทีไปอยู่สำนักผมมันอาจจะลืมก็ได้ เขาอาจจะนึกถึงบุญไม่ออก ( c7 f  a2 D' n2 R! |& N
ถ้านึกถึงบุญไม่ออก ถ้านึกไม่ออกก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องปล่อยให้ตกนรก
/ g3 `! A% n" G# \% oหากว่าถาม 3 เที่ยวนึกไม่ออก
; \0 _3 \; h- _: D3 uผมจะได้ประกาศว่า นี่เขาเคยบอกฉันไว้ เวลาทำบุญเขาบอกให้ฉันเป็นพยาน 0 f- `" U8 U2 w4 r6 B
แล้วก็ประกาศกุศลนั้น ก็ได้ไปสวรรค์
2 r5 C  ]) x: J- [( P
3 {( J3 Z7 ?1 X# P0 M7 Qนายเวร
* P' M  U2 ^( |เรื่องมันมีอยู่ อย่างพระถูกหอกตาย เรื่องนี้มีอยู่ในพระสูตร คือว่ามันมีอยู่ว่า" a  A9 I  I. p2 Z8 j
พระองค์ ท่านกำลังเย็บจีวร เย็บไปๆ ไอ้ตัวเรือดมันอยู่ในตะเข็บจีวร ท่านไม่เห็น
4 q* g# s7 N/ U# Vเข็มก็ไปทิ่มเรือดตาย อย่างนี้ถือว่าเป็นบาปลงนรกไม่ได้ เพราะเจตนาไม่มี ไม่รู้ว่าอยู่ ใช่ไหม1 u& J* ^0 M  E# m
4 F; B% H7 x6 S$ U  G5 ?
แต่ก็เป็นบังเอิญเมื่อต่างคนต่างตาย เจ้าเรือดก็ตายไปก่อน พระก็อยู่นานไม่ได้หรอกนะ
( d! H; B' v$ J0 ]; yไปเกิดชาติหลังเป็นคนด้วยกันทั้งคู่
  }- n- f$ k7 A  z0 D* _8 q5 C* gเจ้าเรือดไปเกิดเป็นนายพรานป่าฆ่าเนื้อ พระก็ไปเกิดเป็นคน แต่ว่าบวชพระ4 K3 ]. E: V7 ?  T

# P5 z0 a* |- c! W4 K, u' sต่อมาวันหนึ่ง พระเดินสวนทางมาเจอนายพราน เห็นพรานถือหอกเกาะกะๆ   v; Z* }4 g& ?3 }# O, C$ D+ T
ท่านก็นึกหวาดเสียว ดีไม่ดีแกบ้าๆ บวมๆ จิ้มตาย ใช่ไหม ก็เลยหลบเข้าพุ่มไม้$ @. ]: [8 v6 y
พรานแกฆ่าสัตว์ก็จริงแต่จิตแกก็ดี ถือว่าพระเป็นพระ แกเดินมาเข้าไปนึก9 x  M+ n1 N# {# P0 B2 R$ N
เอ๊ะ...พระนี่น่าจะสวนกับเราตอนนี้ เวลานี้ท่านไปไหน * O) M6 O. U$ _& X7 ^) o
หรือบางทีท่านเห็นเราถือหอกเดินมาท่านจะกลัวเรามั้ง ไอ้หอกจัญไร
2 q0 l: N) }3 o0 oพุ่งไว้ตรงนี้ก่อน เลยพุ่งหอกเข้าไปในพุ่มไม้ แล้วเดินไปมือเปล่าไป ; W3 o; M: F' l5 e- R. Q
ไอ้หอกระยำดันจิ้มมาที่อกพระพอดี
9 }* P# ^4 Z9 s# jนี่ไอ้นี่จะถือว่าเป็นกรรมไม่ได้ ต้องถือว่าเป็นเวร
$ s! m) A; k2 y1 z3 ~ถ้ากรรมก็ดึงลงอบายภูมิ นี่เป็นเวรมาสนองกัน* f" Y. @4 w: m5 I

7 ^4 N+ ]% k/ J8 a$ Yโดย ...หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หนังสืออุทิศส่วนกุศล

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-4-19 07:02 , Processed in 0.031281 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.