ความคืบหน้าในการสร้างสำนักสงฆ์ ตามรอยพระพุทธบาท ธุดงคสถาน

	เมื่อวันที่ 1 - 2 พ.ค 53 ที่ผ่านมาทางกลุ่มแดนนิพพาน และคณะกลุ่มคุณศราวุธ ได้ไปเยือนสำนักสงฆ์ ตามรอยพระพุทธบาท ที่ทาง แม่ชีนิ่ม และ พระอาจารย์เดชฤทธิ์ ท่านได้ดูแล และพัฒนา และได้เห็นถึงความคืบหน้า หลังจากที่ไปมาล่าสุดก็ตอนที่ นำผ้าป่าไปทอด ได้งบมาดึงน้ำมาบนเขาเข้ามาที่สำนักสงฆ์ได้แล้ว ขณะนี้ พื้นที่ของสำนักสงฆ์มีเกือบ 70 ไร่แล้ว และได้สร้างกุฏิ เพิ่มขึ้นหลายกุฏิ และตอนนี้กำลังจะทำศาลากลางใว้ปฏิบัติธรรมกัน สภาพแวดล้อมที่สำนักสงฆ์ ร่มรื่นและ น่าปฏิบัติธรรมมากๆ ... และทริปนี้ก็ได้ร่วมทำกิจกรรมพิเศษกับกลุ่มคุณศราวุธ คือ ได้ทำการทำพระบาทจำลองที่ทำมาจากดอกไม้ ถวายเป็นพุทธบูชาอีกด้วย ถือว่าเป็นการเปิดสำนักสงฆ์ และสร้างสัญลักษณ์ แห่งสำนักสงฆ์ขึ้นมา เอาหละลองมาดูภาพบรรยากาศภายรอบบริเวณสำนักสงฆ์ และภาพกิจกรรมที่ทำกันในวันนั้นได้เลย ...

	เริ่มจากการเดินทางไปถึงสำนักสงฆ์ ทางคณะแนนิพพานได้ เดินทางไปถึงสำนักสงฆ์ ตอนกลางคืนประมาณสามทุ่ม ส่วนคณะศราวุธเดินทางมาสมทบ เช้าอีกวัน ... ตอนกลางคืนก็ได้สัมผัสกับความเงียบสงบและได้ดูแสงจันทร์ และดวงดาว และขุนเขา ทำสมาธิรับพลังธรรมชาติ กันพอสมควร นอนกลางแจ้งได้บรรยากาศมาก ...

	พอมีเนื้อที่เยอะแล้วก็สามารถสร้างกุฎิใว้สำหรับผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมได้ หลายหลังเลยทีเดียว กุฎิกลางจะเป็นโรงครัวและจะเป็นที่พักรวมได้ และด้านหลังจะลานปฏิบัติธรรมใว้นั่งกรรมฐาน โดยจะหันหาเข้าภูเขาใหญ่ และข้างบนก็เป็นถ้ำแสงจันทร์ นั่งกรรมฐานที่นั้น ซึมซับพลังของธรรมชาติได้ดีมาก

	ศาลากลางใว้ปฏิบัติทำวัดสวดมนต์ภาวนา ตอนนี้จะทำการขยายให้รองรับคนให้เยอะกว่าเดิม

	วัสดุที่นำมาทำกุฎิส่วนใหญ่จะทำให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ใช้ญ้าคาและไม้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้งบประมาณในการสร้างไม่แพง

	ทางสำนักสงฆ์ยังทำพื้นที่ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ์ และเน้นการรักษาสภาพผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ และพยายามไม่ตัดต้นไม้ ถือว่าเราเป็นผู้อาศัย ธรรมชาติและผืนมาป่า มิใช่เข้ามาเพื่อทำลายป่า เพราะต้นไม้แต่ละต้นกว่าจะโตได้ใช้เวลาหลายปี คนเราเข้าไปตัดทำลายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็ตัดทำลายได้ในแต่ละต้น ถ้าใช้เครื่องตัดแล้วหละก็ทำลายง่ายเลย แบบนี้ถือว่า ไม่เคารพสถานที่เจ้าป่าเจ้าเขาและสิ่งศักสิทธิ์ โดยเฉพาะรุกขเทวา

	ส่วนทางเข้ามายังสำนักสงฆ์ขณะนี้ต้องใช้งบประมาณในการพัฒนาทางจำนวนมากโดยเฉพาะทางข้ามน้ำก่อนจะถึงสำนักสงฆ์ จะต้องทำเป็นฝายกันน้ำ คอนกรีตอย่างดีเลย ถ้าไม่ทำถึงเวลาน้ำหลากมาจะเดินทางเข้ามาสำนักสงฆ์ยากมาก จะเห็นเป็นทางน้ำใหลจากต้นน้ำมาเมือน้ำหลากถ้าไม่มีฝายกั้นน้ำก็จะลำบากในการข้ามไปยังสำนักสงฆ์

	เมื่อถึงสำนักสงฆ์แล้วก็จะพบกับป้ายชื่อสำนักสงฆ์ ทางเข้าก็จะเป็นลักษณะดินทรายซึ่งด้านล่างจะแน่นไม่เป็นโคลนทำให้สามารถฝ่าเข้ามาได้ไม่ยาก

	ส่วนห้องน้ำขณะทางสำนักสงฆ์ก็มีห้องน้ำแค่สองห้องยังขาดปัจจัยมาทำเพื่อใว้รองรับ ผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมเป็นหมู่คณะ เรื่องน้ำก็ไม่มีปัญหาแล้วเพราะดึงน้ำมาจากตาน้ำโดยตรง

	ส่วนผู้ที่จะมาพักปฏิบัติธรรมนั้น ก็จะมีทั้งกุฎิและเต้นสนามให้ได้ใช้กัน ทางเราพร้อมบริการ ให้ความสะดวกให้ท่านที่มาปฏิบัติธรรมได้ สัมผัสกับธรรมชาติแห่งขุนเขา